ร้านอาหารค่ายเล็ก-ค่ายใหญ่ ชี้มาตรการเยียวยาไม่ตอบโจทย์ หลังแบกรับค่าใช้จ่ายหนัก วอนรัฐบาลปรับการสื่อสาร เร่งปูพรมฉีดวัคซีน ก่อนที่จะยื้อไม่ไหว
วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจ มีมติจ่ายเงินพิเศษเยียวยา “คนงาน-ร้านอาหาร” ในพื้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ นนทบุรี สมุทรสาคร ระยะเวลา 1 เดือน ทั้งคนที่อยู่ใน และนอกระบบประกันสังคม หัวละ 2,000 บาท โดยใช้เงินกู้โควิด 4,000 ล้านบาท-เงินประกันสังคม 3,500 ล้านบาท
ราชกิจจาฯ ประกาศ คำสั่งล็อกดาวน์กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 4 จังหวัดภาคใต้ มีผล 28 มิ.ย.
นางสาวนัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของร้านอาหารโคคาฯ, แม็งโก้ทรี และข้าวหม้อใหม่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” มาตรการจ่ายเงินพิเศษเพื่อช่วยเยียวยาร้านอาหาร ยังไม่ตอบโจทย์มากนัก ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรทำตั้งแต่แรก แต่การแก้ปัญหาก็ยังไม่ตรงจุด มาตรการกึ่งล๊อกดาวน์เหมือนลงโทษหมู่ เพื่อต้องการควบคุมโรคระบาด แต่ในทางกลับกันธุรกิจร้านอาหารไม่เคยกลายเป็นคลัสเตอร์ แต่ต้องมาโดนปิดทุกครั้ง และรอบนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะโดนปิด ถ้าหากรัฐบาลยังไม่สามารถปูพรมฉีดวัคซีนได้ทั่วถึง และสิ่งที่รัฐบาลควรปรับปรุงอย่างเร่งด่วนคือการสื่อสารควรชัดเจนและต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการให้มีประสิทธิภาพกว่านี้
เช่นเดียวกับ นายกุลวัชร ภูริชยวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชนัน จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารจานด่วนญี่ปุ่น “โชนัน” (ChouNan) เปิดเผยว่า วันนี้ร้านอาหารไม่มีทางออก ต้องปฏิบัติตามมาตรการรัฐบาล แม้มีมาตรการออกมาเยียวยา แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ตรงจุดเพราะไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งที่ร้านอาหารต้องแบกรับ คือ แคชโฟลว์ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเช่าพื้นที่ และต่อรองการจ่ายกับซัพพลายเออร์ ทุกร้านกังวลเรื่องแคชโฟลว์ เพราะการระบาดลากยาวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว พอจะเริ่มดีขึ้นก็มาสะดุด หลายๆแบรนด์อาจจะยื้อกันไม่ไหว
สำหรับโชนัน ได้ปรับตัวหันมาโฟกัสช่องทางซื้อกลับบ้านและดีลิเวอรี่ ส่วนวอลุ่มการซื้อก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนเข้ามาเดินในศูนย์การค้า มองว่าอาทิตย์แรกหลังจากมีการล็อกดาวน์ บวกกับตัวเลขคนติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ผู้คนเริ่มตื่นกลัว ไม่กล้าออกจากบ้าน และยังกังวลคือเรื่องการปิดรอบนี้ ไม่น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย และมองว่ามาตรการล็อกดาวน์ เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทางออกเดียวตอนนี้คือเร่งปูพรมฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด
ด้าน นายณัฐพล กัปปิยจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีโอสุกี้ไทยเรสเทอรองส์ จำกัด เจ้าของร้านอาหาร “นีโอสุกี้” ระบุว่า มาตรการเยียวยาที่รัฐบาลชดเชยให้ลูกจ้างเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท จากเดิมที่ประกันสังคมจ่ายให้ 50% ของค่าแรง มองว่าไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร เนื่องจากผู้ประกอบการยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้ง ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ โดยอยากให้ช่วยเรื่อง การพักชำระหนี้ ทั้งส่วนของเงินต้น และดอกเบี้ย ครั้งนี้กระทบหนัก เพราะที่ผ่านมาอนุญาตให้เปิดนั่ง 21% ไปถึง 50% สักพักกลับมาปิดอีกแล้ว วันนี้ผู้ประกอบการรายเล็กหนักสุด เพราะเริ่มขาดสภาพคล่องมาตั้งแต่การระบาดรอบแรก
อีกทั้งยังต้องระมัดระวังสภาพคล่อง อะไรที่ไม่จำเป็นต้องจ่าย ต้องขอเลื่อนกับซัพพลายเออร์ การระบาดรอบที่ 3 หนักกว่ารอบที่ผ่านมา คู่ค้าทุกรายโดนหนักหมดและกระทบมาเป็นลูกโซ่ ในมุมร้านอาหารตอนนี้เราไม่มีความเชื่อมั่นกับรัฐบาล ตั้งแต่ประกาศมาไม่เคยมี commitment เราต้องพึ่งพาตัวเอง
นายธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ก่อตั้ง บริษัท บริษัท เพนกวินกรุ๊ป จำกัด ให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า เห็นด้วยกับมาตรการเยียวยา เพราะเป็นข้อเรียกร้องมาตลอด อย่างน้อยก็ทำให้เชนร้านอาหาร มีเงินจ่ายพนักงานและทำให้อยากสู้ต่ออีก 30 วัน ขณะเดียวกัน ยังต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ เรื่องการเจรจาต่อรองกับเจ้าของพื้นที่ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
สุดท้ายอยากฝากถึงการทำงานของรัฐบาล ว่า ก่อนออกมาตรการ ควรคิดแผนเยียวยา ไม่ใช่รอให้ผู้ประกอบการออกมาเรียกร้อง มีบทเรียนผ่านมา 4 รอบแล้ว การทำงานก็ยังเป็นแบบเดิม อีกทั้งมาตรการล๊อกดาวน์ เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด และไม่ได้ช่วยให้ผู้ติดเชื้อลดลง เพราะผู้ติดเชื้อไม่ได้เกิดจากร้านอาหาร
อ่านข่าวต้นฉบับ: เจ้าของร้านอาหารโอด รัฐจ่ายหัวละ 2,000 บาท แก้ไม่ตรงจุด จี้ฉีดวัคซีน
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวธุรกิจ #ธุรกิจ-การตลาด