แรงงานต่างด้าวทะลักชายแดน เดือน ต.ค.ลอบเข้าไทยกว่าหมื่นคน เมียนมากว่าครึ่ง ตามด้วยกัมพูชา สปป.ลาว รมว.แรงงาน ตั้งทีมลุยตรวจไซต์ก่อสร้าง-โรงงาน ตั้งแต่ 1 พ.ย. เผยโควิดคลี่คลาย โรงงานเร่งผลิตวิกฤตขาดแคลนแรงงานหนัก กระทุ้งรัฐเร่งนำเข้าแรงงานภายใต้ MOU หลังชงแผนตั้งแต่เดือน ก.ย. แต่ค้างเติ่งต้องรอ ศบค.เคาะ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แม้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยจำเป็นต้องใช้แรงงานข้ามชาติ แต่ต้องใช้อย่างเหมาะสม และนำเข้าอย่างถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ กลุ่มแรงงานข้ามชาติรายเดิมตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2563, มติ ครม. วันที่ 13 ก.ค. 2564 และมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2564 รวมถึงกลุ่มคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมา กัมพูชา และ สปป.ลาว) ที่ใบอนุญาตทำงานสิ้นสุดโดยผลของกฎหมาย ได้เปิดโอกาสให้นายจ้างดำเนินการขออนุญาตทำงานให้แรงงานสามารถทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถอยู่ทำงานจนถึงวันที่ 13 ก.พ. 2566 โดยได้รับสิทธิการคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ใช้แรงงานเถื่อนเจอโทษหนัก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย เพื่อเข้ามาทำงานในจังหวัดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง และการเคลื่อนแรงงานโดยผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงระบุว่า ตั้งแต่ 1-31 ต.ค. 2564 มีจำนวนผู้หลบหนีเข้าเมืองตามชายแดนไทยทั้งสิ้น 10,870 คน แบ่งเป็นสัญชาติเมียนมา 5,782 คน, กัมพูชา 3,692 คน, สปป.ลาว 726 คน
ตอนนี้กระทรวงแรงงานเตือนนายจ้าง/สถานประกอบการ ไม่ให้รับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงานโดยผิดกฎหมาย หากฝ่าฝืนมีความผิด และต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด โดยนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงาน โดยไม่มีใบอนุญาตมีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท ต่อลูกจ้างต่างด้าว 1 คน หรือจ้างโดยไม่มีใบอนุญาต
หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท ทั้งยังถูกส่งตัวกลับ และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี
ลุยตรวจไซต์ก่อสร้าง-โรงงาน
ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงาน ยังได้สั่งการให้กรมการจัดหางาน (กกจ.) ลุยตรวจใบอนุญาตแรงงานข้ามชาติในสถานที่ก่อสร้าง, สถานประกอบการ โรงงาน และสถานที่ทำงานเป็นระยะเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 เป็นต้นไป หากพบไม่มีใบอนุญาตทำงานให้จับขึ้นทะเบียนทันที
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวเสริมว่า ตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนดแรงงานต่างด้าวที่ดำเนินการครบขั้นตอน สามารถอยู่และทำงานจนถึงวันที่ 13 ก.พ. 2566 ยกเว้นกลุ่ม MOU ที่ได้รับการอนุญาตให้อยู่ และทำงานได้อีกไม่เกิน 2 ปี นับจากสิทธิเดิมสิ้นสุด
นอกจากนี้ ยังมีการขยายระยะเวลาการหานายจ้างรายใหม่ จากเดิมภายใน 30 วัน เป็น 60 วัน นับแต่วันที่เลิกทำงานกับนายจ้างรายเดิม โดยอนุญาตให้ทำงานเท่าสิทธิเดิมคือวันที่ 13 ก.พ. 2566
รอ ศบค.เคาะนำเข้าตาม MOU
สำหรับการนำเข้าแรงงานภายใต้ MOU เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะจัดกลุ่มนำเข้าแรงงาน โดยจะมีการฉีดวัคซีน มีการคัดกรอง, กักตัวอย่างเป็นระบบ ซึ่งกำหนดไว้ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลสถานการณ์การจ้างแรงงานต่างด้าวของสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางานประจำเดือน ก.ย. 2564 ระบุว่ามีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานทั่วไทยอย่างถูกกฎหมายจำนวนทั้งสิ้น 2,374,501 คน
ส่วนแนวทางการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจาก 3 ประเทศ (เมียนมา, กัมพูชา และ สปป.ลาว) ภายใต้ MOU มีจำนวน 50,000-80,000 คน โดยประเภทกิจการที่มีความต้องการจ้างแรงงานข้ามชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ 1.เกษตรและปศุสัตว์ 2.ก่อสร้าง 3.บริการ 4.เกษตรต่อเนื่อง 5.ผลิตหรือจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป
ขณะที่จังหวัดที่มีความต้องการจ้างแรงงานข้ามชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ เชียงใหม่, กรุงเทพมหานคร, จันทบุรี, สมุทรสาคร และระยองตามลำดับ
แรงงานเมียนมาทะลักเข้าไทย
ด้านนายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การขาดแคลนแรงงานในประเทศไทยขณะนี้รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย นักธุรกิจ นักลงทุนไทยเตรียมผลิตสินค้ารองรับออร์เดอร์จากต่างประเทศและในประเทศมากขึ้น
ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ทยอยเดินทางเข้ามาในประเทศมากขึ้น แม้หลายประเทศยังกังวลการแพร่ระบาดของโควิด อย่างนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก
ข้อมูลจากหอการค้าไทยระบุว่า ขณะนี้สถานประกอบการตั้งแต่ภาคกลางไปจนถึงภาคใต้ต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้แรงงานจากเมียนมาทะลักเข้ามาในประเทศ ส่วนใหญ่แอบลักลอบเข้ามาโดยขบวนการขนแรงงานเถื่อน
สาเหตุมาจาก 1.ไทยมีความต้องการแรงงานสูง 2.ความไม่สงบภายในประเทศเมียนมา 3.การแพร่ระบาดของโควิดเป็นตัวเร่ง เนื่องจากระบบสาธารณสุขของไทยดีกว่าเมียนมา ประชาชนเมียนมาคิดว่าจะมีความปลอดภัยและได้รับการดูแลดีกว่า ยังไม่นับเรื่องค่าแรง และสวัสดิการที่ดีกว่า
เป้าหมายหลักไม่ใช่มาทำงานเฉพาะในกาญจนบุรี แต่ส่วนใหญ่จะไปอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก ในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเล อุตสาหกรรมแปรรูปอื่น ๆ
เสนอตั้งด่านกักโรคชายแดน
ขณะเดียวกันการเปิดประเทศส่งผลทางอ้อมให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนในทางตรงคือไทยมีอุตสาหกรรมการผลิตอาหารลำดับต้น ๆ ของโลก ต้องเตรียมผลิตสินค้า แรงงานจึงขาดแคลนมาตลอด
ก่อนหน้านี้หอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เสนอว่าให้เปิดด่านกักโรค และทำวันสต็อปโควิด-19 ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อลดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง ลดปัญหาการนำโรคเข้าประเทศ โดยเลือกสถานที่ตั้งบริเวณด่านชายแดนแม่สอด กาญจนบุรี ชุมพร ระนอง หรือจังหวัดติดเขตชายแดนไทย-เมียนมา ให้มีโรงพยาบาลสนามอย่างน้อย 1,000 เตียง ให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข แรงงานจะได้เข้ามาโดยถูกกฎหมาย ช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แต่ไม่ได้รับการสนองตอบจากภาครัฐ
หอการค้าตากจี้รัฐจัดการ
ขณะที่นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดตากไม่มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน แต่แรงงานที่ลักลอบเข้ามาจะไปทำงานในพื้นที่อื่น โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล กระทรวงแรงงานน่าจะเร่งแก้ปัญหา และกำหนดนโยบายเปิดรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ อยากให้โรงงานแต่ละแห่งที่ต้องการแรงงานต่างด้าวไปรับแรงงานที่ผ่านชายแดนเข้ามาด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานจากเมียนมา สปป.ลาว หรือกัมพูชา จากนั้นให้ไปกักตัวคัดกรองโรคตามมาตรการด้านสาธารณสุข อาทิ อยู่ในแฟกตอรี่ควอรันทีน ทำบับเบิลแอนด์ซีล เป็นต้น
โดยวิธีการดังกล่าวนอกจากจะทำให้แรงงานที่ต้องถูกกักตัวในพื้นที่ชายแดนลดน้อยลง ลดความวิตกกังวลของคนในพื้นที่แล้ว การท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนก็จะไม่ถูกกระทบเหมือนที่ผ่านมา
อ่านข่าวต้นฉบับ: แรงงานเถื่อนทะลักชายแดน บุกตรวจไซต์ก่อสร้าง-โรงงาน
Link : Read More
Tags : #ข่าวสังคม #ความรับผิดชอบต่อสังคม