กลุ่มหุ้นเคป็อปทำผลตอบแทนไม่ค่อยสู้ดี และมูลค่าทางการตลาดที่ลดลง ตั้งแต่ต้นปี 2024 แต่ทาง Goldman Sachs กลับมองเห็นถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมนี้
The post หุ้นเคป็อปร่วงระนาว แต่ Goldman Sachs ชี้ฟื้นตัวจากยอดผู้ชมคอนเสิร์ต appeared first on BT beartai.
กลุ่มหุ้นในอุตสาหกรรมเคป็อปทำผลตอบแทนไม่ค่อยสู้ดี ตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งนำโดยหุ้นเจวายพีเอนเตอร์เทนเมนต์ (JYP Entertainment) ที่เป็นผู้นำในการขาดทุนครั้งนี้ และสูญเสียมูลค่าตลาดมากถึงหนึ่งในสาม แต่ทางโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) กลับมองเห็นถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมนี้ จากยอดคอนเสิร์ตที่มีผู้ชมเพิ่มขึ้น
Minji NewJeans แชมป์ไอดอลหญิงเคป๊อป ที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2023
ทำไมหุ้นเคป็อปถึงน่าสนใจ สำหรับนักลงทุน
เพราะวงการเคป็อป ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดและสร้างรายได้สูงสุดให้แก่ประเทศเกาหลีใต้ โดยการเติบโตของอุตสาหกรรมเคป็อปนี้ เกิดจากการผลักดันด้านซอฟต์พาวเวอร์อย่างจริงจังของภาครัฐ จนทำให้เกิดกระแสความคลั่งไคล้ K-POP ไปทั่วโลก
ซึ่งเรียกว่า กระแสฮันรยู หรือ คลื่นวัฒนธรรมเกาหลี ที่ขยายวงอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วโลก จนทำให้วงการเพลง ซีรีส์ และภาพยนตร์ กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเกาหลี
ด้วยแรงผลักดันนี้เอง ทำให้เพลงเคป็อป มียอดผู้เข้าชมและยอดจำหน่ายสูง จนเรียกได้ว่า มักจะเห็นเพลงเกาหลีติดชาร์ต Billboard Hot 100 ของอเมริกาอยู่เสมอ ๆ
สถานการณ์หุ้นบิ๊กโฟร์ K-POP
หุ้นของ 4 บริษัทใหญ่ ของเคป็อป ซึ่งจดทะเบียนในดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ร่วงลงทั้งหมด เมื่อเทียบเป็นรายปี YTD (Year To Date) โดยหุ้นของ JYP Entertainment ลดลงกว่า 37% ในขณะที่ YG Entertainment ค่ายแม่ของสาว ๆ BLACKPINK ร่วงเกือบ 17%
ขณะที่หุ้นบริษัท Hybe ซึ่งเป็นค่ายของซุปเปอร์สตาร์ BTS และไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป Newjeans ลดลงเล็กน้อยประมาณ 4.5%
และสุดท้าย หุ้นของ SM Entertainment ร่วงลงกว่า 17% ซึ่งคาดว่าเกิดจาก ดราม่าเกี่ยวกับคาริน่า (KARINA) นักร้องและนักเต้นชาวเกาหลีใต้ ผู้เป็นลีดเดอร์แห่งวง aespa ที่มีข่าวการเดทกับ อีแจอุค ดาราหนุ่ม ทำให้มูลค่าทางการตลาดของ SM หายไปกว่า 50 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1,835 ล้านบาท) เนื่องจากมีแฟน ๆ ชาวจีน ขู่ว่าจะคว่ำบาตรอัลบั้มของวง aespa
การประเมินบริษัทใหม่จาก Goldman Sachs
อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า ทางบริษัทได้มองเห็นศักยภาพสูงในการประเมินมูลค่าใหม่ของพวกบริษัทเหล่านี้ เนื่องจาก บริษัทเคป็อปต่าง ๆ ยังคงให้ผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องหลายปี สำหรับปี 2023 ซึ่งทั้ง 4 บริษัท (JYP Entertainment, YG Entertainment, Hybe, SM Entertainment) มีการประกาศรายได้ทั้งปีและกำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้น
โกลด์แมน แซคส์ วิเคราะห์ว่า รายได้หลักของบริษัทนั้นเชื่อมโยงกับการขายอัลบั้มของศิลปิน ซึ่งในอดีต ยอดขายอัลบั้มถือเป็นตัวชี้วัด สำหรับจำนวนแฟนคลับ และโอกาสของบริษัทในการผลิตสินค้าขายภายหลัง
แต่ในปัจจุบัน โกลด์แมน แซคส์ ท้าทายกรอบความคิดกระแสหลักข้างต้น โดยยกการประเมินบริษัทจาก ผู้ชมคอนเสิร์ตออฟไลน์ มาเป็นตัวชี้วัดแทนยอดขายอัลบั้ม เพราะยอดขายอัลบั้มไม่อาจบ่งบอกได้ถึงจำนวนแฟนคลับแท้จริง ซึ่งแฟนคลับคนหนึ่ง สามารถซื้อหลายอัลบั้ม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในกลุ่มแฟนคลับเคป็อป
อีกเหตุผลคือ ยอดขายอัลบั้มที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่เกิดโรคระบาด เนื่องจากขาดการโต้ตอบแบบออฟไลน์ ซึ่งทำให้การวัดผลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฟนคลับอาจบิดเบือนไป จึงต้องวัดผลจากยอดผู้เข้าร่วมคอนเสิร์ตแทน
เหตุผลปัจจัยบวก Goldman Sachs
ผู้ชมในญี่ปุ่นเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดย Hybe, SM และ JYP ครองส่วนแบ่ง 7% ของตลาดดนตรีสด, คอนเสิร์ตในญี่ปุ่น
ซึ่ง โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ชมคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นแบบทบต้น 24% จะส่งผลให้ตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2026 ส่วนแบ่งของ Hybe, JYP และ SM รวมกันจะเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 7% เป็น 14%
มีความมั่นใจต่อการเติบโตของฐานแฟนเพลงเคป็อปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา
ธุรกิจเคป็อป กำลังกลายเป็นกระแสหลักทั่วโลก ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มอำนาจต่อรองแข็งแกร่งขึ้นในความสัมพันธ์ทางธุรกิจ จากตัวอย่างของบริษัท Hybe ยังได้ประกาศว่าจะขยายความร่วมมือกับ Universal Music Group รวมถึงสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวสำหรับศิลปินและค่ายเพลงของ Hybe โดย Universal Music Group คือค่ายที่จัดการสัญญาลิขสิทธฺ์เพลงให้กับศิลปินหลายคน ได้แก่ Taylor Swift, Ariana Grande และ Justin Bieber
The post หุ้นเคป็อปร่วงระนาว แต่ Goldman Sachs ชี้ฟื้นตัวจากยอดผู้ชมคอนเสิร์ต appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/