กระทรวงการคลัง เตรียมปลดล็อก คนละครึ่ง เฟส 3 เพื่อนำไปจ่ายบริการ ฟู้ด เดลิเวอรี่
วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 คลังโอนเงินให้ 3,000 บาท แบ่งการโอนเป็น 2 รอบ ดังนี้
รอบที่ 1 : 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2564 รับโอนเงิน 1,500 บาท
รอบที่ 2 : 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2564 รับโอนเงิน 1,500 บาท
จากข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 21.4 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 33,061 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 16,713 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 16,348 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบกลางเพื่อให้ผู้ให้บริการ Food Delivery Platform (ฟู้ดเดลิเวอรี่) สามารถเชื่อมต่อกับระบบของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยการสั่งอาหารผ่าน Food Delivery Platformได้ เพื่อเป็นการตรวจสอบการทำธุรกรรมและป้องกันการใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ของโครงการซึ่งอาจจะกลายเป็นเรื่องทุจริตได้
ทั้งนี้ ในลำดับถัดไปกระทรวงการคลังจะหารือในรายละเอียดรวมทั้งเงื่อนไขต่างๆ กับผู้ให้บริการ Food Delivery Platform โดยเร็วซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการพัฒนาและทดสอบระบบอีกระยะหนึ่ง ดังนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีการอนุญาตให้มีการสั่งอาหารผ่าน Food Delivery Platform
สำหรับกรณีที่ผู้ให้บริการ Food Delivery Platform รายหนึ่งที่มีการเชิญชวนให้ร้านค้าและประชาชนทำผิดเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 กระทรวงการคลังได้แจ้งให้ผู้ให้บริการดังกล่าวยุติการดำเนินการที่ผิดเงื่อนไขแล้ว และกระทรวงการคลังได้รับแจ้งว่า ผู้ให้บริการดังกล่าวจะให้ความร่วมมือกับกระทรวงการคลังในการยุติการดำเนินการ โดยจะมีการหารือเพื่อดำเนินการเชื่อมต่อกับระบบของกระทรวงการคลังให้ถูกต้องต่อไป
โฆษกกระทรวงการคลังได้ย้ำว่า กระทรวงการคลังจะเร่งดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสั่งอาหารผ่าน Food Delivery Platform ภายใต้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เกิดขึ้นได้โดยเร็ว เพื่อให้การใช้จ่ายภายใต้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโควิด-19
FILE PHOTO : Mladen ANTONOV / AFPแฟ้มภาพ
อ่านข่าวต้นฉบับ: คนละครึ่ง เฟส 3 คลังเตรียมระบบสแกนจ่าย สั่งฟู้ดเดลิเวอรี่
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #IT Techonogy #ข่าวไอที