ว่ากันถึงแฟรนไชส์หนังชุด ‘Saw’ สิ่งที่เป็นภาพจำที่สุดหาใช่เนื้อเรื่องหรือความฉลาดของบทอย่างที่มันควรจะเป็นและสานต่อจากหนังภาคแรกที่กำกับโดยเจมส์ วาน (James Wan) ไม่แต่มันคือภาพการทรมานสุดโหดจนทำให้โลกรู้จักหนังอีกแขนงอย่างแนวทรมานบันเทิง (Torture Porn) ที่เน้นสนองความพึงใจของคนดูที่จะได้เน้นเนื้อหนัง อวัยวะถูกดึงทึ้งฉีกขาดและเลือดไหลเป็นสายน้ำและ ‘Spiral’ ก็ดูจะสานต่อความโหดนั้นมาอย่างว่านอนสอนง่าย
The post [รีวิว] Spiral เกมลอกอำมหิต – โหดเน้นสะดุ้ง ตุ้งแช่เป็นตรุษจีน appeared first on #beartai.
ว่ากันถึงแฟรนไชส์หนังชุด ‘Saw’ สิ่งที่เป็นภาพจำที่สุดหาใช่เนื้อเรื่องหรือความฉลาดของบทอย่างที่มันควรจะเป็นและสานต่อจากหนังภาคแรกที่กำกับโดยเจมส์ วาน (James Wan) ไม่แต่มันคือภาพการทรมานสุดโหดจนทำให้โลกรู้จักหนังอีกแขนงอย่างแนวทรมานบันเทิง (Torture Porn) ที่เน้นสนองความพึงใจของคนดูที่จะได้เน้นเนื้อหนัง อวัยวะถูกดึงทึ้งฉีกขาดและเลือดไหลเป็นสายน้ำและ ‘Spiral’ ก็ดูจะสานต่อความโหดนั้นมาอย่างว่านอนสอนง่าย
หนังเปิดเรื่องด้วยการจับตำรวจคนหนึ่งมาทรมานของฆาตกรรายใหม่ที่ใส่หน้ากากหมูพร้อมคลิปวีดีโอให้เลือกเอาชีวิตตนไว้โดยให้สละลิ้นที่ถูกตรึงอยู่หรือยอมให้รถไฟปะทะร่างให้แหลกซึ่งมันก็จบลงด้วยโศกนาฏกรรมอันสะเทือนขวัญซึ่งเหยื่อก็ดันเกี่ยวพันกับซีค (คริส ร็อค Chris Rock) นายตำรวจตงฉินลูกชายของอดีตตำรวจระดับตำนาน ที่จากบทสนทนาระหว่างเขากับสารวัตรแองจี การ์ซา (มาริซอล นิโคลส์ Marisol Nichols) สารวัตรคนสวยประจำสถานีก็ทำให้รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตำรวจคนอื่น ๆ มีแต่ความตึงเครียดด้วยเหตุการณ์ในอดีตแต่คราวนี้ซีคต้องมาจับคู่กับวิลเลียม (แม็กซ์ มิงเกลลา Max Minghella) ตำรวจน้องใหม่เพื่อตามหาฆาตกรสังหารตำรวจรายนี้
จะว่าไปแล้วไอเดียตั้งต้นของ ‘Spiral’ น่าสนใจตรงที่คราวนี้โปรดิวเซอร์ที่ทำคลอดหนังอย่างคริส ร็อคให้ฆาตกรเลือกเหยื่อเป็นตำรวจเลวแทนที่จะเป็นคนธรรมดาที่ไม่รู้คุณค่าของชีวิตเหมือนหนังในแฟรนไชส์ ‘Saw’ ทั้งหลายควบคู่ไปกับการผูกปมและทิ้งเศษขนมปังไว้รายทางว่าฆาตกรคือใครผสมกับเรื่องราวในอดีตที่ตัวละครอย่างซีคได้ร่วมเป็นพยานรู้เห็นความฉ้อฉลในกรมตำรวจจนนำไปสู่ตอนจบหักมุม
รวมไปถึงการเล่าเรื่องคู่ขนานทั้งความสัมพันธ์ของซีคกับพ่ออย่าง มาร์คัส แบงค์ส (รับบทโดยแซมมวล แอล แจ็กสัน Samuel L. Jackson) ที่เคยคุมสน.และจัดการเรื่องการเมืองในสน.จนเกิดเป็นแผลในความสัมพันธ์กับตำรวจคนอื่นรวมไปถึงแรงจูงใจของฆาตกรที่เกี่ยวข้องกับอดีตคู่หูของซีคที่เคยก่อกรรมทำชั่วเอาไว้และซีคก็เคยจับเข้าคุกมาแล้วมาเป็นตัวล่อหลอกในช่วงท้ายของหนัง
แต่แล้วความชาญฉลาดของพลอตก็ถูกบ่อนทำลายไปเรื่อย ๆ ตามนาทีของหนังที่เพิ่มมากขึ้นที่บ่งชี้ว่า ดาเรน ลินน์ เบาส์แมน (Darren Lyn Bousman)ที่แม้จะทำหนัง ‘Saw’ มา 3 ภาค (ภาค 2-4) แต่ก็ไม่อาจคุมทิศทางหนังได้อยู่มือทั้งแอ็กติงสุดโอเวอร์ของคริส ร็อคที่ดูจะพยายามเหลือเกินที่จะสลัดภาพนักแสดงตลกไปให้ได้และพยายามทำท่าเต๊ะจุ๊ยขรึมเครียดที่ดูแล้วฮากว่าเดิม หรือจะเป็นการแคสต์สาวสวยอย่างมาริซอล นิโคลส์มาเป็นสารวัตรประจำกรมตำรวจซึ่งความสวยของเธอไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนะครับ
แต่มันดูแหม่ง ๆ ทันทีเมื่อหนังตัดเข้าแฟลชแบ็กแล้วงานเมคอัพก็อัปความฮาให้หนังเข้าไปอีกขั้นนอกจากจัดแต่งทรงผมให้สารวัตรคนสวยเราเหมือนซื้อวิกแล้วไม่ได้ลองที่ร้านแล้วบรรดาหนวดปลอมที่ติดให้ทั้งหน้าคริส ร็อคและแซมมวล แอล แจ็กสันก็ยิ่งดูปลอมเข้าไปอีก จนแอบคิดว่าเออหรือมันจะเป็นธีมหนังว่าด้วยอะไรปลอม ๆ เหมือนจิ๊กซอว์ตัวปลอมงี้ป่ะ…ฮ่าาาา
อ่ะไม่ต้องไปตาผีจับผิดหนังแบบย่อหน้าที่แล้วก็ได้ ทีนี้มาลองดูสิ่งที่เราต่างคาดหวังจากแฟรนไชส์ชุดนี้กันอย่างเรื่องของความระทึก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นผลจากการรีบู๊ตครั้งนี้หรือเปล่าเพราะหนังมาทางตุ้งแช่ซะจนนึกว่าคริส ร็อกอยากจัดงานตรุษจีนมากกว่าสานต่อแฟรนไชส์หนังโหดซะอีก ซึ่งบางจังหวะนี่สะดุ้งแรงจริง ๆ นะครับเล่นซะน้ำอัดลมสาดใส่ตัวเป็นสงกรานต์เลยซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการจับเหยื่อแต่ละครั้งที่จะต้องเน้นให้สะดุ้งตกใจ
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่การจับกุมตำรวจก็แน่นอนว่ามันจะต้องเต็มไปด้วยมุมกล้องหลอกทางแล้วโผล่ข้างหลังมาเอาพลาสติกคลุมหัวไปยันกางพลาสติกแล้วคลุมหน้าจากด้านข้างของเฟรมซึ่งหนังก็ดูเอาจริงเอาจังกับการคลุมหน้ามากเหมือนจะคารวะวีรกรรมตำรวจบ้านเราซะอย่างงั้น แต่พอหนังตัดเข้าไปฉากทรมานก็เหมือนเราได้ดูหนังฉายซ้ำโดยเฉพาะกับดักคลุมหัวหรือการตรึงร่างกายไว้ที่สูงจะมีครีเอทีฟหน่อยก็เครื่องบดขวดแล้วเอาพัดลมเป่าให้กลายเป็นเศษแก้วปลิวไปปักตัวเหยื่อแต่ผลลัพธ์ของอาการเบือนหน้าหนีด้วยความสยดสยองกลับได้ไม่ถึงครึ่งของหนังต้นฉบับด้วยซ้ำ
ทีนี้มาถึงส่วนสุดท้ายคือการหักมุมอันนี้ตอบแบบไม่สปอยล์เลยว่าใครที่ดู ‘Saw’ มาทุกภาคหรือดูหนังหักมุมมาบ้างในชีวิตก็คงเดาได้ไม่ยากเลย ซึ่งบทหนังก็กลัวคนดูไม่รู้หรือยังไงไม่ทราบเล่นให้ฆาตกรพูดคีย์เวิร์ดซะชัดจนแทบจะไม่ต้องดูหนังให้จบก็ได้ทั้งที่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งเรื่อง มิหนำซ้ำเหยื่อบางคนก็ดูจะไม่สมควรถูกลงโทษเพียงเพราะแค่เป็น “ผู้มีส่วนรู้เห็น” ซะด้วยซ้ำ ที่สำคัญคือตัวฆาตกรเองก็ไม่ได้น่าจดจำเหมือนจิ๊กซอว์ต้นฉบับที่ดูมีมิติมากกว่า (แต่ก็นั่นแหละหนังทั้งเรื่องก็หามิติของตัวละครอื่น ๆ ไม่เจอเหมือนกัน ฮาาาาา)
ท้ายสุดแล้วหากมองว่าบทหนังต้องการตีแผ่ด้านมืดในแวดวงผู้รักษากฎหมายมันก็มีหลายอย่างที่เราดูแล้วน่าคิดตามไม่น้อยทั้งการยัดข้อหาหรือผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งมองมุมนึงก็เป็นการตีแผ่ความชั่วในวงการตำรวจแต่อีกด้านเมื่อมองความเป็นจริงแล้วนิวโลว์ของตำรวจในโลกความเป็นจริงเลวร้ายกว่าหนังซะจนเราชินชาไปหมด หรือที่จริงไม่ใช่ความผิดของหนังหรอก แต่เราเห็นวีรกรรมตำรวจที่อำมหิตกว่าเหยื่อในหนังมาเยอะเกินไปจนสิ่งที่เห็นในหนังธรรมดาไปเลยก็ไม่รู้นะครับ
The post [รีวิว] Spiral เกมลอกอำมหิต – โหดเน้นสะดุ้ง ตุ้งแช่เป็นตรุษจีน appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/