กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า การอนุมัติให้ซาอุดิอาระเบียซื้ออาวุธที่สหรัฐฯผลิต ถือเป็นการช่วยพัฒนาความมั่นคงในฐานะมิตรประเทศ
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 อัลจาซีร่า รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯได้อนุมัติการขายขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ (AAM) มูลค่า 650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 21,645 ล้านบาท ให้กับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ทำสัญญาซื้อขายอาวุธครั้งใหญ่กับซาอุดิอาระเบีย
ในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้อนุมัติการขายอาวุธ เพื่อช่วยทางการซาอุดิอาระเบียตอบโต้ภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและอนาคต
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเผยด้วยว่า การเสนอขายอาวุธครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และความมั่นคงของสหรัฐฯ ด้วยการช่วยพัฒนาความมั่นคงให้กับมิตรประเทศ ซึ่งยังคงเป็นกำลังสำคัญต่อความก้าวหน้าทางการเมืองและเศรษฐกิจในตะวันออกกลาง
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุด้วยว่า “เรย์เธียน” บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ จะเป็นผู้รับจ้างโดยตรงในการขายขีปนาวุธอากาศสู่อากาศเกินระยะตามองเห็น AIM-120C-7/C-8 และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
การขายขีปนาวุธดังกล่าวมีขึ้นหลายเดือนหลังประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า สหรัฐฯจะยุติปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อช่วยซาอุดิอาระเบียในเยเมน ซึ่งรวมถึงการขายอาวุธที่เกี่ยวข้องด้วย
กรมกิจการการเมือง-ทหาร กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯทวีตข้อความในวันเดียวกันว่า ขีปนาวุธเหล่านี้ไม่ได้ใช้เพื่อโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน
“เราเห็นการโจมตีข้ามพรมแดนพุ่งเป้าซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา” แถลงการณ์ระบุ
ขีปนาวุธ AIM-120C จะถูกติดตามบนเครื่องบินของซาอุดิอาระเบีย เพื่อเป็นเครื่องมือในการสกัดกั้นการโจมตี ซึ่งทำให้กองกำลังและพลเมืองของสหรัฐฯกว่า 7 หมื่นคนในซาอุดิอาระเบีย ตกอยู่ในความเสี่ยง
การขายอาวุธดังกล่าวไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถขัดขวางข้อตกลงนี้ได้ ด้วยการผ่านร่างกฎหมายในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร
การขายขีปนาวุธครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯอนุมัติข้อตกลงบำรุงรักษาเฮลิคอปเตอร์ มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 16,645 ล้านบาท กับซาอุดิอาระเบีย เมื่อเดือนกันยายน
หลังมีการเผยแพร่ข้อตกลงครั้งล่าสุดกับซาอุดิอาระเบีย มีการวิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวางในสหรัฐ
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ” มารีแอนน์ วิลเลียมสัน นักเขียนและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทวีตข้อความดังกล่าว พร้อมปิดท้ายด้วยว่า “เศรษฐกิจของอเมริกาไม่ควรถูกสร้างขึ้นจากการค้าความตาย”
ระหว่างเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ไบเดนตำหนิซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับสงครามเยเมน ตลอดจนการสังหาร จามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย สังกัดวอชิงตันโพสต์ โดยครั้งนั้นไบเดนเรียกซาอุดิอาระเบียว่า “พวกนอกคอก”
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การขายขีปนาวุธอากาศสู่อากาศครั้งนี้ สอดคล้องกับคำมั่นที่ฝ่ายบริหารเคยให้ไว้ว่า จะใช้วิธีทางการทูตเพื่อนำไปสู่การยุติความขัดแย้งในเยเมน ขณะเดียวกันก็ได้สร้างความมั่นใจว่าซาอุดิอาระเบียจะสามารถป้องกันตนเองจากการโจมตีทางอากาศของกลุ่มกบฏฮูธิ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
การแทรกแซงของซาอุดิอาระเบียในเยเมน เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2558 โดยซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรในภูมิภาคเริ่มปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตีใส่กลุ่มกบฏฮูธิ ที่เข้ายึดครองกรุงซานาและพื้นที่จำนวนมากในเยเมน
ซาอุดิอาระเบียถือว่าฮูธิเป็นตัวแทนของอิหร่าน แต่ทั้งสองฝ่ายปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ขณะที่สงครามดังกล่าวได้ทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ และองค์การสหประชาชาติระบุเมื่อปีที่แล้วว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 233,000 ราย จากความขัดแย้งครั้งนี้
ท่ามกลางการโจมตีข้ามพรมแดนที่เพิ่มขึ้น ซาอุดิอาระเบียได้เสนอการหยุดยิงในเยเมนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่กลุ่มกบฏปฏิเสธรับข้อเสนอ
“ซาอุดี อารัมโก” กำไรพุ่ง อานิสงส์น้ำมันโลกฟื้นตัว
โอเปกพลัส คงแผนผลิตน้ำมัน เมินข้อเรียกร้องสหรัฐ
อ่านข่าวต้นฉบับ: สหรัฐฯ ขายขีปนาวุธให้ ซาอุดิอาระเบีย มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวรอบโลก