คอลัมน์ สถานีลงทุน
สวภพ ยนต์ศรี
บลจ.ทิสโก้
นับตั้งแต่ปี 1980 หรือกว่า 40 ปีที่แล้ว จีนได้ใช้นโยบาย one-child policy เพื่อควบคุมจำนวนประชากรด้วยการอนุญาตให้ครอบครัวชาวจีนสามารถมีลูกได้เพียงแค่คนเดียว ต่อมาในปี 2015 ได้ทำการผ่อนปรนด้วยนโยบายลูก 2 คน จนกระทั่งล่าสุดในปี 2021 รัฐบาลจีนได้ทำการประกาศผ่อนปรนนโยบายควบคุมจำนวนประชากรอีกครั้งด้วยนโยบายลูก 3 คน
ซึ่งประกอบกับการดำเนินนโยบายปรับเปลี่ยนรูปแบบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคของประชากรในประเทศมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของจีนจนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจใหม่ของโลก
การใช้นโยบายลูก 3 คนในครั้งนี้ จึงมาพร้อมกับโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญในธีมการบริโภคของจีน ซึ่งจากเดิมที่มีพลังการบริโภคจำนวนมหาศาลอยู่แล้วจากประชากรจำนวนเกือบ 1,400 ล้านคน บวกกับโอกาสที่มาพร้อมการเพิ่มพลังการบริโภคจากนโยบายลูก 3 คน การลงทุนในธีมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคของจีน จึงถือว่าพลาดไม่ได้อย่างยิ่ง
โดยหุ้นที่อยู่ในหมวดการบริโภคนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม consumer staples ซึ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น เสื้อผ้า อาหาร สบู่ ทิสชู ยาสีฟัน และกลุ่ม consumer discretionary ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องประดับ รวมถึงบริษัทในกลุ่ม e-Commerce ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน
และจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลจีน ไม่เพียงแต่หวังจะให้จำนวนประชากรมีอัตราที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ในช่วงที่ผ่านมายังเน้นหนักไปที่การกำจัดความยากจนและการเพิ่มรายได้ของประชากรด้วย เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยของประชากรที่เปิดเผยโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ได้ระบุว่า
รายได้เฉลี่ยต่อคนที่หักลบปัจจัยทางด้านราคาออกแล้วนั้นอยู่ที่ 32,189 หยวนในปี 2020 และเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วงจากปี 2010 หรือในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้น เมื่อมองไปที่โอกาสการลงทุนในหมวดสินค้าบริโภคของจีนนั้น กลุ่มสินค้า consumer discretionary จึงน่าจะมีโอกาสเติบโตได้ดีมากกว่าในอนาคต จากประชากรจีนที่มีจำนวนมหาศาล และการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่จะยิ่งสนับสนุนการเติบโตของกลุ่ม consumer discretionary มากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เมื่อเทียบกับตัวเราเองหากเรามีรายได้เพิ่มมากขึ้น จำนวนเงินที่จ่ายให้กับสินค้าที่อยู่ในหมวด consumer staples อาจจะเท่าเดิม แต่ยิ่งรายได้ของเราเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่จำนวนเงินที่ใช้จ่ายไปกับสินค้าหมวด consumer discretionary ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งหุ้นของบริษัทที่อยู่ในกลุ่ม consumer discretionary ของจีนนั้นมีความหลากหลายและน่าสนใจ ยกตัวอย่างที่เราน่าจะรู้จักกันดี คือบริษัทที่ทำธุรกิจ e-Commerce อย่าง Alibaba หรือ JD.com
นอกจากนั้นแล้วยังมีอีกหลายบริษัทที่มีความน่าสนใจลงทุน เช่น บริษัท Pinduoduo ที่ทำธุรกิจ e-Commerce ด้วยกลยุทธ์รูปแบบใหม่จนก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Alibaba โดย Pinduoduo พึ่งจะก่อตั้งขึ้นในปี 2015 แต่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคน ด้วยการใช้รูปแบบ social shopping ในการดึงดูดผู้ใช้ผ่านฟีเจอร์เด่น ๆ เช่น การให้ผู้สั่งซื้อที่ไม่รู้จักกันรวมตัวกันสั่งสินค้าชนิดเดียวกันเพื่อจะได้ราคาที่ถูกกว่า หรือการให้ส่วนลดและคะแนนกับผู้ใช้ที่แนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักให้มาใช้งาน
นอกจากนี้ยังมีบริษัท Meituan ที่เริ่มต้นจากการเป็นเพียงแค่แอปพลิเคชั่นรีวิวร้านอาหาร จนพัฒนากลายมาเป็น lifestyle platform ที่สามารถใช้บริการได้หลากหลายและครบวงจรตั้งแต่การสั่งอาหาร ส่งของ จองโรงแรม โดยปัจจุบันแอป Meituan มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 570 ล้านคน
อีกหนึ่งบริษัทที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม consumer discretionary ของจีนที่กำลังเติบโตและเข้ากับเทรนด์พลังงานสะอาดที่กำลังมาแรงทั่วโลกก็คือ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Nio ที่ได้ชื่อว่าเป็น Tesla ของจีน ซึ่ง Nio คือบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายแรกของจีนที่นำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อ-ขายในตลาดหุ้นสหรัฐ
โดย Nio มาพร้อมกับความแตกต่างกับ Tesla ด้วยเทคโนโลยี battery swap ที่สามารถใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของรถยนต์แทนการชาร์จพลังงานไฟฟ้าผ่านแท่นชาร์จ
และยังมีแบรนด์เสื้อผ้าของจีนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้และมีความน่าสนใจ คือ Anta Sports แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาที่กำลังมาแรงอย่างมากในจีน โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา มียอดขายกว่า 34,400 ล้านหยวน และส่วนแบ่งการตลาดในจีนก็เป็นรองแบรนด์ชื่อดังระดับโลกเพียงแค่ Nike และ adidas เท่านั้น
ซึ่งจะเห็นว่าบริษัทในกลุ่ม consumer discretionary ของจีนเหล่านี้ กำลังมีโอกาสเติบโตอย่างมากไปพร้อมกับพลังการบริโภคของชาวจีนที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยนักลงทุนที่กำลังมองหาธีมการลงทุนที่สอดรับไปกับการปรับเปลี่ยนนโยบายควบคุมประชากรของรัฐบาลจีนอีกหนึ่งครั้งสำคัญในรอบกว่า 40 ปีนั้น การลงทุนในกลุ่ม consumer discretionary ของจีนน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
อ่านข่าวต้นฉบับ: ธีมการลงทุนรับนโยบายลูก 3 คน เมื่อมังกรจีนเพิ่มพลังการบริโภค
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน