“เอเซีย พลัส” เล็งปรับเป้ากำไร บจ.ปี’64 หลังผลประกอบการ 9 เดือนมีแนวโน้มดีกว่าคาด พร้อมประเมินปีหน้า 3 กลุ่ม “ก่อสร้าง-พาณิชย์-อาหาร” ฟื้นโดดเด่นรับปัจจัยบวก “เปิดประเทศ-เศรษฐกิจฟื้น-กระจายวัคซีนดีขึ้น” ส่วนกลุ่ม “ท่องเที่ยว-ขนส่ง” ยังแย่ ฟาก “สภาธุรกิจตลาดทุนไทย” มองหุ้นไทยมีโอกาสอัพไซด์ต่อเนื่อง เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า จากการประเมินกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 2565 โดยแบ่งรายกลุ่ม (sector) คาดว่ากลุ่มที่จะมีการฟื้นตัวจากปี 2564 และคาดการณ์ผลประกอบการจะออกมาดี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก
ซึ่ง 3 กลุ่มหลักที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีที่สุด ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เติบโต 113% ต่อปี รองลงมาจะเป็นกลุ่มพาณิชย์ เติบโต 61% ตามด้วยกลุ่มอาหาร เติบโต 56%
“3 กลุ่มนี้มีปัจจัยจากภายในประเทศฐานที่ต่ำ และเป็นกลุ่มที่กำไรในปี 2564 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากการเปิดประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการกระจายวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว รวมถึงการบริโภคและการลงทุนที่มีแนวโน้มดีขึ้น จะหนุนให้กำไรของกลุ่มเหล่านี้ฟื้นตัว
ส่วนกลุ่มพลังงานที่่เป็นกลุ่มขนาดใหญ่มองว่าปีหน้าจะโต 12% โดยราคาน้ำมันดิบในปีหน้าจะยังอยู่ในขาขึ้น แต่เนื่องจากในปีนี้ที่ราคาปรับขึ้นมาแรงทำให้ฐานในปี 2564 ค่อนข้างสูง อาจส่งผลให้ปีหน้ากำไรอาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปีนี้” นายฐกฤตกล่าว
ส่วน บจ.กลุ่มที่คาดว่ากำไรน่าจะยังติดลบหรือขาดทุน จะเป็น 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มขนส่ง ซึ่งยังมีการฟื้นตัวช้าเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆที่มีการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก โดยคาดการณ์ว่าปีหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวยังคงต่ำ
นายฐกฤตกล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นช่วงการประกาศงบดุลของ บจ.งวดไตรมาส 3/2564 อยู่ น่าจะประกาศกันครบทุกบริษัทราวกลางเดือน พ.ย.นี้ แต่เบื้องต้นจากที่ประกาศแล้วประมาณ 80 บริษัท ตัวเลขออกมาค่อนข้างดีกว่าที่คาด โดยหลายบริษัทมีการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นได้อีก จากปัจจุบันที่คาดการณ์กำไร บจ.ปีนี้อยู่ที่ 8.45 แสนล้านบาท
โดยในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมากำไรรวมอยู่ที่ประมาณ 7.3 แสนล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 4 มองว่ามีโอกาสที่กำไรจะโตดีขึ้นจากประมาณการเดิม ซึ่งต้องรอการประกาศงบไตรมาส 3 ให้ครบก่อนซึ่งถ้ากำไรออกมาดีกว่าคาดจริงจะหนุนให้กำไร บจ.ปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.9 บาทต่อหุ้น และจะเป็นปัจจัยบวกที่เข้าไปหนุนดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปรับเพิ่มขึ้น 19 จุด
“ปีนี้เรายังคงเป้าดัชนีแนวต้านสำคัญที่ 1,660 จุด ซึ่งอยู่ภายใต้การคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) บจ.ทั้งปีอยู่ที่ 73.6 บาทต่อหุ้น แต่หาก EPS ออกมาดีกว่าคาดจะหนุนให้ดัชนี SET บวกขึ้นไป 18-19 จุดได้ ส่วนในปีหน้าคาดการณ์ EPS ที่ 80 บาทต่อหุ้น และเป้าดัชนีที่ 1,816 จุด แต่ทั้งนี้ตลาดก็ยังมีโอกาสอัพไซด์ขึ้นไปได้อีก แต่ต้องรอการประกาศงบไตรมาส 3 ให้ครบก่อน” นายฐกฤตกล่าว
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า จากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ม.ค. 2564) อยู่ที่ระดับ 168.69 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.2% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก” ซึ่งนักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
“เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสอัพไซด์อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากตลาดยังมีสภาพคล่องที่สูงและไม่มีปัญหาเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหมือนที่หลาย ๆ ประเทศกำลังเผชิญ และผลประกอบการของ บจ.ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงการกระจายฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นก็เป็นส่วนสำคัญให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสไปต่อ” นายไพบูลย์กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับ: “เอเซียพลัส” จ่อปรับกำไรบจ. เก็งปีหน้า 3 เซ็กเตอร์ฟื้นเด่น
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน