ค่าเงินบาทอ่อนค่า ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ จับตาข้อมูลการจ้างงานสหรัฐ ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.67–33.81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 33.78/81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวการณ์เคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 ว่าค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/9) ที่ระดับ 33.65/67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (1/10) ที่ระดับ 33.60/62 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากสหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นดีกว่าที่คาดการณ์ อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2534
และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนสิงหาคมสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.2% ส่งผลให้ตลาดมีมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ อาจเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังประธานเฟดแสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงกว่าที่เคยประเมินไว้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศนั้น คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทาง กนง.ประเมินไตรมาส 3 เป็นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจซึ่งจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และมีการคงประมาณการอัตราการขยายตัวของจีดีพีปีนี้ที่ 0.7% และเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปี 2565 เป็นเติบโต 3.9% จากที่เคยคาดไว้ที่ 3.7%
ขณะที่เห็นว่ามาตรการด้านการเงินจะมีประสิทธิผลมากกว่าการลดดอกเบี้ย กนง.ระบุว่าการกระจายวัคซีนและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคจะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ในปี 2565 เศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศและการกลับมาของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.67–33.81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.78/81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (4/10) ที่ระดับ 1.1590/92 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (1/10) ที่ระดับ 1.1583/85 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินจากการพักฐานหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้นักลงทุนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้สหรัฐที่อาจจะก่อให้เกิด Government Shutdown ในกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1588–1.1619 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1609/11 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (4/10) ที่ระดับ 110.97/99 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (1/10) ที่ระดับ 111.13/15 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
โดยค่าเงินเยนได้รับแรงหนุนหลังจาก นายฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น จากการได้รับเลือกจากรัฐสภาในการประชุมวาระพิเศษ และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีให้มาทำหน้าที่ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมเตรียมเดินหน้านโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ประสบภาวะตกต่ำ
โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 110.89–111.27 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.23/26 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และตัวเลขชี้วัดตลาดแรงงานอื่น ๆ อาทิ อัตราเงินเฟ้อ ตัวเลขค่าจ้าง ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือน ก.ย. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ส.ค. และ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.25/+0.35 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +1.85/+2.70 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
อ่านข่าวต้นฉบับ: เงินบาทอ่อนค่า ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ จับตาข้อมูลการจ้างงานสหรัฐ
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน