กรมชลประทานเปิดศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล จ.อุบลราชธานี จากคาดการณ์กรมอุตุนิยมวิทยา วันที่ 9 ต.ค.2564 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
วันที่ 8 ตุลาคม 2564 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังเป็นประธานเปิดศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) ว่า จากสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่อุบลราชธานี ประสบปัญหาอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ จึงได้สั่งการให้กรมชลประทานจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) ไว้สำหรับใช้เป็นศูนย์บัญชาการ ประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ แก้ไขและบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินและวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ รวมทั้งแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะสามารถสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สถานการณ์อุทกภัย และแนวทางในการลดผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมกำหนดแนวทางปฏิบัติงานเชิงบูรณาการในการแก้ไขและการให้ความช่วยเหลือ วิเคราะห์สถานการณ์ ประเมินความต้องการและความจำเป็นเพื่อจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร-เครื่องมือในการบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย รวมถึงการจัดทำรายงานสถานการณ์น้ำ ผลการดำเนินการแก้ไข บรรเทา และการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) ไว้สำหรับใช้เป็นศูนย์บัญชาการ ประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ แก้ไขและบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินและวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ รวมทั้งแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร-เครื่องมือในการบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย รวมไปถึงการจัดทำรายงานสถานการณ์น้ำ ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด
สำหรับ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 52,626 ล้าน ลบ. สามารถรับน้ำได้อีกรวม 23,461 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,001 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีกรวม 11,870 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 5 -9 ต.ค.2564 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงได้สั่งการไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยง ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวต้นฉบับ: กรมชลฯ มอนิเตอร์สถานการณ์น้ำ รับมือพายุกระหน่ำอีสานตอนล่าง
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจการค้า