“จุรินทร์” เผยโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ช่วยร้านอาหาร กับ SMEs ส่งออก เอกชนยื่นขอร่วมกว่า 15,617 ราย วงเงิน 11,132 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเฟส 2 จับคู่กู้เงินช่วยเอสเอ็มอี
วันที่ 8 กันยายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการ “จับคู่กู้เงิน” ทั้ง 2 โครงการ คือ โครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงิน 5 สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ได้ดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ถึง 7 กันยายน 2564 และ โครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับเอสเอ็มอีเพื่อการส่งออก ได้ดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ถึง 7 กันยายน 2564 ได้สิ้นสุดโครงการแล้ว ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารและเอสเอ็มอี ได้มีเงินทุนหมุนเวียนและสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมากและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ส่งผลให้โครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับเอสเอ็มอีเพื่อการส่งออก จะดำเนินโครงการเฟส 2 ระหว่างวันที่ 7 กันยายน ถึง 7 พฤศจิกายน 2564 เป็นเวลา 60 วัน ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีสภาพคล่องในการผลิตและผลักดันสินค้าเพื่อการส่งออกให้มากขึ้น ในช่วงที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถยื่นเรื่องเพื่อขอรับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อในโครงการพิเศษจากสถาบันการเงินทั้ง 2 สถาบัน คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซ์ซิมแบงก์) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้
“ส่วนโครงการจับคู่กู้เงินสถาบันการเงินกับร้านอาหารสิ้นสุดโครงการแล้ว และไม่ได้เดินหน้าต่อ แต่ระหว่างนี้แม้จะไม่ได้นำเดินต่อก็ยังเดินหน้าพิจารณาอนุมัติวงเงินพิเศษให้กับร้านอาหารที่ได้ยื่นขอสินเชื่อพิเศษกับสถาบันการเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการมีสภาพคล่องใน การดำเนินธุรกิจเพราะต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากโควิดเป็นระยะเวลานาน”
สำหรับร้านอาหารที่เข้าโครงการจับคู่กู้เงินและทำการยื่นขอสินเชื่อเพื่อขอพิจารณาอนุมัติวงเงิน พิเศษ มีจำนวนทั้งสิ้น 15,156 ราย วงเงินที่ขอ 7,683 ล้านบาท และได้รับอนุมัติ จำนวน 2,865 ราย วงเงิน 2,599 ล้านบาท และรอการพิจารณาอนุมัติ จำนวน 12,291 ราย วงเงิน 5,083 ล้านบาท จากจำนวนร้านอาหารที่มีทั้งหมด 118,967 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล จำนวน 15,967 ราย และบุคคลธรรมดา จำนวน 103,000 ราย ที่ประกอบกิจการร้านอาหารทั้งหมดทั่วประเทศ
ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการ และยื่นขอพิจารณาอนุมัติสินเชื่อพิเศษมีจำนวน 461 ราย วงเงิน 3,449 ล้านบาท และได้รับการพิจารณาอนุมัติวงเงินจำนวน 190 ราย วงเงิน 1,011 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการรอพิจารณาอนุมัติสินเชื่อพิเศษ อีกจำนวน 271 ราย วงเงิน 2,438 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการดำเนินโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเฟส 2 นี้จะทำให้ธุรกิจมีสภาพคล่องมากขึ้นต่อไปได้
ทั้ง 2 โครงการนี้ คาดว่าจะช่วยปล่อยวงเงินสินเชื่อเพิ่มเงินหมุนเวียนให้กับธุรกิจร้านอาหารและ SMEs ส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนจำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อรวม 2โครงการ จำนวน 15,617 ราย วงเงิน 11,132 ล้านบาท และผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ มีจำนวน 3,055 ราย วงเงิน 3,610 ล้านบาท
ทางด้านนางสาวประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู๊ด กล่าวว่า โครงการดังกล่าวสามารถช่วยเหลือร้านอาหาร โดยยืดลมหายใจได้มากและในส่วนตนเองก็ได้กู้จากธนาคารออมสินในวงเงิน 5,000,000 บาท และก็ยังมีสมาชิกที่กำลังขอและรอการอนุมัติอีกหลายราย แต่ถ้าสามารถต่อไปได้จะดีมาก เพราะทุกคนอยากจะให้มีโครงการดีๆอย่างนี้ต่อเพื่อช่วยผู้ประกอบการ เนื่องจากว่าระยะของโควิดที่ติดเชื้อยาวนานเหลือเกินเพราะว่าการที่จะอยู่รอดได้จะต้องมีสายป่านที่ยาวขึ้น เพราะฉะนั้นวงเงินตรงนี้อย่างน้อยจะช่วยเยียวยาและช่วยให้ธุรกิจเดินต่อไปได้
อ่านข่าวต้นฉบับ: เอกชนกว่า 15,617 ราย แห่ร่วมจับคู่กู้เงิน ทะลุ 11,132 ล้าน
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจการค้า