วาย.เอส.เอส.ปลื้มออร์เดอร์ส่งออกทะลัก มั่นใจปีนี้โกยยอดทะลุ 1,000 ล้าน ระบุโควิดไม่สะเทือนตลาดโช้กอัพ ปรับตัวรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าเสริมแกร่งด้าน R&D พัฒนาบุคลากรต่อเนื่องเตรียมรับตลาดโตไม่หยุด
นายภิญโญ พานิชเกษม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส.(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายระบบกันสะเทือน โช้กอัพ และสปริง สำหรับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ มีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงผลกระทบตลอดช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ต้องเผชิญกับภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทสามารถปรับแผนธุรกิจเพื่อตั้งรับกับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถดำเนินการผลิตสินค้าและดำเนินธุรกิจมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) โตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับยอดขายของช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนปีนี้ทั้งปีเชื่อว่าจะมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือเกินกว่า 1,000 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เป็น 51% เป็นตลาดส่งออกและอีก 49% เป็นตลาดภายในประเทศ
นายภิญโญกล่าวอีกว่า ตลาดส่งออกต้องถือว่าดีมาก หลายประเทศเริ่มฟื้นตัวกลับมาผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์กันอย่างเต็มที่ และยังได้รับอานิสงส์จากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ส่วนตลาดในต่างประเทศให้การตอบรับกับสินค้าของวาย.เอส.เอส.ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับในปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบริษัทที่มียอดขายแค่ 880 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนการขายในประเทศมากถึง 53% ส่วนปี 2563 ที่ผ่านมามียอดขายโตขึ้นอีก 4% เมื่อเทียบกับปี 2562 มีรายได้ที่ 910 ล้านบาท และสัดส่วนการขายปรับเป็นยอดขายในต่างประเทศมากกว่ายอดขายในประเทศ ด้วยสัดส่วน 51% และ 49%
ปัจจุบันวาย.เอส.เอส.มีคู่ค้าต่างประเทศกว่า 36 ประเทศ โดยตลาดหลักอยู่ในกลุ่มประเทศยุโรป 21 ประเทศคือ เยอรมนี อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และเนเธอร์แลนด์ และเอเชียมี 12 ประเทศ โดยคู่ค้ารายใหญ่คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ ยังมีประเทศที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมทั้งอเมริกาที่อยู่ในแผนการตลาดของบริษัทที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าไปทำตลาดเพิ่มเติมเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น
“เรามั่นใจว่ายังเติบโตได้อีกเพราะวาย.เอส.เอส.เรามีเทคโนโลยี องค์ความรู้ที่ถูกต้อง และประสบการณ์อีกมากมายจากคณะนักวิจัยและพัฒนาหลาย ๆ ชาติ อย่างที่ผ่านมาเราเองได้ลงทุนจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาสินค้าไว้แล้วใน 5 ประเทศ ทั้งยุโรปที่เมืองชแคจ์นเดิล ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เมืองมอนซ่า ประเทศอิตาลี ที่เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน และเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศเหล่านี้ถือต้นกำเนิดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อดังหลายราย โดยศูนย์กลางที่รวบรวมข้อมูลวิจัยและพัฒนาสินค้าอยู่ในประเทศไทย มีนักวิจัยและพัฒนาทั้งคนไทยและต่างชาติอีก 15 คนทำหน้าที่ประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลการทดสอบกับศูนย์วิจัยอื่น ๆ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับสายการผลิตของเรา”
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนเพื่อนำซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาใช้ภายในองค์กร เพื่อเชื่อมระหว่างสายการวิจัย การผลิต การขาย และการขนส่ง เพื่อควบคุมคุณภาพการผลิต ส่วนประกอบให้มีความแม่นยำมากขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะฝีมือเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
ก่อนหน้าวาย.เอส.เอส.มีตัวแทนจำหน่ายเกือบ 100 ราย และมีศูนย์บริการกว่า 120 แห่งทั่วโลก ด้วยกำลังผลิตโช้กอัพ 1.5 ล้านชิ้นต่อปี
โดยกว่า 90% เป็นโช้กอัพรถจักรยานยนต์ และอีก 10% เป็นโช้กอัพสำหรับรถยนต์ ส่วนอนาคตคาดว่าจะพยายามเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ให้มากขึ้นด้วย
“เราเคยประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 2 ปีข้างหน้าว่าจะมุ่งเน้นขยายตลาดในส่วนผลิตภัณฑ์โช้กอัพรถยนต์ ทั้งรถยนต์นั่งทั่วไปและรถยนต์เฉพาะกลุ่ม เช่น PPV, ออฟโรด เรายังคงเดินหน้าตามแผนต่อเนื่อง และหวังว่าอนาคตสัดส่วนยอดขายโช้กอัพรถยนต์จะเป็นสัดส่วนหลักในอนาคต รวมทั้งการขยายธุรกิจศูนย์บริการ โดยจะเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในกรุงเทพฯ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 40-50 ล้านบาท และมีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวมทั้งประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ซึ่งเราพยายามไปสู่แผนงานที่วางไว้ด้วย”
อ่านข่าวต้นฉบับ: ออร์เดอร์ส่งออกโช้กอัพทะลัก “วาย.เอส.เอส.” รับอานิสงส์ทั้งปีทะลุพันล้าน
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวยานยนต์ #ข่าวรถ #นวัตกรรมยานยนต์