บิตกลาส ชี้คนทำงานที่บ้านพุ่ง จุดอ่อนทำให้แฮกเกอร์เข้าโจมตีข้อมูลเพิ่มขึ้น โดยโรงพยาบาลถือเป็นจุดสำคัญ เพราะมีข้อมูลผู้ป่วยจำนวนมาก ผนึก เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว เจาะตลาดไทย หวังช่วยองค์กรไทยปิดช่องโหว่ เพิ่มความปลอดภัยข้อมูล
วันที่ 15 กันยายน 2564 นายโจนาธาน แอนเดอร์เซน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านผลิตภัณฑ์ บิตกลาส ประจำภูมิภาค เอเซียแปซิฟิก และประเทศญี่ปุ่น ผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้โรงพยาบาลกลายเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลการรักษา ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมาก ดังนั้นจึงกลายเป็นจุดอ่อนในการถูกโจมตีของแฮกเกอร์ด้วยเช่นกัน เพราะข้อมูลที่มีเหล่านี้เป็นอะไรที่มีน้ำหนักในการต่อรอง และมีโอกาสสูงที่แฮกเกอร์จะประสบความสำเร็จจากการเรียกค่าไถ่จากข้อมูลในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม การทำงานบ้านที่เพิ่มขึ้น ทำให้ทุกๆธุรกิจก็มีโอกาสสูงที่จะถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องระมัดระวัง คือ ต้องกลับพิจาณาว่าข้อมูลในองค์กรที่มี ใคร สามารถเข้าถึงได้บ้าง และควรจะเข้าถึงข้อมูลนั้นในรูปแบบไหน หรือ แค่ไหน เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน
อีกส่วน คือ ต้องมองเห็นทราฟฟิกของข้อมูลทั้งหมด ว่า อะไรสำคัญ หรือไม่สำคัญ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่ง บิตกลาสมีโซลูชั่น เทคโนโลยีเฉพาะที่จดสิทธิบัตรไว้ โดยสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลขององค์กรต่างๆได้
เมื่อหลายๆองค์กร ต้องระมัดระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มพุ่งขึ้น ถือเป็นโอกาสสำคัญของบิตกลาสที่จะเข้าช่วยปิดช่องโหว่เหล่านั้น โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รุกเข้ามาทำตลาดเอเซียในหลายประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ และต้นปี2564 ที่ผ่านมาได้ขยายตลาดเข้ามาในไทย และเริ่มเข้าสู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยมีบริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด เป็นพาร์ทเนอร์สำคัญในการทำตลาดและช่วยขยายฐานลูกค้าไทย
“บิตกลาสมีความเชื่อมั่นในตลาดเอเซียมากขึ้น และตัดสินใจเข้าสู่ตลาดไทยเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะประเทศไทย รวมถึงหลายประเทศในเอเซีย เริ่มนำคลาวด์เซอร์วิส เข้ามาใช้องค์กรมากขึ้น ดังนั้นการเข้ามาในตลาดช่วงนี้ ถือเป็นจังหวะที่ดี และเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์จะทำให้บิตกลาสสามารถเติบโตได้ดีในตลาดไทยและเป็นที่ยอมรับได้ในเวลาอันรวดเร็ว”
อ่านข่าวต้นฉบับ: บิตกลาส ปิดช่องโหว่ เพิ่มความปลอดภัยข้อมูลบริษัทไทย
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #IT Techonogy #ข่าวไอที