
แรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่กำลังถาโถมใส่วงการภาพยนตร์ทั่วโลกหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศตั้งใจเก็บภาษีนำเข้าหนังต่างชาติในอัตรา 100% โดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมหนังของอเมริกากำลังตายอย่างรวดเร็ว เพราะการชักจูงจากประเทศอื่นที่มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีดึงดูดการถ่ายทำ ซึ่งรวมถึงสหราชอาณาจักรที่กลายเป็นโลเคชันยอดฮิตของหนังฟอร์มยักษ์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง อ้างอิงจากคำประกาศของทรัมป์เกิดขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ชี้ว่าการผลิตภาพยนตร์นอกสหรัฐฯ คือภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติ และกล่าวหาว่าประเทศอื่นขโมยอุตสาหกรรมหนังของอเมริกา สั่งให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เริ่มเดินหน้าจัดเก็บภาษีในทันที ผลกระทบต่ออุตสาหรกรรมหนัง เสียงสะท้อนจากฝั่งอังกฤษทันที ฟิลิปปา ชายด์ส หัวหน้าสหภาพแรงงานสายครีเอทีฟ เตือนว่า “นี่อาจเป็นหมัดน็อกของจริงสำหรับวงการหนังอังกฤษ ที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นจากโควิดและวิกฤตซบเซา เรากำลังพูดถึงแรงงานฟรีแลนซ์หลายหมื่นคนที่กำลังเสี่ยงตกงาน” และแหล่งข่าวในวงการครีเอทีฟของอังกฤษถึงกับกล่าวว่า “ถ้ามาตรการนี้เกิดขึ้นจริง อุตสาหกรรมหนังอังกฤษอาจถูกกวาดล้างทั้งหมด รวมถึงทีมงานเบื้องหลังด้วย…ถ้าลามถึงวงการทีวี ก็คงต้องเก็บของกลับบ้านกันแล้ว” คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม สื่อ และกีฬา จึงเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของ เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ เร่งบรรจุปัญหานี้เข้าไปในวาระเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยแคโรไลน์ ไดเนเนจ ประธานคณะกรรมาธิการกล่าวว่า “คำเตือนของเราเมื่อเดือนก่อนเกี่ยวกับความมั่นคงของฐานะ ‘ฮอลลีวูดแห่งยุโรป’ กลายเป็นจริงแล้ว” ภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์อังกฤษกำลังเผชิญแรงกดดันใหม่จากฝั่งทรัมป์ ที่อาจเปลี่ยนภูมิทัศน์ของโลกภาพยนตร์ทั้งระบบ หากมาตรการภาษี 100% เกิดขึ้นจริง ความเสียหายจะลามไปทั้งฝั่งอังกฤษและอเมริกา และกระทบกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะนี้บรรดาสตูดิโอใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังหาทางขอความชัดเจนจากรัฐบาลอเมริกัน เพราะนโยบายดังกล่าวอาจส่งผลให้ต้นทุนเพิ่ม งานลด และการผลิตชะงัก…
The post ทรัมป์สั่งเก็บภาษีภาพยนต์ที่ถ่ายทำนอกสหรัฐฯ ในอัตรา 100% สะเทือนวงการหนังทั่วโลก กดดัน Netflix, Disney หุ้นร่วงทันที appeared first on BT beartai.
แรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่กำลังถาโถมใส่วงการภาพยนตร์ทั่วโลกหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศตั้งใจเก็บภาษีนำเข้าหนังต่างชาติในอัตรา 100%
โดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมหนังของอเมริกากำลังตายอย่างรวดเร็ว เพราะการชักจูงจากประเทศอื่นที่มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีดึงดูดการถ่ายทำ ซึ่งรวมถึงสหราชอาณาจักรที่กลายเป็นโลเคชันยอดฮิตของหนังฟอร์มยักษ์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง
อ้างอิงจากคำประกาศของทรัมป์เกิดขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ชี้ว่าการผลิตภาพยนตร์นอกสหรัฐฯ คือภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติ และกล่าวหาว่าประเทศอื่นขโมยอุตสาหกรรมหนังของอเมริกา สั่งให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เริ่มเดินหน้าจัดเก็บภาษีในทันที
ผลกระทบต่ออุตสาหรกรรมหนัง
เสียงสะท้อนจากฝั่งอังกฤษทันที ฟิลิปปา ชายด์ส หัวหน้าสหภาพแรงงานสายครีเอทีฟ เตือนว่า “นี่อาจเป็นหมัดน็อกของจริงสำหรับวงการหนังอังกฤษ ที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นจากโควิดและวิกฤตซบเซา เรากำลังพูดถึงแรงงานฟรีแลนซ์หลายหมื่นคนที่กำลังเสี่ยงตกงาน”
และแหล่งข่าวในวงการครีเอทีฟของอังกฤษถึงกับกล่าวว่า “ถ้ามาตรการนี้เกิดขึ้นจริง อุตสาหกรรมหนังอังกฤษอาจถูกกวาดล้างทั้งหมด รวมถึงทีมงานเบื้องหลังด้วย…ถ้าลามถึงวงการทีวี ก็คงต้องเก็บของกลับบ้านกันแล้ว”
คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม สื่อ และกีฬา จึงเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของ เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ เร่งบรรจุปัญหานี้เข้าไปในวาระเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยแคโรไลน์ ไดเนเนจ ประธานคณะกรรมาธิการกล่าวว่า “คำเตือนของเราเมื่อเดือนก่อนเกี่ยวกับความมั่นคงของฐานะ ‘ฮอลลีวูดแห่งยุโรป’ กลายเป็นจริงแล้ว”
ภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์อังกฤษกำลังเผชิญแรงกดดันใหม่จากฝั่งทรัมป์ ที่อาจเปลี่ยนภูมิทัศน์ของโลกภาพยนตร์ทั้งระบบ หากมาตรการภาษี 100% เกิดขึ้นจริง ความเสียหายจะลามไปทั้งฝั่งอังกฤษและอเมริกา และกระทบกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะนี้บรรดาสตูดิโอใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังหาทางขอความชัดเจนจากรัฐบาลอเมริกัน เพราะนโยบายดังกล่าวอาจส่งผลให้ต้นทุนเพิ่ม งานลด และการผลิตชะงัก ฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียก็ออกมาคัดค้านผ่านสำนักงานผู้ว่าการว่า “ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการจัดเก็บภาษีดังกล่าว”
ในขณะที่การผลิตภาพยนตร์ในลอสแอนเจลิสลดลงเกือบ 40% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก FilmLA นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์อาจเป็นการตอบโต้กรณีจีนจำกัดการนำเข้าหนังจากอเมริกาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นอกจากผลกระทบเชิงอุตสาหกรรมแล้ว มาตรการเก็บภาษีหนังต่างชาติที่โดนัลด์ ทรัมป์เสนอ ยังเขย่าตลาดหุ้นของบริษัทสื่อและบันเทิงยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ โดยหุ้นของ Netflix -3%, Disney -1.4%, Warner Bros. Discovery -1% ต่างร่วงลงทันทีที่ตลาดเปิดในวันจันทร์ที่ผ่านมา สะท้อนความกังวลของนักลงทุนว่า มาตรการภาษีนี้อาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและบั่นทอนรายได้ในอนาคต โดยเฉพาะจากการถ่ายทำต่างประเทศซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของสตูดิโอฮอลลีวูด
อีกจุดที่นักวิเคราะห์หลายรายเริ่มตั้งคำถาม คือ “ความไม่ชัดเจนของมาตรการ” ทั้งในด้านขอบเขตของภาษี เช่น จะใช้กับหนังหรือซีรีส์ด้วยหรือไม่? จะมีผลย้อนหลังหรือเฉพาะโปรเจกต์ใหม่? และใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายภาษี ฝั่งสตูดิโอ ผู้จัดจำหน่าย หรือผู้บริโภค? ช่องโหว่เหล่านี้อาจทำให้มาตรการเกิดผลย้อนกลับ หรือยิ่งซ้ำเติมอุตสาหกรรมบันเทิงสหรัฐฯ ที่กำลังเผชิญกับการแข่งขันจากหลายทิศทั่วโลก
The post ทรัมป์สั่งเก็บภาษีภาพยนต์ที่ถ่ายทำนอกสหรัฐฯ ในอัตรา 100% สะเทือนวงการหนังทั่วโลก กดดัน Netflix, Disney หุ้นร่วงทันที appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/