
29 มีนาคม เวลาประมาณ 22:44 น. ได้เกิดเหตุนักศึกษาหญิง 3 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ Xiaomi SU7 ชนแบริเออร์คอนกรีต บนทางหลวงสายเต๋อโจว-ซ่างเหรา ในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน จากนั้นได้เกิดไฟลุกไหม้ แต่โชคร้ายคนในรถไม่สามารถปลดล็อกหลบหนีออกมาได้ ซึ่งนับว่าเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกที่เกิดจากรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ Xiaomi ตั้งแต่เปิดตัว SU7 เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ที่มีจุดเด่นในเรื่องฟีเจอร์ความปลอดภัย
The post Xiaomi SU7 เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งแรกบนทางหลวงในจีนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย appeared first on BT beartai.
29 มีนาคม เวลาประมาณ 22:44 น. ได้เกิดเหตุนักศึกษาหญิง 3 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ Xiaomi SU7 ชนแบริเออร์คอนกรีต บนทางหลวงสายเต๋อโจว-ซ่างเหรา ในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน จากนั้นได้เกิดไฟลุกไหม้ แต่โชคร้ายคนในรถไม่สามารถปลดล็อกหลบหนีออกมาได้ ซึ่งนับว่าเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกที่เกิดจากรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ Xiaomi ตั้งแต่เปิดตัว SU7 เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ที่มีจุดเด่นในเรื่องฟีเจอร์ความปลอดภัย
Xiaomi ออกมาชี้แจงว่ารถยนต์ SU7 ได้วิ่งมาด้วยความเร็ว 116 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในโหมดช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ NOA (การนำทางด้วยระบบอัตโนมัติ) แต่เมื่อรถเข้ามาใกล้เขตก่อสร้างได้พบแบริเออร์ปิดกั้นเลนถนนเพื่อให้เบี่ยงเส้นทางไปวิ่งในเลนตรงข้าม ระบบได้ตรวจพบสิ่งกีดขวางจึงได้แจ้งเตือนและเริ่มลดความเร็วลง จากนั้นคนขับก็ได้เข้ามาควบคุมรถด้วการเบรกและหักพวงมาลัย แต่สุดท้ายได้พุ่งชนแบริเออร์คอนกรีตอย่างจังด้วยความเร็วประมาณ 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หลังเกิดการชนระบบตอบสนองฉุกเฉินของ Xiaomi ได้ถูกเปิดใช้งานแล้วติดต่อไปยังเจ้าของรถที่จดทะเบียนทันที ซึ่งเจ้าของรถตัวจริงบอกว่าคนอื่นเป็นผู้ขับขี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานงานหน่วยบริการฉุกเฉินให้เข้ามาช่วยเหลือคนในรถ โดยมีรถกู้ภัยเข้ามาถึงที่เกิดเหตุในเวลาประมาณ 23.00 น.
ดูเหมือนว่ารถฉุกเฉินได้เข้ามาช่วยเหลือได้เร็วพอสมควร แต่น่าเสียดายที่คนในรถเสียชีวิดเพราะปลดล็อกประตูออกมาไม่ได้ ซึ่งทาง Xiaomi ชี้แจงว่าแม้ระบบจะล็อก ด้วยเหตุแบตเตอรี่หมดหรือเสียหาย แต่ตรงประตูทั้ง 4 บานจะมีที่จับสำหรับปลดล็อกฉุกเฉินแบบกลไกอยู่แถวช่องเก็บของ ซึ่งจะสามารถใช้เปิดประตูในยามฉุกเฉินได้
Xiaomi ได้เปิดเผยข้อมูลไทม์ไลน์การทำงานของรถยนต์โดยละเอียดตรงด้านล่าง ซึ่งเราจะเห็นว่าหลังจากระบบแจ้งเตือน ผู้ขับขี่ก็ได้เข้าควบคุมรถยนต์โดยทันที พร้อมหักพวงมาลัยและเหยียบเบรก ซึ่งต้องรอดูผู้เชี่ยวชาญออกมาวิเคราะห์กันอีกทีว่าระบบตรวจจับและแจ้งเตือนช้าหรือไม่ การเบรกและชะลอรถมีปัญหาหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ระบบ eCall และการติดต่อเจ้าหน้าที่ถือว่าทำงานได้รวดเร็ว
22:27:17 น.: NOA เปิดใช้งาน ความเร็วรถอยู่ที่ 116 กม./ชม.
22:28:17 น.: ออกคำเตือนผู้ขับขี่เสียสมาธิในควบคุมเล็กน้อย (อาจละสายหรือไม่ได้จับพวงมาลัย)
22:36:48 น.: NOA ออกคำเตือนห้ามเอามือออกจากพวงมาลัย: “กรุณาจับพวงมาลัยให้แน่น”
22:44:24 น.: NOA ออกคำเตือนความเสี่ยง: “โปรดสังเกตสิ่งกีดขวางข้างหน้า” พร้อมขอให้ชะลอความเร็ว
22:44:25 น.: คนขับเข้ามาควบคุมรถแทน NOA ในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง ได้หมุนพวงมาลัยไปทางซ้าย 22.0625 องศา และเหยียบเบรก 31%
22:44:26 น. : พวงมาลัยหมุนไปทางขวา 1.0625 องศา เหยียบเบรก 38%
ระหว่างเวลา 10:44:26–28: รถยนต์ชนกับแบริเออร์คอนกรีต
22:44:28 น.: ระบบเปิดใช้งาน eCall
22:44:39 น.: เชื่อมต่อ eCall ได้รับการยืนยันอุบัติเหตุแล้ว ติดต่อตำรวจและบริการฉุกเฉินแล้ว
22:45:06 น.: ได้ทำการติดต่อกับเจ้าของรถ รับข้อมูล ยนยันว่าเจ้าของไม่ได้เป็นผู้ขับขี่
22:47:15 น. : ได้ติดต่อหน่วยบริการฉุกเฉินและส่งเจ้าหน้าที่ออกไป
เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มาถึงที่เกิดเหตุ
The post Xiaomi SU7 เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งแรกบนทางหลวงในจีนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/