
2 กุมภาพันธ์ OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว Deep Research ซึ่งเป็น AI Agent หรือเครื่องมือเอไอที่ใช้เหตุผลสำหรับทำงานแทนมนุษย์อัตโนมัติบน ChatGPT เพื่อช่วยในการค้นคว้า วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากออนไลน์หลายร้อยแห่ง จากนั้นเขียนออกมาเป็นรายงานการวิจัยได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่งปกติมนุษย์จะใช้เวลาเขียนงานวิจัยหลายชั่วโมง แต่เครื่องมือนี้ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่สิบนาทีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้พร้อมให้บริการแล้วสำหรับผู้ใช้ ChatGPT ระดับ Pro และคิวต่อไปก็เป็นผู้ใช้ระดับ Plus และ Team
The post OpenAI เปิดตัว Deep Research เครื่องมือ AI Agent สำหรับการทำวิจัยบน ChatGPT appeared first on BT beartai.
2 กุมภาพันธ์ OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว Deep Research ซึ่งเป็น AI Agent หรือเครื่องมือเอไอที่ใช้เหตุผลสำหรับทำงานแทนมนุษย์อัตโนมัติบน ChatGPT เพื่อช่วยในการค้นคว้า วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากออนไลน์หลายร้อยแห่ง จากนั้นเขียนออกมาเป็นรายงานการวิจัยได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่งปกติมนุษย์จะใช้เวลาเขียนงานวิจัยหลายชั่วโมง แต่เครื่องมือนี้ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่สิบนาทีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้พร้อมให้บริการแล้วสำหรับผู้ใช้ ChatGPT ระดับ Pro และคิวต่อไปก็เป็นผู้ใช้ระดับ Plus และ Team
Deep Research เป็นเครื่องมือบน ChatGPT ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลการใช้เหตุผลรุ่นใหม่ o3 ที่ปรับแต่งให้เหมาะสำหรับการท่องเว็บและวิเคราะห์ข้อมูล มาช่วยในการค้นคว้า วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างรายงานได้ในระดับนักวิจัย โดยมีความสามารถรับคำสั่งทั้งที่เป็นข้อความ รวมไปถึงรูปภาพ และไฟล์ PDF ซึ่งเป็นความก้าวหน้าสู่ AGI (เอไอที่ฉลาดเทียบเท่ามนุษย์) ที่จะสามารถสร้างงานวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ ออกมาได้
ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ โดยมีการอ้างอิงแหล่งที่มาอย่างชัดเจนและสรุปแนวคิด ซึ่งทำให้สามารอ้างอิงและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ง่าย โดยเครื่องมือจะสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์จำนวนมากผ่านการค้นหาเพียงครั้ง จึงช่วยประหยัดเวลาและลดภาระในการทำงานให้กับเราได้
OpenAI เผยว่าเป้าหมายของ Deep Research ก็คือเครื่องมือช่วยทำงานแทนมนุษย์เพื่อทำงานกับข้อมูลเชิงลึกในสาขาต่าง ๆ เช่น การเงิน วิทยาศาสตร์ นโยบาย และวิศวกรรม ด้วยการค้นคว้าที่ละเอียด แม่นยำและเชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคสำหรับการค้นคว้าก่อนซื้อสินค้าของอย่างรอบ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์
การใช้งาน Deep Research ให้ผู้ใช้เปิดแชตบอต ChatGPT จากนั้นเลือกที่ ‘deep research’ แล้วให้ป้อนข้อความคำถามลงไป รวมทั้งสามารถแนบไฟล์หรือสเปรดชีต เพื่อเพิ่มบริบทคำถามให้ชัดเจนมากขึ้น และเมื่อผู้ช่วยเอไอทำงาน สังเกตแถบด้านข้างจะแสดงสรุปขั้นตอนที่ได้ดำเนินการและแหล่งข้อมูลอ้างอิง จากนั้นใช้เวลา 5-30 นาที จะมีการแจ้งเตือนบอกว่าการวิจัยเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะแสดงผลลัพธ์สุดท้ายเป็นรายงานอยู่ภายในแชต ทั้งนี้อีกไม่กี่สัปดาห์ OpenAI จะเพิ่มรูปภาพ กราฟิกประกอบการนำเสนอข้อมูล และผลการวิเคราะห์อื่น ๆ ไว้ในรายงานให้ชัดเจนขึ้นด้วย
เดือนกันยายน 2024 OpenAI ได้ปล่อยโมเดลการใช้เหตุผลรุ่นแรก คือ o1 ออกมาให้ทดลองใช้งาน ซึ่งมีความสามารถในการเขียนโค้ด คณิตศาสตร์ และด้านเทคนิคอื่น ๆ แต่สำหรับการรวบรวมข้อมูลบนออนไลน์มากมายหลายแห่ง และการจัดการปัญหาที่ซับซ้อนสำหรับการทำงานและชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้การขับเคลื่อนด้วย o3 โมเดลการใช้เหตุผลรุ่นใหม่ที่เหนือกว่า
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา OpenAI ได้เปิดตัว Operator ซึ่งเป็น AI Agent ที่ช่วยทำงานแทนมนุษย์ได้อัตโนมัติผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เพื่อช่วยลดความยุ่งยากในการทำงานออนไลน์ เช่น การจองที่พัก การจองร้านอาหาร หรือการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งก่อนหน้านั้นหนึ่งเดือน Google ได้เปิดตัว AI Agent ตัวแรกที่สามารถทำงานต่าง ๆ บนเว็บแทนมนุษย์ได้อัตโนมัติผ่านต้นแบบการวิจัย Project Mariner ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ปล่อยออกมาให้งานกันเลย
นอกจากนี้ โมเดลที่ขับเคลื่อน Deep Research สามารถทำคะแนนความแม่นยำได้สูงสุด จากการทดสอบด้วย Humanity’s Last Exam ซึ่งในหมวดคำถามระดับผู้เชี่ยวชาญ (expert-level) เมื่อเปิดใช้เครื่องมือสืบค้นข้อมูลและ Python สามารถทำคะแนนได้ถึง 26.6% ส่วนโมเดล o3-mini (high) ทำคะแนนได้ 13% และ GPT-4o ทำได้แค่ 3.3%
The post OpenAI เปิดตัว Deep Research เครื่องมือ AI Agent สำหรับการทำวิจัยบน ChatGPT appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/