Keira Knightley บอกผู้กำกับตอนถ่ายฉากถือป้าย “To Me, You ARE PERFECT” ในหนัง ‘Love Actually’ รู้สึก ‘ดูน่ากลัว’
The post Keira Knightley บอกผู้กำกับตอนถ่ายฉากถือป้ายสุดโรแมนติกในหนัง ‘Love Actually’ รู้สึก ‘น่าขนลุก’ appeared first on BT beartai.
พอถึงช่วงบรรยากาศปลายปี แน่นอนว่าหลายคนก็เลือกที่จะดูหนังที่มีบรรยากาศแบบคริสต์มาสเพื่อต้อนรับลมหนาว 1 ในนั้นก็คือ ‘Love Actually’ (2003) หนังรอมคอมที่ร้อยเรียงเรื่องราวความรักของผู้คนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมารวมกัน ผลงานการกำกับและเขียนบทของ ริชาร์ด เคอร์ติส (Richard Curtis) และเมื่อพูดถึงหนังเรื่องนี้ ฉากการสารภาพรักด้วยการเปิดเพลงชูป้าย ‘To Me, You ARE PERFECT’ ที่หลายคนมองว่าช่างโรแมนติกเหลือเกิน แต่ในขณะที่หลายคนกลับไม่มองแบบนั้น
ไม่เว้นแม้แต่เหล่านักแสดงในฉากนี้ โดยเฉพาะ เคียรา ไนต์ลีย์ (Keira Knightley) ผู้รับบทเป็นจูเลียตนั้นรู้สึกแบบเดียวกันหลาย ๆ คนมาก่อนใคร เธอได้เล่าเรื่องนี้ไว้ในบทสัมภาษณ์ของ Los Angeles Times ซึ่งไนต์ลีย์ วัย 17 ปีใที่กำลังถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ในช่วงที่ผลงานแจ้งเกิดของเธอ ‘Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl’ (2003) กำลังเข้าฉาย ได้ออกปากเตือนผู้กำกับว่า ฉากนี้ดูน่ากลัวเกินกว่าจะโรแมนติก
“จริง ๆ มันก็ดูมีความรู้สึกเหมือนสตอล์กเกอร์อยู่นิด ๆ แหละค่ะ ฉันจำได้ว่าริชาร์ด ซึ่งตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทของฉัน บอกกับฉันตอนถ่ายทำว่า ‘เธอต้องกำลังจ้องมองเขาเหมือนรู้สึกว่าเขาน่ากลัวนะ’ แล้วฉันก็บอกไปว่า ‘มันก็น่าขนลุกจริง ๆ นั่นแหละ’ แล้วเราก็ต้องมาถ่ายทำกันใหม่อีกรอบเพื่อปรับการแสดงสีหน้าให้ดูเหมือนว่าเขาไม่น่ากลัว”
“ถ้าถามฉันว่าตอนนั้นมันดูน่าขนลุกใช่ไหม ? ด้วยความที่ฉันเองอายุ 17 ปี และกว่าคนจะได้รู้ว่า ตอนนั้นฉันเพิ่งอายุแค่ 17 ปี ก็คือเมื่อไม่นานมานี้เองน่ะค่ะ”
ฉากในตำนานฉากนี้มาจากตอนหนึ่งใน ‘Love Actually’ ซึ่งเป็นตอนที่ว่าด้วยเรื่องราวของจูเลียต ที่เพิ่งจะเข้าพิธีสมรสกับปีเตอร์ ที่นำแสดงโดย ชูวิเท็ล เอจีโอฟอร์ (Chiwetel Ejiofor) แต่กลายเป็นว่า มาร์ก เพื่อนสนิทและเพื่อนเจ้าบ่าวของปีเตอร์ ที่นำแสดงโดย แอนดรูว์ ลินคอล์น (Andrew Lincoln) กลับตกหลุมรักจูเลียต วันหนึ่ง มาร์กจึงรวบรวมความกล้าด้วยการนำเครื่องวิทยุเทปไปเปิดเพลง และถือแผ่นป้ายที่เขาเขียนขึ้นเพื่อแอบสารภาพกับจูเลียตโดยไม่ให้ปีเตอร์ได้ยิน
ฉากนี้ เคอร์ติสได้แรงบันดาลใจวิธีการบอกรักมาจากมิวสิกวิดีโอเพลง “Subterranean Homesick Blues” ของ บ็อบ ดีแลน (Bob Dylan) ซึ่งเป็นมิวสิกวิดีโอที่ให้ดีแลนยืนเปิดการ์ดที่เขียนเนื้อเพลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
ซึ่งหลังจากฉาย แม้หลายคนจะมองว่าฉากนี้โรแมนติกที่กลายมาเป็นตำนานจนถูกนำไปทำซ้ำและล้อเลียนมากมาย แต่หลายคนกลับเรียกขานฉากนี้ และพฤติกรรมของมาร์กว่าไม่ต่างอะไรกับสตอล์กเกอร์ (Stalker) หรือถ้ำมองที่คอยสะกดรอยตามผู้หญิงถึงหน้าบ้าน (แถมเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้วอีกต่างหาก) ในโลกของความเป็นจริง
ตลอด 2 ทศวรรษที่หนังเรื่องนี้อยู่คู่กับเทศกาลคริสต์มาส ไม่ใช่แค่ไนต์ลีย์ที่ออกมายอมรับตรง ๆ ว่าฉากนี้น่ากลัว เพราะแม้แต่ผู้กำกับเจ้าของไอเดียอย่างเคอร์ติส ก็เคยเปิดใจกับ The Independent โดยยอมรับว่า เขาเองก็คิดว่าฉากนี้มีปัญหาตรงที่ในเวลานั้น เขาไม่ทันฉุกคิดว่าพฤติกรรมในหนังที่มาร์กทำกับจูเลียต คือพฤติกรรมที่เข้าข่ายการเป็นสตอล์กเกอร์
“คือถ้าเกิดเขาไปที่บ้านของเพื่อนสนิท เพื่อจะบอกสารภาพรักกับภรรยาของเขา แล้วเธอก็ดันตอบกลับมาว่า ‘ฉันรักคุณ’ ด้วยเนี่ย ผมคิดว่ามันดูแปลก ๆ ไปหน่อยนะ… ผมแค่อยากจะบอกว่า ตอนนั้นเราไม่ทันได้ฉุกคิดหรอกครับว่าฉากนี้มันจะเป็นฉากสตอล์กเกอร์ ตอนนั้นคนรู้สึกกับฉากนี้แค่ว่ามันตลกดี หรือด้วยเหตุผลอย่างอื่น”
หรือแม้แต่เจ้าของบทมาร์ก ผู้เปิดป้ายบอกรักในฉากนั้นอย่างลินคอล์นก็ยอมรับกับ The Wrap ว่า เขาเองก็คิดว่าตัวละครมาร์กที่เขาในวัย 29 ปีเคยแสดงได้ ก็คึอสตอล์กเกอร์เช่นเดียวกัน แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ยังยุติธรรมตรงที่มาร์กคือตัวละครตัวเดียวในหนังที่ไม่สมหวังกับความรักอย่างที่ตัวเองตั้งใจ
“เขาเป็นพวกสตอล์กเกอร์ครับ ผมเองก็ถามริชาร์ด เคอร์ติสแบบนี้แหละว่า ‘คุณไม่กลัวว่ามันจะเข้าข่ายเป็นสตอล์กเกอร์ไปหน่อยเหรอ ? ‘ แล้วเขาก็ตอบว่า ‘ไม่ ๆๆ ถ้าเป็นนายแสดง มันจะไม่ออกมาเป็นแบบนั้นหรอกพ่อหนุ่ม นายจะไม่เป็นไรแน่นอน’”
“…แต่ผมว่าผมชอบนะ ในการที่ได้อยู่ในหนังที่โรแมนติกที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกผู้หญิงรัก มันเหมือนกับตอนที่ผมเล่นหนังเรื่อง ‘Moonshot’ (2009) เลย คนอื่นได้ไปดวงจันทร์หมด มีแค่ผมคนเดียวที่ไม่ได้ไป เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำกับตัวละครของผม ผมเป็นผู้ชายคนเดียวที่ทั้งไม่ได้ไปดวงจันทร์ และไม่ได้ถูกผู้หญิงรัก”
The post Keira Knightley บอกผู้กำกับตอนถ่ายฉากถือป้ายสุดโรแมนติกในหนัง ‘Love Actually’ รู้สึก ‘น่าขนลุก’ appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/