แมทธิว แม็กคอนนาเฮย์ (Matthew McConaughey) สัญญากับภรรยาหลังย้ายจากฮอลลีวูดไปอยู่ที่เท็กซัสว่า จะไม่ยอมกลับไปเว้นแต่ว่าจะได้รับบทอื่นที่ไม่ใช่
The post เบื่อ ! Matthew McConaughey หนีฮอลลีวูดกลับบ้านเกิด แถมปฏิเสธ 14.5 ล้านเหรียญ เพราะไม่อยากเล่นหนังรอมคอมอีกแล้ว appeared first on BT beartai.
แมทธิว แม็กคอนนาเฮย์ (Matthew McConaughey) นักแสดงหนุ่มหล่อกล้ามล่ำทรงเสน่ห์ที่มีจุดเริ่มต้นอาชีพจากผลงานอันหลากหลาย ก่อนจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการเป็นเจ้าพ่อหนังโรแมนติกคอมมีดี้และหนังตลกในช่วงยุค 2000 ก่อนจะวิวัฒนาการกลายเป็นนักแสดงคุณภาพเจ้าของรางวัลออสการ์ แต่แม้ว่าเขาเองจะผ่านการแสดงมาแล้วในหนังแทบทุกแนว แต่เขากลับรู้สึกอิ่มตัวและเบื่อหน่ายหนังรอมคอม จนถึงขั้นที่เขาย้ายบ้านหนีจากฮอลลีวูด เขาได้เล่าเรื่องนี้ในพอดแคสต์ Good Trouble with Nick Kyrgios
“คือแบบนี้ครับ คำว่า ‘ไม่’ มันไม่ได้เลวร้ายนะ แต่มันคือคำว่า ‘ใช่’ ที่มาแบบไม่สิ้นสุดต่างหาก คำว่า ‘ไม่’ มันมีความสำคัญมากพอ ๆ กับคำว่า ‘ใช่’ หรืออาจจะสำคัญกว่าด้วยว้ำ โดยเฉพาะเมื่อคุณมีความสำเร็จและโอกาสในชีวิตมากมาย คำว่า ‘ไม่’ จะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า”
“ไม่เชื่อลองมองรอบตัวเราสิครับ เราใช้ชีวิตด้วยคำว่า ‘ใช่’ มากเกินไป จนสุดท้ายก็ต้องมานั่งคิดว่า ‘โอ๊ย ฉันทำอะไรลงไป ทำไมถึงได้แค่เกรด C- ‘ นะ เป็นเพราะเราแม่-เอาแต่รับปากกับทุกสิ่งทุกอย่าง มีหลายช่วงในชีวิตที่ผมรู้สึกว่าตัวผมกำลังทำอะไรแบบอัตโนมัติ ผมอาจจะคิดว่าตัวเองจัดการทุกอย่างได้ แต่กลับไม่ได้รู้สึกผูกพันกับอะไรเลย มันไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวสำหรับผมแล้ว ผมเคยมีช่วงเวลาที่บอกกับตัวเองว่า ‘หยุด พอแค่นี้ดีกว่า’”
และเมื่อเขาเริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับหนังรอมคอม ทางเดียวที่พอจะเป็นไปได้ก็คือ การปฏิเสธที่จะรับบทหนังแนวนี้ แล้วย้ายตัวเองกลับไปอยู่ที่ฟาร์มปศุสัตว์ที่บ้านเกิดในรัฐเท็กซัส
“ตอนที่ผมแสดงหนังโรแมนติกคอมมีดี้ ผมคือ ‘ไอ้หนุ่มหนังรอมคอม’ นะ และผมก็โอเคกับมัน มันเป็นงานที่ได้ค่าตัวดี ทุกอย่างไปได้สวย แต่ผมอยู่ในเส้นทางนี้จนแข็งแกร่งซะจนอะไรที่อยู่นอกเหนือจากนี้ ไม่ว่าจะหนังดราม่าหรือหนังที่ผมอยากเล่น ผมกลับถูกฮอลลีวูดปฏิเสธ แบบว่า ‘ไม่ ๆๆๆ มันไม่เหมาะกับนายหรอก…’ พวกเขาเอาแต่พูดว่า ‘นายเหมาะกับแนวนี้แล้วแหละ’ ผมก็เลยตัดสินใจหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่ และย้ายไปอยู่ที่ฟาร์มในเท็กซัส ผมถึงกับบอกกับภรรยาไว้ว่า ‘ผมจะไม่กลับไปทำงานอีก ถ้าผมไม่ได้บทที่ผมอยากเล่น’”
หลังจากการรับบทเล็ก ๆ ในหนังวัยรุ่น ‘Dazed and Confused’ (1993) แม็กคอนนาเฮย์เริ่มมีบทบาทในหนังดราม่าฟอร์มใหญ่ อาทิ ‘A Time to Kill’ (1996), ‘Contact’ (1997), ‘Amistad’ (1997) ก่อนจะเข้าสู่ยุค 2000 ที่เขาพลิกกลับมารับบทในหนังตลก และหนังรอมคอมที่ประสบความสำเร็จ อาทิ ‘The Wedding Planner’ (2001), ‘How to Lose a Guy in 10 Days’ (2003), ‘Failure to Launch’ (2006) รวมทั้ง ‘Fool’s Gold’ (2008), ‘Tropic Thunder’ (2008) และ ‘Ghosts of Girlfriends Past’ (2009) ฯลฯ จนทำให้ผู้ชมจดจำภาพของเขาในฐานะนักแสดงเจ้าพ่อรอมคอมและหนังตลก
หลังจากนั้น แม็กคอนนาเฮย์ก็เข้าสู่ยุคสมัยแห่งการเลือกบทบาทที่เขาอยากแสดงแบบไม่ต้องขายหล่อ อาทิ ‘The Lincoln Lawyer’ (2011), ‘Killer Joe’ (2011), ‘Mud’ (2012), ‘Magic Mike’ (2012), ‘The Wolf of Wall Street’ (2013) และการแสดงใน ‘Dallas Buyers Club’ (2013) ที่ส่งให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รวมทั้ง ‘Interstellar’ (2014) และซีรีส์ ‘True Detective’ (2014) ของ HBO ทำให้สื่อต่างเรียกขานยุคสมัยขายฝีมือของเขาว่าเป็น ‘McConaissance’
แม้การปฏิเสธบทรอมคอม และการเดินออกจากฮอลลีวูดนั้นจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่แม็กคอนนาเฮย์ยอมรับว่าเขาเองก็รู้สึกกลัวว่าเขาอาจจะไม่ได้กลับเข้าไปอีก และต้องหางานใหม่ทำ แม้จะมีบทบาทที่ให้ค่าตัวสูงลิบลิ่ว แต่เขาก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธ เพื่อรอบทบาทที่ใช่จริง ๆ
“ผมคิดว่าจะไปเป็นครูสอนในโรงเรียนมัธยม ไปเรียนเป็นวาทยกร หรือไม่ก็ไปเป็นมัคคุเทศน์นำเที่ยวสัตว์ป่า ผมเดินออกมาจากฮอลลีวูด ออกจากเส้นทางที่ฮอลลีวูดบอกว่าผมควรอยู่ และฮอลลีวูดก็คงพูดว่า ‘ซวยไปนะมึ- บอกแล้วว่าให้มาทางนี้’ มันน่ากลัวอยู่นะครับ มันคอยหลอกหลอน แต่ละวันช่างยาวนาน แต่ผมตัดสินใจไปแล้ว ผมก็จะไม่เข้าเซฟโซนและยกเลิกสิ่งที่ตั้งใจไว้ แต่มันก็น่ากลัวจริง ๆ นะ ผมไม่รู้เลยว่าจะหลุดพ้นจากช่วงเวลายากลำบากนี้ได้หรือเปล่า”
“ช่วง 2 ปีนั้นเป็นอะไรที่สั่นคลอนผมมาก เริ่มอยากกินแอลกอฮอล์ตั้งแต่ตอนเช้า โชคดีที่คามิลา อัลเวส (Camila Alves) ภรรยาผมตั้งครรภ์ลูกคนแรก ทำให้ผมเริ่มมองเห็นเป้าหมายในชีวิต แต่ผมก็ยังมีความรู้สึกว่า ‘คนเราต้องทำงานสิ ต้องสร้างอะไรขึ้นมาสักอย่าง แค่นั่งทำกระดิ่งลมกับทำสวนมันไม่พอกิน’”
“หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี มีบทบาทหนึ่งเสนอเข้ามา เป็นหนังแอ็กชันคอมมีดี้ที่ดี พร้อมข้อเสนอค่าตัว 8 ล้านเหรียญ แต่ผมปฏิเสธไป จากนั้นพวกเขาก็กลับมาพร้อมค่าตัว 10 ล้านเหรียญ ผมก็ปฏิเสธไปอีก และพวกเขาก็กลับมาอีกด้วยค่าตัว 12 ล้านเหรียญ ผมก็ยังปฏิเสธ จนสุดท้าย เขาเสนอค่าตัว 14.5 ล้านเหรียญ ตอนนั้นผมเลยคิดว่า ‘งั้นลองอ่านบทอีกสักทีแล้วกัน’”
“บทมันเป็นอันเดียวกันกับตอนที่เสนอ 8 ล้านเหรียญเลยครับ แต่คราวนี้มันดูดีขึ้น บทตลกมากขึ้น อาจเพราะได้งบเพิ่มมาอีก 6.5 ล้านเหรียญ เหมือนว่าผมน่าจะรับบทได้ แต่ผมก็ยังบอกว่าไม่ และผมคิดว่าการปฏิเสธครั้งนี้ อาจเป็นการแสดงออกต่อการขัดขืนครั้งใหญ่ที่ส่งสัญญาณถึงฮอลลีวูดชัดเจนว่า ‘แ-่งเอาจริงว่ะ’”
“แล้วเมื่อคุณได้เจอกับคนที่ไม่ยอมล้อเล่น มันกลายเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจ ผมเลยคิดว่า นี่แหละที่ทำให้ฮอลลีวูดมองผมในอีกมุมว่าเป็นไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ หลังจากนั้น ผมก็ได้เล่นในบทบาทที่ผมอยากเล่นจริง ๆ ผมรีบคว้าไว้และทำงานอย่างต่อเนื่อง สนุกไปกับมันในทุก ๆ วินาที”
The post เบื่อ ! Matthew McConaughey หนีฮอลลีวูดกลับบ้านเกิด แถมปฏิเสธ 14.5 ล้านเหรียญ เพราะไม่อยากเล่นหนังรอมคอมอีกแล้ว appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/