อีวา ลองโกเรีย (Eva Longoria) แง้ม เงิน 6 ล้านเหรียญที่ลงทุนในหนัง ‘John Wick’ ทำรายได้ให้เธอถึง 12 ล้านเหรียญ บวกกับเช็กเงินค่าตอบแทนอีก 10 ปี
The post แม่ว่าคุ้ม Eva Longoria แง้ม เงิน 6 ล้านเหรียญที่ลงทุนในหนัง ‘John Wick’ ทำรายได้ให้เธอ 12 ล้านเหรียญ บวกเช็คค่าตอบแทนตลอด 10 ปี appeared first on BT beartai.
1 ในเรื่องที่ถูกเปิดเผยออกมาในวาระที่ ‘John Wick’ (2014) หนังแอ็กชันแนวกันฟู (Gun-Fu) มีอายุครบ 10 ปีพอดีก็คือ กว่าที่หนังเรื่องนี้จะกลายมาเป็นหนังได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งของศตวรรษนี้ และเป็นหนังที่ส่งให้ คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) กลับมายืนในวงการได้อย่างสง่างาม ตัวหนังต้องผ่านอุปสรรคมามากมายตั้งแต่ตอนถ่ายทำ ที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณอย่างหนัก
ก่อนที่บุคคลปริศนาจะเป็นผู้เข้ามายื่นมือให้ความช่วยเหลือด้วยการลงเงิน 6 ล้านเหรียญเป็นทุนสร้าง ต่อชะตาให้กับหนังแอ็กชันที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเรื่องนี้เอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ตัวหนังจะถูกระงับการถ่ายทำในอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงเพราะไม่มีเงินทุนเหลืออีกต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) และ เดวิด ลิตช์ (David Leitch) ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ ‘John Wick’ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เอาไว้กับ Business Insider (สามารถอ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ได้ที่นี่)
ล่าสุด Business Insider เกาะติดเรื่องนี้ด้วยการไปสัมภาษณ์ อีวา ลองโกเรีย (Eva Longoria) นักแสดงสาวที่โด่งดังจากซีรีส์สุดฮิต ‘Desperate Housewives’ (2004-2012) และได้รับเครดิตในฐานะโปรดิวเซอร์ของหนัง จากการเป็นผู้ออกเงินทุนก้อนโตให้ แม้ตัวเธอเองจะไม่ได้เชื่อมั่นกับศักยภาพของหนังมากนัก แต่ด้วยความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้การลงทุนครั้งนี้สร้างกำไรให้เธอมากถึง 2 เท่า แถมยังได้รับเช็คเงินค่าตอบแทนมาตลอด 10 ปี
นอกจากนี้ การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นหมุดหมายสำคัญให้เธอเดินหน้าต่อในฐานะนักธุรกิจและนักลงทุน เธอเริ่มก่อตั้งบริษัทโปรดักชัน UnbeliEVAble Entertainment ที่อยู่ภายใต้บริษัท Hyphenate Media Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตซีรีส์ ‘Land of Women’ ของ Apple TV+
นอกจากนี้เธอยังเป็นนักลงทุนในร้านอาหารชั้นนำ แบรนด์เตกิลา Casa Del Sol และเป็นเจ้าของร่วมทีมสโมสรฟุตบอลหญิง Angel City FC ร่วมกับ นาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman) และแบรนด์อาหารสุขภาพ Siete Foods ที่บริษัท PepsiCo เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญ
“ตอนนั้นฉันเองยังไร้เดียงสาอยู่เลยค่ะ ฉันชอบนะที่เดวิดพูดว่า ‘พวกเขาต้องไปหาคนที่มีเงินทุนเยอะ ๆ ‘ ทั้งที่ฉันเองยังใหม่มากกับเรื่องนี้ และมันก็เป็นเงินก้อนที่ใหญ่าก (หัวเราะ) ฉันต้องถามว่า ‘แล้วจะต้องทำยังไงบ้าง ? ‘ เพราฉันไม่มีความรู้อะไรเลย ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นอัจฉริยะด้านการลงทุน และคำนวณกระจายความเสี่ยงได้แม่นยำ แต่ไม่เลย ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ”
“ตอนนั้นมีตัวแทนคนหนึ่ง ซึ่งเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของฉันเลยด้วยซ้ำนะ เขาโทรมาบอกฉันว่า ‘คุณมีเงินอยู่นี่ น่าเอาเงินไปลงทุนกับหนังเรื่องนี้นะ’ และฉันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำกันยังไง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘การระดมทุน’ คืออะไร ? “
“แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้เมื่อมองย้อนกลับไปก็คือ ฉันชอบในการลงทุนกับคน คุณอาจจะบอกฉันได้ว่าคุณอยากเปิดฟาร์มเลี้ยงไก่ แต่ถ้าคุณมีความหลงไหลในสิ่งนั้นจริง ๆ และได้ลงมือทำงานวิจัยและรู้ตลาดดีแล้ว ฉันก็พร้อมสนับสนุน อย่างแชดกับเดวิด พวกเขาทำการบ้านมาอย่างดี พวกเขาเป็นสตันท์แมน และผู้กำกับ Second Unit มากว่า 10,000 ชั่วโมง”
“พวกเขาดูหนังห่วย ๆ มาเยอะและรู้ว่าจะทำหนังดี ๆ ออกมาได้ยังไง นั่นแหละค่ะ พวกเขามีความหลงไหลอย่างไม่ต้องสงสัยเลย และฉันรู้ว่าพวกเขาจะสร้างผลงานที่ไม่ธรรมดาออกมา พวกเขามีความหิวกระหายและมุ่งมั่นเหมือนที่ฉันมี เพราะฉันเองก็เป็นคนที่สู้ชีวิตเหมือนกัน”
ลองโกเรียยังได้เปิดเผยถึงความสำคัญของการลงทุนของเธอ ที่นอกจากจะชุบชีวิตให้ ‘John Wick’ กลายเป็นหนังแอ็กชันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของยุคนี้แล้ว ยังเป็นสิ่งที่เปลี่ยนวงการหนัง และเปลี่ยนชีวิตของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกับคนที่เป็นแกนหลักสำคัญของหนังเรื่องนี้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
“มันเป็นอะไรที่เปลี่ยนวงการหนังไปเลยค่ะ และมันก็เปลี่ยนให้คีอานูได้พบกับยังเส้นทางใหม่ ๆ อย่างสิ้นเชิง ฉันจำได้ว่าปีที่แล้ว ในงานดินเนอร์ของออสการ์ ฉันนั่งที่โต๊ะ และฝั่งตรงข้ามก็มี เดวิด ลิตช์ นั่งอยู่กับภรรยา ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าเขาคือใคร เขาพูดว่า ‘สวัสดีครับ’ ฉันตอบกลับไปว่า ‘สวัสดีค่ะ’ แล้วเขาก็แนะนำตัวว่า “ผมคือเดวิดครับ” แล้วฉันก็อ๋อ ก่อนที่เขาจะบอกว่า ‘คุณคือคนที่เปลี่ยนชีวิตผมเลยนะครับ’”
“ตอนนั้นฉันเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นใคร เราไม่ได้คุยกันมา 10 ปีแล้ว ฉันไม่เคยเจอกับพวกเขาอีกเลย และก็ไม่จำเป็นต้องเจอหรอก เพราะว่ายังมีเช็คส่งมาอยู่ (หัวเราะ) แต่ตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาบังเอิญมากที่ได้นั่งกับเขา และได้ฟังเรื่องราวจากมุมมองของเขา สามีของฉันที่นั่งอยู่ด้วยถามว่า ‘คุณทำอะไร ? ‘ ฉันตอบไปว่า ‘อ๋อ ‘John Wick’ น่ะ’”
“สามีของฉันเป็นเพื่อนกับผู้บริหารของ Lionsgate เขามักจะแซวอยู่บ่อย ๆ ว่า ‘ผมรู้นะว่าสัปดาห์นี้พวกเขาจะส่งเช็คไปให้อีวาน่ะ’ แต่เอาเข้าจริง คนที่เป็นอัจฉริยะตัวจริงคือแชดกับเดวิดต่างหาก และคีอานูก็คือดาราที่ใช่ ฉันเป็นแค่คนเซ็นเช็คให้พวกเขาก็เท่านั้นเอง”
ลองโกเรียอธิบายขยายความถึงผลตอบแทนที่เธอได้รับจากการลงเงิน 6 ล้านเหรียญในกองทุนเพื่อหาทุนสร้างให้กับ ‘John Wick’ ซึ่งทำให้เธอได้รับกำไรเป็น 2 เท่า รวมทั้งยังได้รับเช็คเงินที่เป็นค่าตอบแทนมาตลอด 10 ปี
“จากการลงทุนครั้งนั้น ฉันได้เงินค่าตอบแทน คือต้องเช็กอีกทีนะ แต่รู้ว่าน่าจะมากกว่า 2 เท่าแน่นอน สิ่งที่ฉันเองเสียดายก็คือ ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมกับภาคต่อ ๆ มา มันเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซึ่งมันก็มีความเสี่ยงอยู่ แต่ความผิดพลาดเดียวของฉันก็คือการที่ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมในหนังทุกภาค”
ลองโกเรียยังเล่าประสบการณ์ที่เธอได้มีโอกาสเจอกับรีฟส์
“ฉันเพิ่งจะเจอเขาไม่นานมานี้เอง เราได้เจอกันก็เพราะแฟนของเขา อเล็กซานดรา แกรนต์ (Alexandra Grant) พวกเรารู้จักเธอผ่านเพื่อนบางคน แล้วเราก็ได้เจอกับคีอานูที่งานแสดงศิลปะ คีอานูบอกฉันว่า ‘ผมอยากพาคุณไปดินเนอร์นะ เราควรจะฉลองครบรอบ 10 ปีกัน’ เราเลยได้ดื่มฉลองให้กับ ‘John Wick’”
ทิ้งท้าย ลองโกเรียได้เปิดเผยความรู้สึกของเธอว่า แม้การลงทุนในหนัง ‘John Wick’ ครั้งนั้นจะทำให้เธอล้มเหลวและสูญเงินก้อนใหญ่ไป แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายนัก
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่ามันจะทำให้ฉันรู้สึกแย่ไหม ที่ผ่านมาฉันโชคดีที่มีนักลงทุนเก่ง ๆ รอบตัว และฉันก็เป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก ฉันมักจะถามว่า ‘ฉันจะทำยังไงให้เงินทำงานและได้เงินกลับมา ? ‘ ฉันหมกมุ่นกับเรื่องนี้มาก ๆ ฉันอยากจะหาเงินได้แม้ตอนที่ฉันหลับ”
“การมีคนรอบตัวที่สามารถบอกฉันได้ว่าอะไรเสี่ยง และอะไรไม่เสี่ยงนั้นเป็นเรื่องที่ดี คำถามที่ว่า ‘คุณจะยอมขาดทุนได้มากแค่ไหน ? ‘ นั่นเป็นคำถามที่สำคัญเสมอ (หัวเราะ) และฉันก็มักจะคิดว่า ‘ฉันจะยอมขาดทุนได้มากขนาดไหนน่ะเหรอ ? ‘ ซึ่งคำตอบก็คือศูนย์ ไม่มีทางเป็นอันขาด ! “
The post แม่ว่าคุ้ม Eva Longoria แง้ม เงิน 6 ล้านเหรียญที่ลงทุนในหนัง ‘John Wick’ ทำรายได้ให้เธอ 12 ล้านเหรียญ บวกเช็คค่าตอบแทนตลอด 10 ปี appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/