ทีมงาน Thailand Game Show ได้มีโอกาสทดลอง Romancing SaGa 2 Revenge of the Seven ซึ่งเป็นการนำเกมภาคต้นจากยุค Super Famicom (SNES) ที่ออกมาในปี 1993 มาทำการรีเมกโดยปรับปรุงในหลายด้านเพื่อให้ร่วมสมัย เช่น กราฟิกที่ถูกสร้างใหม่เป็นแบบ 3D, งานพากย์,ระบบการต่อสู้และอินเตอร์เฟซ รวมถึงการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ ซึ่งทีมงานทดลองเล่น Demo ราว ๆ 2 – 3 ชั่วโมง ที่ก็มากพอจะเก็บประสบการณ์ความประทับใจหลายอย่างมาบอกเล่าสู่กันฟัง เนื้อเรื่องของเกม จะว่าด้วยการตามต่อสู้ระหว่างราชวงศ์ของมนุษย์และปีศาจทั้ง 7 ที่เป็นผู้ทรยศมวลมนุษย์ ความพิเศษของเกมนี้ที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนคือระบบที่เรียกว่า Inheritance System เป็นการสืบบัลลังค์จากรุ่นสู่รุ่น โดยจะมีการส่งต่อความสามารถพิเศษจากรุ่นก่อนหน้าสู่รุ่นถัด ๆ ไป เพื่อให้ผู้เล่นได้เรียนรู้สกิลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และระบบนี้ยังจะช่วยผลักดันให้ผู้เล่นได้ทดลองเล่นตัวละครที่หลากหลายโดยไม่ยึดติดกับตัวละครใดตัวละครหนึ่ง นอกจากนี้การผลัดเปลี่ยนของตัวเอกเองแล้ว เราเองก็จะเป็นผู้เลือกเพื่อนคู่ใจในยุคต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมาก จึงทำให้ระหว่างการเดินทาง ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับประสบการณ์การเล่นที่เป็นของตัวเองโดยเฉพาะ เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือการพิชิต…
The post พรีวิว Romancing SaGa 2 Revenge of the Seven นี่สิรีเมกของแท้! appeared first on BT beartai.
ทีมงาน Thailand Game Show ได้มีโอกาสทดลอง Romancing SaGa 2 Revenge of the Seven ซึ่งเป็นการนำเกมภาคต้นจากยุค Super Famicom (SNES) ที่ออกมาในปี 1993 มาทำการรีเมกโดยปรับปรุงในหลายด้านเพื่อให้ร่วมสมัย เช่น กราฟิกที่ถูกสร้างใหม่เป็นแบบ 3D, งานพากย์,ระบบการต่อสู้และอินเตอร์เฟซ รวมถึงการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ ซึ่งทีมงานทดลองเล่น Demo ราว ๆ 2 – 3 ชั่วโมง ที่ก็มากพอจะเก็บประสบการณ์ความประทับใจหลายอย่างมาบอกเล่าสู่กันฟัง
เนื้อเรื่องของเกม จะว่าด้วยการตามต่อสู้ระหว่างราชวงศ์ของมนุษย์และปีศาจทั้ง 7 ที่เป็นผู้ทรยศมวลมนุษย์ ความพิเศษของเกมนี้ที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนคือระบบที่เรียกว่า Inheritance System เป็นการสืบบัลลังค์จากรุ่นสู่รุ่น โดยจะมีการส่งต่อความสามารถพิเศษจากรุ่นก่อนหน้าสู่รุ่นถัด ๆ ไป เพื่อให้ผู้เล่นได้เรียนรู้สกิลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และระบบนี้ยังจะช่วยผลักดันให้ผู้เล่นได้ทดลองเล่นตัวละครที่หลากหลายโดยไม่ยึดติดกับตัวละครใดตัวละครหนึ่ง นอกจากนี้การผลัดเปลี่ยนของตัวเอกเองแล้ว เราเองก็จะเป็นผู้เลือกเพื่อนคู่ใจในยุคต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมาก จึงทำให้ระหว่างการเดินทาง ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับประสบการณ์การเล่นที่เป็นของตัวเองโดยเฉพาะ เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือการพิชิต 7 ราชาปีศาจ
เปิดด้วยเรื่องที่เห็นชัดที่สุดก่อนกับประสิทธิภาพ Romancing SaGa 2: Revenge of the Seven ได้รับการปรับปรุงหลายอย่างที่สำคัญเมื่อเทียบกับเกมต้นฉบับ อย่างแรกเลยคือกราฟิกแบบ 3D เต็มรูปแบบ ที่บรรดาโมเดล หรือ พาร์ติเคิลเอฟเฟกต์ จะถูกสร้างออกมาให้มีควาใกล้เคียงเกม RPG ยุคใหม่ ๆ มากขึ้น ที่แม้มันอาจจะไม่ได้สวยเท่ากับเกม AAA ในท้องตลอด แต่ก็สามารถให้ความรู้สึกเพลินตา ไม่ฉีกออกจากเกมต่าง ๆ ที่ได้เล่นมาในหลายปีมานี้ และในแง่ที่ต้องชื่นชมคือฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเล่น คราวนี้ระบบการต่อสู้จะแสดงข้อมูลจุดอ่อนและการต้านทานของศัตรูอย่างชัดเจน เมื่อผู้เล่นลองโจมตีด้วยรูปแบบต่าง ๆ กับศัตรูตัวนั้น ๆ เหมือนกับ Octopath Traveler ที่มันไม่ได้ช่วยเหลือผู้เล่นมากเกินไป เพราะเรายังต้องเป็นคนค้นพบจุดอ่อนต่าง ๆ เองอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน เกมมันก็จะบันทึกไว้ให้ว่าศัตรูต่าง ๆ มันแพ้อะไร ไม่ต้องมาคอยนึก คอยจำเองแล้ว และในภาครีเมกนี้เควสต์จะมีบอกตำแหน่งในฉากการเล่นแล้ว ไม่ต้องงม เดินคุยกับ NPC ทั่วฉากอีกต่อไป (ขอบคุณสวรรค์ …)
ระบบต่อสู้ยังคงยึดความเก๋าในรูปแบบระบบเทิร์นเบสผลัดกันตีตามลำดับ ที่มันก็ไม่น่าเบื่อเลยด้วยแอนิเมชันที่กระชับฉับไว โดยในหลังจบการต่อสู้ทั้งปาร์ตี้จะได้รับการฟื้นฟู HP เต็ม ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสามารถเดินหน้าต่อได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความพร้อมสักเท่าไหร่ แต่กับ BP (Battle Points) แต้มที่ไว้ใช้ในการร่ายสกิลนั้นจะมีจำนวนจำกัด และจะฟื้นฟูได้เฉพาะด้วยไอเทมหรือที่จุดฟื้นฟู BP เท่านั้น ซึ่งสกิลเกมนี้มีความสำคัญมาก ๆ (โดยเฉพาะกับการเผชิญหน้ากับบอส) ทำให้เราต้องวางแผนการใช้งานดี ๆ อีกทั้งการโจมตีปกติและสกิลนี้ยังช่วยให้ผู้เล่นสามารถเติมเกจ Overdrive ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะปลดปล่อยการโจมตีแบบ “United Attack” ที่ทำให้ปาร์ตี้ทั้งหมดสามารถร่วมกันโจมตีศัตรูได้อย่างหนักหน่วง
และหนึ่งในจุดเด่นของเกมนี้คือตัวละครในปาร์ตี้ของเราสามารถตายได้แบบถาวร หากพวกเขาถูกำจัดในระหว่างการต่อสู้บ่อยครั้งจนเกจ LP (Life Points) หมด เราจะไม่สามารถใช้งานตัวละครนั้นได้อีกเลย ฟังดูเหมือนโหดหิน แต่เอาจริง ๆ มันอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ขนาดนั้น เพราะยังมีสมาชิกคนอื่นที่สามารถนำมาใช้แทนได้ แต่ที่คุณเสียตัวละครที่ชื่นชอบปั้นมาอย่างดี ก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายไม่ใช่น้อยละนะ (เกมมันเลยมีระบบ HP เต็มหลังการต่อสู้มาให้เพื่อลดความเสี่ยงยังไงละ)
เกมยังมีระบบเพิ่มความชำนาญในการใช้ประเภทอาวุธต่าง ๆ ในการต่อสู้ โดยเมื่อถึงจุดหนึ่ง ผู้เล่นจะได้รับสกิลใหม่ ๆ จากระบบ Glimmer (รูปหลอดไฟ) และตัวเกมยังมีระบบจัดรูปแบบทีม (Formation) ให้สามารถเลือกการจัด Formation ให้กับปาร์ตี้ของคุณได้เพื่อเป็นทั้งการป้องสมาชิกในปาร์ตี้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด หรือเพื่อใช้ในการรีดการโจมตีได้สูงที่สุด เช่น การจัดแบบแนวนอนที่ไม่มีจุดแข็งหรือจุดอ่อน แต่ถ้าคุณเลือกการจัดแบบกากบาท (Cross Formation) ตัวละครหนึ่งจะได้รับการโจมตีมากขึ้น แต่พวกเขาจะได้รับการป้องกันเพิ่มเติมเพื่อแลกกับการโจมตีที่เพิ่มเข้ามา เป็นต้น
และสิ่งที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์นี้คือเพลงประกอบที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก โดยทางทีมงานก็ใส่ใจในส่วนนี้โดยให้ตัวเลือกการใช้เพลงประกอบที่เลือกได้ทั้งแบบ Original และแบบที่ถูกเรียบเรียงใหม่ รวมถึงมีการใส่เสียงพากย์เข้ามาในเกมเพิ่มเติมอีกด้วย การกลับมาครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคอมเกมยุคใหม่ที่อยากจะลองสัมผัสเกมซีรีส์ในตำนานนี้ดูสักครั้ง และทางทีมงานก็ได้รับเกียรติร่วมสัมภาษณ์พูดคุยกับ Producer ของเกมนี้คุณ Shinichi Tatsuke อีกเช่นกัน ซึ่งเราจะนำเสนอข้อมูลจากบทสัมภาษณ์ให้ได้อ่านเร็ว ๆ นี้
Romancing SaGa 2 Revenge of the Seven จะวางจำหน่ายในวันที่ 24 ตุลาคม 2024 บน PlayStation 4, PlayStation 5, และ Nintendo Switch และ PC (Steam)
The post พรีวิว Romancing SaGa 2 Revenge of the Seven นี่สิรีเมกของแท้! appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/