
สรุป Session Future of media ในงาน CTC2024 ที่จะร่วมหาคำตอบในยุค AI Transformation กับอนาคตสื่อไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
The post CTC 2024: Future of media สื่อไทยจะไปต่ออย่างไรในอนาคต? appeared first on BT beartai.
สรุป Session Future of media โดยคุณพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เจ้าของเว็บไซต์ BT beartai, คุณณัฎฐา โกมลวาทิน สำนักข่าว THE STANDARD, คุณจิตสุภา วัชรพล สำนักข่าวไทยรัฐ ในงาน CTC2024 ที่จะร่วมหาคำตอบในยุค AI Transformation กับอนาคตสื่อไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
ความท้าทายวงการสื่อในปัจจุบัน
คุณหนุ่ย หรือพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เริ่มแชร์มุมองว่า ช่วงผลิบานหอมหวานสุดของวงการสื่อมีเดียนั้นได้ผ่านไปแล้วในช่วงโควิด เนื่องจากช่วงนั้นแบรนด์ต่าง ๆ ที่ถืองบประมาณการตลาดไว้ไม่สามารถจ่ายกับการออกบูธโปรโมท หรือจัดตั้งอีเวนต์ใด ๆ ได้เลย ทำให้งบส่วนนี่้เองถูกนำมาลงในส่วนรีวิวผ่านช่องทางออนไลน์กันแทบทุกแบรนด์ ตลาดของสื่อจึงคึกคักมากช่วงนั้น แต่มันอาจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ตอนนี้พฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนไป ผู้ชมที่เคยดูคอนเทนต์ออนไลน์หลายรายการลดลง แต่ผู้สร้างคอนเทนต์เพิ่มขึ้นสวนทางกันอย่างน่าประหลาดใจ โดยปัจจุบันประเทศไทยมี Influencer ราว ๆ กว่า 2 ล้านคน จากทางสภาพัฒน์ฯ และต้องยอมรับว่า 1 เพจไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาเพื่อคนทุกกลุ่มได้อีกแล้ว ผู้ชมรายการเราเค้าติดตามเพราะคอนเทนต์แบบหนึ่ง ถ้ามีคอนเทนต์แปลก ๆ มาผู้ชมอาจไม่ได้กดดูและไม่ได้รับความนิยมเท่า
คุณจิตสุภา วัชรพล สำนักข่าวไทยรัฐ
ซึ่งทางคุณจิตสุภา วัชรพล จากสำนักข่าวไทยรัฐ เห็นด้วยว่าเราตอบสนองกลุ่มผู้ชมเราด้วยเนื้อทุกประเภทไม่ได้ เพราะไม่สามารถรองรับทุกความสนใจของแต่ละคนดูได้ในที่เดียวอีกต่อไป จึงได้เปิดช่องเพิ่ม 8 ช่อง เพื่อขยายความสนใจของผู้บริโภคที่มากขึ้นเยอะ จับกลุ่มคนดูที่แตกต่างกันออกไป ยังได้ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมของแต่ละแพลตฟอร์มมากขึ้นด้วย
คุณณัฎฐา โกมลวาทิน สำนักข่าว THE STANDARD
และฝั่งของ THE STANDARD คุณณัฎฐา โกมลวาทิน นั้นก็มองถึงโอกาสความเปลี่ยนแปลงของคอนเทนต์ที่หลากหลายเช่นกัน และช่วงต้นปีก็พึ่งเปิดช่อง THE STANDARD SPORT มาเพิ่ม ทำให้ตอนนี้ก็มีช่องหลัก 8 ช่อง แล้ววางตำแหน่งองค์กรตัวเองว่าอยู่ตรงกลางระหว่าง ไทยรัฐที่มีการนำเสนอข่าว Mass กับข่าวเฉพาะทางแบบ BT beartai
นี่จึงทำให้เหล่าสื่อต่าง ๆ รู้เลยว่า พฤติกรรมผู้เสพสื่อเปลี่ยนไปอย่างไร การนำเสนอแบบสื่อเก่าหมดไปแล้ว เรากำหนดให้ผู้ชมต้องมาดูเราแบบช่องโทรทัศน์ไม่ได้อีก และเทรนด์ทำคลิปก็ยังคงคาดเดายาก เพราะความสั้น-ยาวของวิดีโอเปลี่ยนไปมาอย่างต่อเนื่อง จึงสรุปได้ว่า ปัจจุบันการเข้าใจศาสตร์และศิลป์ของโลกโซเชียลเป็นความคิดตั้งต้นที่คนทำสื่อควรที่จะมี
คำแนะนำทางออกให้คนทำสื่อต่อไปได้ในอนาคต
อันดับแรก รับรู้ถึงเป้าหมายและคุณค่าของสื่อเราว่าเป็นอย่างไร เมื่อเรายึดจุดมุ่งหมายของเราให้มั่นแล้ว ค่อยกำหนดว่าเราทำสื่อหรือคอนเทนต์ไปเพื่ออะไร ไม่ต้องขยันทำเยอะ เน้นที่คุณภาพดีกว่า เพราะคอนเทนต์ที่ดีจะขายด้วยตัวมันเอง ยอดวิวอาจไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีเสมอไป
อีกทั้งสำนักข่าวใช้ AI ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าไม่ใช่ตกยุคแน่นอน เมื่อนำมาใช้แล้วก็ควรรู้ว่าใช้อย่างไรให้เพิ่มพูนคุณค่าในองค์กร และสำคัญเลยคือเราก็ต้องมีความรู้ที่เท่าทันการใช้เครื่องมือนี้เช่นกัน
ต่อมาอีกสิ่งสำคัญคือ ต้องเข้าใจลูกค้าว่าคือใคร ต้องนึกถึงคนดูในเชิงลึก ทำเล็กก็ได้เพื่อโฟกัสกลุ่มคนดู แล้วนำมาปรับยังไงให้เป็นมาตรฐาน และพัฒนาเพิ่มเติมสิ่งใหม่ ๆ ด้วยมุมมองที่แตกต่าง และยิ่งมี Community ได้ยิ่งดี จะรักษาให้คนดูเราได้ก็ต้องมีความสม่ำเสมอในการอัปคลิป เพื่อให้เกิดการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง
และส่วนสุดท้ายคือ การเข้าใจ Business Model ของเรา รู้ว่าเราจะหารายได้จากส่วนไหน มียอดวิวแล้วเอาไงต่อดี และหากสื่อต้องการขยายช่องทางเพื่อรองรับกลุ่มผู้ชมที่มากขึ้น ก็ควรต้องมี KPI วัดผลที่ชัดเจน กระทั่งถึงจุดหนึ่งที่ไม่สร้างรายได้หรือคุณค่าต่อสังคมก็รู้ให้ไวว่า เวลาไหนควรปล่อยแล้วตัดบางช่องทางออก ก่อนจะต้องรับความเสียหายที่หนักกว่าเดิม และต้องรู้จักบาลานซ์สมดุลระหว่างธุรกิจและความเป็นตัวเองของแบรนด์ เพื่อทำให้การก้าวมาเป็นผู้สร้างคอนเทนต์นั้นสนุกได้ยาว
โลกไม่อนุญาตให้คุณทำธุรกิจไหนคนเดียว เมื่อมีคนทำมากขึ้น แปลว่าคุณทำถูกแล้วมาถูกทาง แต่ความยากคือ ทำอย่างไรให้อยู่ต่อไปได้
— พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เจ้าของบริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด
การรับชมเซสซั่นนี้นับว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ทำสื่อทุกท่านแน่นอน จะทำให้เข้าใจองค์รวมความท้าทายของสื่อในปัจจุบัน และแนวการเตรียมรับมือเพื่อเติบโตด้านการทำสื่อต่อไปในอนาคต
The post CTC 2024: Future of media สื่อไทยจะไปต่ออย่างไรในอนาคต? appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/