![[บทความ] เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ 9 ปีแห่งความทรงจำ ที่แฟนลิเวอร์พูลไม่มีวันลืม](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2024/05/image-93-600x306.jpg)
เจอร์เก้น คล็อปป์ สุดยอดกุนซือของลิเวอร์พูล กับการเดินทางตลอด 9 ปี แห่งความทรงจำกับลิเวอร์พูลของชายผู้เป็นตำนาน ทีเหล่าบรรดาเดอะค็อปไม่วันลืม
The post [บทความ] เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ 9 ปีแห่งความทรงจำ ที่แฟนลิเวอร์พูลไม่มีวันลืม appeared first on BT beartai.
ระยะเวลาเกือบหนึ่งทศววรษ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้าของฉายา เดอะ นอร์มอล วัน ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว เรียกว่าเป็นกุนซือที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูลคนนึง ก็คงไม่เกินจริงมากนัก ชายผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงลิเวอร์พูลและนำพาความสำเร็จเข้ามาสู่สโมสรอย่างไม่ขาดสาย ชายผู้เป็นที่รักของเหล่าบรรดาเดอะค็อป ร่วมสุขร่วมทุกข์กับทีมมาตลอดไม่เคยคิดทิ้งทีมไปไหน
ชายคนนี้จะเป็นตำนานที่ไปยืนอยู่ในใจแฟนบอลลิเวอร์พูลตราบนานเท่านาน ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่อยู่กับทีม มันเต็มไปด้วยโมเมนต์ที่น่าประทับใจและน่าจดจำทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น แชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอยมา 30 ปี หรือ แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 6 และแชมป์บอลถ้วยในประเทศอีกมากมาย
ทั้งหมดที่กล่าวมาเราจะพาไปไล่เรียงย้อนรอย 9 ปีแห่งความทรงจำ การเดินทางกับลิเวอร์พูลของชายผู้เป็นตำนานคนนี้กัน
ช่วงกำลังสร้าง
เจอร์เก้น คล็อปป์เข้ามาคุมในฤดูกาล 2015-2016 ต่อจากกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในช่วง 3 ปีแรกไม่ใช่ช่วงที่ง่ายสำหรับ คล็อปป์ เขาเข้ามาปรับเปลี่ยนหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ทัศนคติ ความเชื่อ จิตวิญญาณการเป็นผู้ชนะ รูปแบบวิธีการเล่น วางโครงสร้างรากฐาน และวางเป้าหมายให้ทุกคนภายในทีมมีเป้าหมายเดียวกัน
คล็อปป์ใช้เวลาพอสมควรในการเปลี่ยนแปลง ลิเวอร์พูลเริ่มมีรูปแบบแนวทางที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยวิธีการเล่นแบบเกเก้นเพรสซิ่ง ฟอร์มของทีมเริ่มพัฒนาขึ้นตามลำดับ แต่แม้จะมีแนวโน้มดีและสามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจแต่ในช่วง 3 ปีแรก พวกเขาก็มักจะจบด้วยการเป็นแค่ พระรอง อยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นในปีแรกที่จบด้วยการเป็นรองแชมป์ 2 ถ้วย นั้นคือ รองแชมป์ยูโรปาลีก กับ รองแชมป์ลีกคัพ ก่อนจะจบด้วยการเป็นรองแชมป์อีกครั้งในฤดูกาล 2017-2018 ในถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่พ่ายต่อเรอัล มาดริดไป
แชมป์ใบแรกกับลิเวอร์พูล
หลังจากผ่าน 3 ปีแรกที่เป็นได้แค่พระรอง ในฤดูกาล 2018-2019 นับปีที่ลิเวอร์พูลทำผลงานได้ดีปีนึง ด้วยขุนกำลังที่เริ่มลงตัวในทุกตำแหน่ง ในลีกพวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้สุดท้ายจะเป็นได้แค่พระรองอีกครั้ง
ซึ่งมีแต้มห่างจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์ในปีนั้นแค่คะแนนเดียว โดยทำไป 97 คะแนน แต่แมนฯ ซิตี้ทำไป 98 คะแนน นับเป็นรองแชมป์ที่ทำแต้มได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เรียกได้ว่าถ้าเป็นฤดูกาลอื่นคงได้แชมป์ไปแล้ว
แต่ในถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกพวกเขาทำผลงานได้อย่างสุดยอดไม่แพ้กัน ในรอบตัดเชือกพวกเขาฝ่าฟันทั้งบาเยิร์น มิวนิค ปอร์โต้ และบาร์เซโลน่า ทะลุ มาถึงรอบชิงชนะเลิศมาพบกับ สเปอร์ส และสามารถเอาชนะไปได้ 2-0 คว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 6 ได้สำเร็จ
แต่เป็นรอบที่เป็นไฮไลต์นั้นคงหนีไม่พ้น รอบรองชนะเลิศที่สามารถพลิกเอาชนะบาเซโลน่าได้อย่างปาฏิหาริย์ เกมที่ไม่มีใครเชื่อว่าลิเวอร์พูลจะกลับมาได้ หลังจากเกมแรกที่บุกไปเยือนที่คัมป์นูโดนนำไป 3-0 แต่กลับมาเล่นที่แอนฟิลด์สามารถพลิกเอาชนะได้ 4-0 (สกอร์รวม 4-3) ผ่านเข้ารอบไปได้
แชมป์ 30 ปีที่รอคอย
ในฤดูกาล 2019-2020 เป็นฤดูกาลที่กลับมาเพื่อแค้น หลังจากจบด้วยการเป็นรองแชมป์อย่างน่าปวดใจให้กับแมนฯซิตี้ พวกเขาทำผลงานได้อย่างสุดยอดชนิดที่ว่าไม่มีใครมาหยุดพวกเขาได้ ใน 20 นัดของฤดูกาล คล็อปป์ พาลูกทีม ชนะไป 19 เสมอ 1 ทำแต้มทิ้งห่างทีมอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น เรียกว่านำม้วนเดียวจบ
โดยฤดูกาลนี้ทำไปถึง 99 คะแนนมากที่สุดเป็นสถิติของสโมสร คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกได้สำเร็จ หลังรอคอยมากว่า 30 ปี แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือเป็นปีที่โควิดระบาด ทำให้แฟนบอลเข้าสู่สนามไม่ได้ พลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสบรรยากาศที่พวกเขารอคอย
เท่านั้นยังไม่พอในปีนั้น พวกเขายังสามารถคว้าได้ทั้งแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ และ สโมสรโลก ได้อีก นับว่าเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของ เจอร์เกน คล็อปป์ กับลิเวอร์พูลเลยก็ว่าได้
ปีที่ยากลำบาก
ในฤดูกาล 2020-2021 นับเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากสำหรับลิเวอร์พูลเป็นอย่างมาก มีช่วงที่พวกเขาหล่นไปอยู่โวนกลางตาราง ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นคนสำคัญหลาย ๆ คน โดยเฉพาะเหล่าบรรดากองหลังไม่ว่าจะเป็น เวอร์จิล ฟานไดค์ โจเอล มาติป เป็นต้น
จนในบางช่วงต้องถอย ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเอร์สัน ลงมาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คจำเป็น แต่ในท้ายที่สุด คล็อปป์ ก็สามารถประคองทีมให้ติดท็อป 4 ได้ในช่วงท้ายฤดูกาล พาทีมคว้าโควต้าไปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ
นัดที่เป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่น่าจดจำของฤดูกาลนี้คงหนีไม่พ้น นัดที่เจอกับทางเวสต์บรอม ในช่วงท้ายฤดูกาล โดยเกมทำท่าว่าจะเสมอ 1-1 แต่ในช่วงทดเวลามาได้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ โหม่งประตูชัย ให้ลิเวอร์พูลชนะไปได้ 2-1 ทำทีมมีลุ้นโควต้าฟุตบอลยุโรปต่อ
ลุ้น 4 แชมป์
ฤดูกาล 2021-2022 ในฤดูกาลนี้พวกเขาสามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้ง บวกกับการได้นักเตะคนสำคัญกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ลิเวอร์พูล สามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดี ในทุกรายการที่ลงแข่งขัน พวกเขาลงสนามไปกว่า 60 นัดในทุกรายการ
นับเป็นปีที่ดีปีนึง ถึงแม้ในตอนสุดท้ายจะไม่สมหวังทั้งหมดด้วยการคว้าได้ 2 ถ้วย จาก 4 รายการที่ลงแข่งขัน นั้นคือ แชมป์เอฟเอคัพ กับ คาราบาวคัพ ที่สามารถเอาชนะเชลซีได้ทั้ง 2 ถ้วย ส่วนอีก 2 ถ้วยนั้นก็เป็นรองแชมป์แบบน่าเสียดาย พรีเมียร์ลีกแม้พวกเขาจะแต้มได้ถึง 92 คะแนน แต่ก็เป็นรอง แมนฯซิตี้ทีมแชมป์ในปีนั้นที่ทำไป 93 คะแนน
ส่วนในรายการแชมเปียนส์ลีก ก็ไม่ต่างกัน แม้ในรอบตัดเชือกจะทำผลงานได้ดี แต่ในรอบชิงชนะเลิศพวกเขาต้องมาเจอ เรอัล มาดริด ทีมที่พวกเขาเคยพ่ายในรอบชิงปี 2018 โดยลิเวอร์พูลก็หวังที่จะแก้แค้น แต่ในท้ายที่สุดก็ทำไม่สำเร็จแพ้ไป 1-0
มาตรฐานดร็อป
ฤดูกาล 2022-2023 นับเป็นฤดูกาลที่ไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไหร่สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล พวกเขาฟอร์มดร็อปลงอย่างน่าใจหาย ถึงแม้ตัวเล่นจะเป็นตัวเล่นที่ไม่ค่อยแตกต่างจากปีก่อน แต่ด้วยฤดูกาลก่อนที่กำศึกหนักส่งผลต่อสภาพร่างกาย ความฟิต พอสมควร บวกกับ ตัวผู้เล่นตัวหลักเริ่มอายุเยอะ
ทำให้ฟอร์มโดยรวมดร็อปลง พวกเขาจบฤดูกาลนี้ด้วยอันดับ 5 ถึงแม้จะเป็นฤดูกาลที่ไม่น่าประทับใจ แต่ก็มีนัดที่แฟนบอลลิเวอร์พูลไม่มีวันลืม นั้นคือ การเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับตลอดกาล ไปอย่างถล่มทลาย 7-0
เป็นสิ่งที่ถ้าถามก่อนเกมไม่มีใครคิดว่าจะจบด้วยสกอร์นี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ปูมา เมื่อเทียบกับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ปีนั้นทำผลงานได้ดีกว่าชัดเจน เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าเกมแดงเดือดนั้นอยู่เหนือสมการทุกสิ่ง แม้ฟอร์มจะไม่ดียังไง แต่เมื่อเจอกันไม่มีใครยอมกันแน่นอน
ปีแห่งการอำลา
ฤดูกาล 2023 -2024 เป็นฤดูกาลแห่งการผลัดใบ ตัวผู้เล่นเก่าที่อายุเยอะเริ่มออกจากทีม และเริ่มสร้างลิเวอร์พูล 2.0 ในฤดูกาลนี้ไม่มีคาดคิดว่าลิเวอร์พูลจะโชว์ฟอร์มได้ดี แต่พวกเขากลับทำได้เกินคาด จนแฟนบอลหลายคนมีความหวัง ทุกอย่างกำลังได้ดี
จนกระทั่งการประกาศอำลาของคล็อปป์ ด้วยเหตุผลที่ตัวเขาหมดพลังงาน ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจนทำให้หลายคนใจหาย แต่มันเหมือนดาบสองคม ที่กลายเป็นพลังให้นักเตะมีแรงใจในการสร้างช่วงเวลาแห่งความทรงจำไปด้วยกัน
แม้ในตอนสุดท้ายจะไม่จบลงแบบหนังดี ๆ สักเรื่อง ด้วยการคว้าแชมป์ไปได้ถ้วยเดียว จาก 4 รายการที่ลงแช่งขัน นั้นคือ แชมป์คาราบาวคัพ หากแต่ตลอดเส้นทางที่ คล็อปป์ ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับสโมสรตลอดกว่า 9 ปีนั้น สิ่งเหล่านี้จะไม่ถูกลบเลือนไปจากใจเหล่าบรรดาเดอะค็อปแน่นอน
โมเมนต์ที่น่าประทับใจในฤดูกาลนี้แน่นนอนว่าต้องเป็น นัดอำลาของ คล็อปป์ ที่คุมทีมพบกับวูล์ฟแฮมตัน แล้วเอาชนะไปได้ 2-0 ปิดฉากการคุมลิเวอร์พูลแบบสมบูรณ์แบบ ซึ่งแม้ว่ามวลรวมสถานการณ์ในนัดนี้จะเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ที่หลังจากนี้จะไม่ได้เห็นชายคนนี้คุมทีมข้างสนามด้วยแพสชั่นที่เต็มเปี่ยม ด้วยรอยยิ้มที่แฟนบอลคุ้นเคย ให้กับลิเวอร์พูลอีกแล้ว
ทั้งหมดที่กล่าวกำลังจะกลายเป็นความทรงจำที่สุดแสนจะมีค่า ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่มีทางที่แฟนลิเวอร์พูลจะลืมได้ลง ขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้กับสโมสร หลังจากนี้ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าของคล็อปป์จะเป็นอย่างไร จะสุขหรือจะทุกข์ แต่โปรดจำไว้ว่าคุณจะไม่วันเดินอย่างเดียวดายแน่นอน “You’ll Never Walk Alone”
The post [บทความ] เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ 9 ปีแห่งความทรงจำ ที่แฟนลิเวอร์พูลไม่มีวันลืม appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/