หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของมาเลเซีย Nanyang Siang Pau รายงานว่า KFC ในมาเลเซียได้ปิดร้านชั่วคราว 108 สาขา จากร้านทั้งหมดในประเทศประมาณ 600 สาขา เนื่องจากชาวมาเลเซียได้บอยคอตแบรนด์ที่ถูกมองว่าสนับสนุนหรือมีความเชื่อมโยงกับรัฐยิว ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งตอนนี้กระแสบอยคอตแบรนด์ของสหรัฐฯ กำลังแพร่กระจายไปยังประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และเมื่อไม่นานนี้ร้าน Starbucks ในอินโดนีเซียก็ได้รับผลกระทบขาดทุนในไตรมาสที่ 1
The post ชาวมาเลเซียบอยคอต KFC จนต้องปิดร้านไปกว่า 100 สาขา appeared first on BT beartai.
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของมาเลเซีย Nanyang Siang Pau รายงานว่า KFC ในมาเลเซียได้ปิดร้านชั่วคราว 108 สาขา จากร้านทั้งหมดในประเทศประมาณ 600 สาขา เนื่องจากชาวมาเลเซียได้บอยคอตแบรนด์ที่ถูกมองว่าสนับสนุนหรือมีความเชื่อมโยงกับรัฐยิว ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งตอนนี้กระแสบอยคอตแบรนด์ของสหรัฐฯ กำลังแพร่กระจายไปยังประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และเมื่อไม่นานนี้ร้าน สตาร์บัคส์ (Starbucks) ในอินโดนีเซียก็ได้รับผลกระทบขาดทุนในไตรมาสที่ 1
KFC ในมาเลเซียปิดร้านทั่วประเทศ 108 สาขา ซึ่งเยอะที่สุดในรัฐกลันตันปิดไป 21 สาขา, รัฐยะโฮร์ปิดไป 15 สาขา และรัฐเนกรีเซมบีลัน 6 สาขา ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ครอบครัวของพนักงาน KFC จะได้รับผลกระทบจำนวนไม่น้อย
QSR Brands ผู้ดำเนินกิจการร้าน KFC ในมาเลเซียเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้ปิดสาขาไปบางแห่งเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย พร้อมเผยมีพนักงานในมาเลเซีย 18,000 คน ซึ่งประมาณ 85% เป็นชาวมุสลิม และเสริมว่าพนักงานในสาขาที่ได้รับผลกระทบจะถูกย้ายไปยังสาขาอื่นที่เปิดอยู่
ประชาชนของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม คือ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ได้วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ ที่สนับสนุนอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส ส่งผลให้หลายเดือนที่ผ่านมามีการบอยคอตแบรนด์อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐฯ เช่น สตาร์บัคส์ และแมคโดนัลด์ ซึ่งมีรายงานว่าสตาร์บัคส์ในมาเลเซียมีรายได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ลดลง 38.2% และซีอีโอของแมคโดนัลด์เผยว่าได้รับผลกระทบในประเทศมุสลิมอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ด้วยเช่นกัน
The post ชาวมาเลเซียบอยคอต KFC จนต้องปิดร้านไปกว่า 100 สาขา appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/