
โรบิน วิลเลียมส์ (Robin Williams) ส่งจดหมายไปหาครูใหญ่ของโรงเรียน เพื่อขอร้องไม่ให้ไล่นักแสดงเด็กใน ‘Mrs. Doubtfire’ ออกจากโรงเรียน
The post Robin Williams ส่งจดหมายหาครูใหญ่ เพื่อขอร้องไม่ให้ไล่นักแสดงเด็กใน ‘Mrs. Doubtfire’ ออกจากโรงเรียน appeared first on BT beartai.
เมื่อ 31 ปีที่แล้ว เป็นปีที่หนังตลกดราม่าฟีลกู๊ดครอบครัวสุดทัชใจ ผลงานการกำกับของผู้กำกับเจ้าพ่อหนังเด็ก คริส โคลัมบัส (Chris Columbus) อย่าง ‘Mrs. Doubtfire’ (1993) เข้าฉาย ด้วยเรื่องราวสุดเพี้ยนนิด ๆ แต่อุ่นใจของ แดเนียล ฮิลลาร์ด นักพากย์อิสระคุณพ่อลูก 3 ที่ถูกภรรยาฟ้องหย่า เขาจึงต้องการหาโอกาสเข้าใกล้ลูก ๆ ด้วยการทำทีมาสมัครเป็นแม่บ้านคนใหม่ เขาเลยต้องปลอมตัวเป็นหญิงสูงวัยชาวสก็อตสุดเปิ่นนามว่า คุณนายยูเฟจีเนีย เดาท์ไฟร์
ด้วยเรื่องราวอันน่ารักที่ถ่ายทอดผ่านเรื่องราวเพี้ยนนิด ๆ แต่อุ่นใจสุด ๆ หนังเรื่องนี้เลยประสบความสำเร็จด้านรายได้และคำวิจารณ์อย่างงดงาม ด้วยตัวเลข Box office สูงถึง 441 ล้านเหรียญ เป็นหนังที่ทำรายได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของปี 1993 รวมทั้งยังคว้ารางวัลออสการ์ สาขาแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยมด้วย
ส่วนตัวนักแสดงนำผู้ล่วงลับอย่าง โรบิน วิลเลียมส์ (Robin Williams) ก็แสดงฝีมือทั้ง 2 บทบาทได้น่ารักน่าชัง จนคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์มิวสิคัลหรือตลกไปด้วย เป็นอีก 1 มรดกผลงานของเขาที่ฝากเอาไว้ให้กับผู้ชมไว้ตลอดกาล
ในวาระที่หนังเรื่องนี้ครบรอบ 31 ปีของการฉาย เหล่าอดีตนักแสดงเด็กที่เคยรับบทเป็นลูก ๆ ทั้ง 3 คนของแดเนียลจากหนังเรื่องนี้ ทั้ง ลิซา ยาคุบ (Lisa Jakub), แมทธิว ลอว์เรนซ์ (Matthew Lawrence) และ มารา วิลสัน (Mara Wilson) ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากที่ไม่เคยได้ร่วมงานแสดงกันอีกเลย ซึ่งทั้ง 3 คนได้ถ่ายรูปร่วมกันและโพสต์บน Instagram ของวิลสันเมื่อไม่นานมานี้
นอกจากนี้ อดีตนักแสดงเด็กทั้ง 3 คน ยังได้มีโอกาสเล่าเบื้องหลังของหนังเรื่องนี้ในพอดแคสต์ ‘Brotherly Love‘ โดยยาคุบ เจ้าของบทพี่สาวคนโต ลีเดีย ฮิลลาร์ด ได้เปิดเผยว่า ความอบอุ่นของครอบครัวนี้ไม่ได้มีแค่เพียงแต่ในหนัง แต่ในชีวิตจริง นักแสดงผู้ล่วงลับ ผู้รับบทเป็นคุณพ่อของเธออย่างวิลเลียมส์ คือคนที่พยายามจะช่วยเธอไม่ให้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยม
“ตอนที่ฉันถ่ายหนัง ‘Doubtfire’ ฉันถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมด้วยค่ะ ฉันเองเป็นชาวแคนาดา ตอนนั้นฉันเรียนชั้นมัธยมปลายในแคนาดา แล้วหลังจากนั้น ฉันก็ต้องลาไปถ่ายหนังเรื่องนี้เป็นเวลาถึง 4 เดือน ตอนนั้นยังเป็นช่วงที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตด้วย เราก็เลยต้องติดตั้งระบบที่ฉันจะสามารถจะรับส่งการบ้านกลับไปกลับมาระหว่างฉันกับโรงเรียน และเราก็ทำแบบนั้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว”
“เรามีเวลาเรียนในกองถ่ายประมาณ 3 ชั่วโมงทุกวัน เราใช้เวลาถ่ายทำไปแล้ว 2-3 เดือน และโรงเรียนของฉันในแคนาดาก็ส่งข้อความมาบอกว่า ‘ระบบแบบนี้มันใช้กับเราไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลับมาเรียนแล้วนะ’ ใช่ แล้วตอนนั้นฉันเรียนอยู่เกรต 9 ฉันรู้สึกเสียใจมาก เพราะฉันมีชีวิตที่ไม่ค่อยเหมือนกับชาวบ้าน และนั่นมันก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น”
และนั่นก็ทำให้วิลเลียมส์ รับบทไม่ต่างอะไรจากคุณพ่อในหนัง ด้วยการส่งจดหมายไปถึงผู้บริหารของโรงเรียน เพื่อขอร้องให้โรงเรียนพิจารณาไม่ให้ไล่เธอออก
“มันเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากค่ะตอนนั้น แต่ที่มันน่าทึ่งก็คือ โรบินเห็นว่าฉันกำลังอารมณ์เสีย เขาถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเลยเขียนจดหมายไปถึงอาจารย์ใหญ่ของฉัน โดยบอกว่าเขาต้องการให้อาจารย์ใหญ่คิดใหม่อีกทีเกี่ยวกับการตัดสินใจไล่ออก และฉันเองก็กำลังจะเรียนไปด้วยและประกอบอาชีพไปด้วยพร้อม ๆ กัน เลยจะขอให้พวกเขาช่วยสนับสนุนฉันในเรื่องนี้ได้ไหม”
“พออาจารย์ใหญ่ได้รับจดหมายแล้ว เขาก็เอาจดหมายนั่นไปใส่กรอบตั้งไว้ที่ห้องทำงาน แต่สุดท้ายฉันก็ยังโดนไล่ออกอยู่ดี น่าทึ่งมาก…”
ยาคุบไม่ได้เรียนในระบบปกติอีกต่อไป แต่เธอเข้าเรียนในระบบสอบเทียบวุฒิมัธยมปลาย (GED) ก่อนจะสมัครเข้าเรียนด้านสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียตอนอายุ 22 ปี เธอเล่าเพิ่มเติมว่า บทบาทของเธอในหนังเรื่องนี้ยังตามมาหลอกหลอนเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ตอนนั้นฉันเข้าเรียนวิชาสถิติ และตอนที่ฉันได้รับเกรดคืน ผู้ช่วยสอนของฉันก็เขียนกลับมาด้วยว่า ‘เด็กหญิง Doubtfire คุณได้เกรด B-‘ “
ยาคุบไม่ใช่เพียงคนเดียวที่โดนโรงเรียนไล่ออกเพราะต้องลามาถ่ายหนัง แต่ลอว์เรนซ์ เจ้าของบทพี่ชายคนกลาง คริสโตเฟอร์ ฮิลลาร์ด ก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนด้วยเช่นกัน และวิลเลียมส์เองก็ยังช่วยเขียนจดหมายแนะนำตัว เพื่อช่วยให้เขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย
ไม่ใช่แค่ช่วยในด้านการเรียน แต่พ่อในจออย่างวิลเลียมส์ยังช่วยเธอและเด็ก ๆ ด้วยการสอนเรื่องการแสดงด้วย โคลัมบัส ผู้กำกับเคยเปิดเผยว่า ด้วยสไตล์การแสดงแบบด้นสดและเปลี่ยนหน้างานไปเรื่อยของวิลเลียมส์ ทำให้หนังเรื่องนี้มีฟุตเทจจำนวนมหาศาลถึง 972 กล่อง คิดเป็นฟิล์มความยาว 2 ล้านฟุต (ประมาณ 610 กิโลเมตร) และนั่นก็ทำให้เธอต้องเรียนรู้ที่จะมีสมาธิในการแสดงที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหน้ากองด้วยเช่นกัน
“ปกติเรามักจะตามบทกันมาโดยตลอด ดังนั้น ฉันจึงรู้ว่าเมื่อถึงตาที่ฉันต้องพูด ฉันจึงจะพูดบทของตัวเองได้ แล้วจากนั้นฉันก็ต้องเข้าฉากกับโรบิน แต่มันก็แบบว่าใครแม่-จะไปเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้น (หน้ากอง) บ้างได้ล่ะ”
“แล้วฉันเองมักจะแทบรอให้คนอื่นพูดบทของตัวเองก่อน แล้วค่อยพูดบทของตัวเองไม่ไหว มันจึงเป็นเหมือนกับการทำสมาธิเลย เพราะฉันต้องรออีกคนหนึ่ง และต้องคอยตั้งใจฟังจริง ๆ แล้วถึงจะตอบกลับได้ ซึ่งมันทำให้ฉันมีสมาธิมากกว่าที่ฉันเคยเป็นจริง ๆ จากปกติที่มักจะแค่ท่องจำบทเฉย ๆ “
“ฉันจึงสับสนมาก ๆ ตอนที่ต้องเข้ากองถ่าย ซึ่งฉันต้องผ่านมันไปให้ได้ แต่เราก็พร้อมจะทำ เพราะว่าเขาคือโรบิน และคุณก็สามารถไว้วางใจเขาได้ในเรื่องนี้”
The post Robin Williams ส่งจดหมายหาครูใหญ่ เพื่อขอร้องไม่ให้ไล่นักแสดงเด็กใน ‘Mrs. Doubtfire’ ออกจากโรงเรียน appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/