‘Kung Fu Panda 4’ ทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 500 ล้านเหรียญ ส่งผลให้แฟรนไชส์ทำรายได้ทั่วโลกรวมกันถึง 2,000 ล้านเหรียญ
The post ‘Kung Fu Panda 4’ ทำเงินถึง 500 ล้านเหรียญ ส่งให้แฟรนไชส์ทำเงินถึง 2,000 ล้านเหรียญ appeared first on BT beartai.
Deadline ได้รายงานว่า ‘Kung Fu Panda 4’ สามารถทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 500 ล้านเหรียญ ได้สำเร็จ จากการฉายในสุดสัปดาห์ที่ 8 (26 – 28 เมษายน 2024) ซึ่งส่งผลให้แฟรนไชส์ ‘Kung Fu Panda’ ทำรายได้ทั่วโลกรวมกันถึง 2,000 ล้านเหรียญ และกลายเป็นแฟรนไชส์แอนิเมชันลำดับที่ 7 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำรายได้ทั่วโลกถึงระดับนี้
นอกจากนี้ยังทำให้ DreamWorks Animation ถือครองสถิติมีแฟรนไชส์แอนิเมชันที่ทำรายได้ถึงหลัก 2,000 ล้านเหรียญ ในครอบครองมากที่สุด จำนวน 3 แฟรนไชส์ ดังนี้
แฟรนไชส์ ‘Shrek’ (จำนวน 6 เรื่อง) : 4,031.5 ล้านเหรียญ
แฟรนไชส์ ‘Madagascar’ (จำนวน 4 เรื่อง) : 2,270.1 ล้านเหรียญ
แฟรนไชส์ ‘Kung Fu Panda’ (จำนวน 4 เรื่อง) : 2,306.4 ล้านเหรียญ
‘Kung Fu Panda 4’ ทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรก เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ที่ผ่าน ไปถึง 57.9 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดลำดับที่ 2 ของแฟรนไชส์ รองจาก ‘Kung Fu Panda’ (2008) ที่ทำรายได้เปิดตัว 60.2 ล้านเหรียญ และสามารถเก็บรายได้ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องรวมกันไปถึง 503.5 ล้านเหรียญ โดยเป็นรายได้ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 185 ล้านเหรียญ และเป็นรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 318.5 ล้านเหรียญ (มาจากประเทศจีนถึง 47.3 ล้านเหรียญ)
แม้ว่า ‘Kung Fu Panda 4’ จะทำรายได้ทั่วโลกได้น้อยที่สุดของแฟรนไชส์ ในขณะที่ ‘Kung Fu Panda 2’ (2011) เป็นภาคที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดของแฟรนไชส์ อยู่ที่ 664.8 ล้านเหรียญ แต่ด้วยความที่ใช้ทุนสร้างน้อยที่สุดของแฟรนไชส์ เพียง 85 ล้านเหรียญ ก็ทำให้ ‘Kung Fu Panda 4’ สามารถทำรายได้ผ่านจุดคุ้มทุนที่ประมาณ 170 ล้านเหรียญ ได้อย่างรวดเร็ว และอาจเพียงพอให้ DreamWorks Animation พิจารณาสร้าง ‘Kung Fu Pada 5’ ในอนาคต
ไม่เพียงแค่นั้น ‘Kung Fu Panda 4’ ยังเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันของ DreamWorks Animation ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดในยุค 2020s นับตั้งแต่ผ่านพ้นวิกฤติ Covid-19 ในขณะที่ ‘Puss in Boots: The Last Wish’ (2022) ทำรายได้ทั่วโลกไป 485.3 ล้านเหรียญ
The post ‘Kung Fu Panda 4’ ทำเงินถึง 500 ล้านเหรียญ ส่งให้แฟรนไชส์ทำเงินถึง 2,000 ล้านเหรียญ appeared first on BT beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/