กระเป๋าสะพายหลัง หรือเป้สะพายหลังเป็นของใช้ที่ทุกคนน่าจะมีติดตัว เพื่อใส่สิ่งของต่าง ๆ ทั้งเพื่อการทำงาน เดินทาง หรือใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ซึ่งนอกจากดีไซน์ รูปร่าง สีสัน ขนาด และการใช้งานแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และคนส่วนใหญ่มักมองข้าม คือ ฟังก์ชันในการรองรับน้ำหนัก และการออกแบบให้เข้ากับสรีระร่างกาย ปัจจุบันนี้ อาการปวดหลังเพิ่มวงกว้างมากขึ้น ไม่ใช่แค่คนสูงวัยเท่านั้นที่ปวดหลัง แม้แต่ First Jobber ก็ปวดด้วยเหมือนกัน ทั้งจากรูปแบบการทำงาน และไลฟ์สไตล์ และการเลือกใช้กระเป๋าสะพายที่ไม่ได้ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) ก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ต้องสะพายของหนักอยู่บ่อย ๆ บทความนี้เลยจะมาแนะนำวิธีเลือกกระเป๋าสะพาย ทั้งเพื่อการใช้งานที่ดี และเพื่อสุขภาพที่ดีกัน แบกเยอะ ของหนัก ควรใช้กระเป๋าสะพายหลัง กระเป๋าสะพายหลังเป็นกระเป๋าที่เหมาะกับหลายสถานการณ์ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องแบกของเยอะ หรือของหนัก เพราะสายกระเป๋าของกระเป๋าสะพายทั้ง 2 ข้างจะช่วยเฉลี่ยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่าการใช้กระเป๋าคาดอก กระเป๋าสะพายไหล่ หรือกระเป๋าถือ หากคุณใช้กระเป๋าอื่นที่ไม่ใช่กระเป๋าสะพายหลังในการใช้ใส่ของหนัก ระยะยาวอาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังที่คอ ไหล่ และหลังได้ เพราะน้ำหนักจะไปกดทับที่จุดจุดเดียว วิธีเลือก และใช้กระเป๋าสะพายหลังไม่ให้ปวดหลัง แม้จะเป็นของใช้ที่ทุกคนคุ้นเคย แต่ถ้าคุณลองเปลี่ยนไปใช้กระเป๋าสะพายที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์จะช่วยให้คุณรู้สึกเบา และสบายกว่าเดิม นอกจากนี้ การใช้อย่างถูกต้องก็มีผลด้วยเหมือนกัน วิธีเลือกซื้อกระเป๋าสะพายหลัง นอกจากขนาด และดีไซน์แล้ว ให้ดูฟังก์ชันการซัปพอร์ตสรีระของกระเป๋าใบนั้นด้วย นอกจากนี้ ควรเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับช่วงวัย ส่วนสูง และเพศด้วย ซึ่งอาจหายากกว่ากระเป๋าทั่วไป แต่กระเป๋าสะพายเหล่านี้จะเข้ากับสรีระของแต่ละคนได้มากกว่ากระเป๋าทั่วไป น้ำหนักที่แบกไม่ควรเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว เพื่อลดการใช้งานกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นประสาทหนักเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ และอาการปวดในระยะยาว ไม่ควรแบกน้ำหนักเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว หรือสูงสุดไม่เกิน 20
The post เท่อย่างเดียวไม่ได้ ต้องซัปพอร์ตด้วย วิธีเลือก และวิธีใช้กระเป๋าสะพายหลังให้ไม่ปวดหลัง appeared first on #beartai.
กระเป๋าสะพายหลัง หรือเป้สะพายหลังเป็นของใช้ที่ทุกคนน่าจะมีติดตัว เพื่อใส่สิ่งของต่าง ๆ ทั้งเพื่อการทำงาน เดินทาง หรือใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ซึ่งนอกจากดีไซน์ รูปร่าง สีสัน ขนาด และการใช้งานแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และคนส่วนใหญ่มักมองข้าม คือ ฟังก์ชันในการรองรับน้ำหนัก และการออกแบบให้เข้ากับสรีระร่างกาย
ปัจจุบันนี้ อาการปวดหลังเพิ่มวงกว้างมากขึ้น ไม่ใช่แค่คนสูงวัยเท่านั้นที่ปวดหลัง แม้แต่ First Jobber ก็ปวดด้วยเหมือนกัน ทั้งจากรูปแบบการทำงาน และไลฟ์สไตล์ และการเลือกใช้กระเป๋าสะพายที่ไม่ได้ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) ก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ต้องสะพายของหนักอยู่บ่อย ๆ
บทความนี้เลยจะมาแนะนำวิธีเลือกกระเป๋าสะพาย ทั้งเพื่อการใช้งานที่ดี และเพื่อสุขภาพที่ดีกัน
แบกเยอะ ของหนัก ควรใช้กระเป๋าสะพายหลัง
กระเป๋าสะพายหลังเป็นกระเป๋าที่เหมาะกับหลายสถานการณ์ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องแบกของเยอะ หรือของหนัก เพราะสายกระเป๋าของกระเป๋าสะพายทั้ง 2 ข้างจะช่วยเฉลี่ยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่าการใช้กระเป๋าคาดอก กระเป๋าสะพายไหล่ หรือกระเป๋าถือ
หากคุณใช้กระเป๋าอื่นที่ไม่ใช่กระเป๋าสะพายหลังในการใช้ใส่ของหนัก ระยะยาวอาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังที่คอ ไหล่ และหลังได้ เพราะน้ำหนักจะไปกดทับที่จุดจุดเดียว
วิธีเลือก และใช้กระเป๋าสะพายหลังไม่ให้ปวดหลัง
แม้จะเป็นของใช้ที่ทุกคนคุ้นเคย แต่ถ้าคุณลองเปลี่ยนไปใช้กระเป๋าสะพายที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์จะช่วยให้คุณรู้สึกเบา และสบายกว่าเดิม นอกจากนี้ การใช้อย่างถูกต้องก็มีผลด้วยเหมือนกัน
วิธีเลือกซื้อกระเป๋าสะพายหลัง
นอกจากขนาด และดีไซน์แล้ว ให้ดูฟังก์ชันการซัปพอร์ตสรีระของกระเป๋าใบนั้นด้วย
สายสะพายไหล่ ควรมีความกว้างกำลังดี มีการบุฟองน้ำ เมมโมรีโฟม (Memory foam) หรือออกแบบให้สายสะพานบริเวณเหนือหัวไหล่มีความหนา และนุ่มเพื่อลดแรงกด กระจายน้ำหนัก ลดอาการเจ็บไหล่ และควรระบายอากาศได้ดีเพื่อลดกลิ่นอับ
ด้านหลังของกระเป๋า ควรมีการบุฟองน้ำ หรือเมมโมรีโฟมไว้ด้วยเช่นกันเพื่อลดแรงกดจากกระเป๋า โดยมีตั้งแต่การบุวัสดุเพื่อลดแรงกด ไปจนถึงโครงสำหรับลดแรงกดโดยเฉพาะ
สายคาดอก และสายคาดเอว สำหรับใครที่แบกของหนัก เป็นสายแบ็กแพ็กเกอร์ (Backpacker) สายคาดอก และสายคาดเอวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยกระจายน้ำแล้ว จะลดการถ่วงดึงเมื่อเดินขึ้น หรือลงเนิน ซึ่งป้องกันการล้ม และหงายหลัง
เลือกกระเป๋าที่น้ำหนักเบา แต่แข็งแรงเพื่อลดน้ำหนักที่ต้องแบก แต่ยังสามารถใส่ของได้ในจำนวน และน้ำหนักเท่าเดิม
เลือกกระเป๋าสะพายเฉพาะกิจ อย่างใครที่ชอบเดินป่า ปีนเขา หรือเป็นสายแบ็กแพ็กเกอร์ แนะนำให้เลือกกระเป๋าสำหรับการเดินป่า หรือเดินทางโดยเฉพาะ เพราะโครงสร้างจะออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักที่มากกว่ากระเป๋าสะพายทั่วไป
นอกจากนี้ ควรเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับช่วงวัย ส่วนสูง และเพศด้วย ซึ่งอาจหายากกว่ากระเป๋าทั่วไป แต่กระเป๋าสะพายเหล่านี้จะเข้ากับสรีระของแต่ละคนได้มากกว่ากระเป๋าทั่วไป
น้ำหนักที่แบกไม่ควรเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว
เพื่อลดการใช้งานกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นประสาทหนักเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ และอาการปวดในระยะยาว ไม่ควรแบกน้ำหนักเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว หรือสูงสุดไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ หากเป็นการสะพายที่ไม่บ่อยมากนัก
ใส่ของหนักไว้ใกล้หลังให้มากที่สุด
ถ้าคุณต้องแบกของที่มีน้ำหนักมากหลายชิ้นใส่กระเป๋า ควรใส่ของชิ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดไว้ด้านในสุดของกระเป๋า หรือใกล้กับหลังของเราเวลาสะพายมากที่สุดเพื่อลดการถ่วงของกระเป๋าไปด้านหลัง ที่อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานหนัก เพราะการรั้งจากแรงถ่วงในกระเป๋า
ดึงสายสะพายให้พอดีเสมอ
การดึงสายสะพายให้ใกล้ และแนบกับหลังพอดี ไม่แน่น และไม่หย่อนเกินไปจะช่วยให้น้ำหนักของกระเป๋าสะพายกระจายไปทั่วร่างกาย ใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนในการสะพายได้ แต่ถ้าปล่อยสะพายหลวม แล้วตัวกระเป๋าหย่อนจะให้น้ำหนักรั้งบริเวณไหล่ หลัง และลำตัวส่วนบน จนทำให้กล้ามเนื้อล้า และเกิดอาการปวดได้
นอกจากวิธีใช้เหล่านี้แล้ว ยังมีทิปส์ง่าย ๆ เกี่ยวกับการใช้กระเป๋าสะพายหลังที่คุณสามารถทำได้เลย เช่น
เลี่ยงการสะพายกระเป๋าด้วยไหล่ข้างเดียว
เปลี่ยนมาใช้ของไซส์ที่เหมาะกับการพกพา
พกของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
กระจายสิ่งของไว้ตามช่องต่าง ๆ ของกระเป๋า
ออกกำลังกายช่วงลำตัว และหลังช่วยลดการบาดเจ็บ และอาการปวดจากการสะพายได้
เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณสามารถใช้กระเป๋าสะพายหลังได้อย่างปลอดภัย และเบามากขึ้นแล้ว ซึ่งอาจช่วยลดอาการปวดหลัง และปวดไหล่ได้ หากคุณลองเปลี่ยนกระเป๋า และวิธีสะพายตามที่บอกแล้ว แต่อาการปวดยังคงรบกวนคุณอยู่ แนะนำว่าควรเช็กท่าทางการนั่งทำงาน หรือพฤติกรรมอื่นที่อาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังเพื่อหาสาเหตุ
The post เท่อย่างเดียวไม่ได้ ต้องซัปพอร์ตด้วย วิธีเลือก และวิธีใช้กระเป๋าสะพายหลังให้ไม่ปวดหลัง appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/