รีวิวหนัง เพื่อน(ไม่)สนิท Not Friends หนังใหม่ของ GDH นำแสดงโดย จั๊มพ์ พิสิฐพล โทนี่ อันโทนี่ ฟลุ๊ค ธนกร ใบปอ ธิติยา และ ฟ้อนด์ BNK48
The post [รีวิว] เพื่อน(ไม่)สนิท: เบียวซีนีมาคือมายา แต่เพื่อนตายนั้นหนาคือของแทร่ appeared first on #beartai.
ในวงการภาพยนตร์ หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อของ ต้า อัตตา เหมวดี มือเบสวง Two Million Thanks ที่เพิ่งจะมาชิมลางกำกับ ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ภาพยนตร์ตลกวัยรุ่นเรื่องใหม่ของ GDH และ เฮาส์ตัน ฟิล์ม แบงค็อก (Houseton Films Bangkok) แต่ถ้าใครคุ้นเคยกับผลงานของเขาบ้าง ก็จะพอรู้ว่าเขาคือผู้กำกับโฆษณา โดยเฉพาะมิวสิกวิดีโอเพลงไทยหลายเพลง เอาแบบคร่าว ๆ ก็เช่น “ฝากไว้กับดาว” และ ‘ไม่รู้ทำไม” ของวง Whal & Dolph,”ก็เพราะว่าชอบเธอ” ของ BNK48, “1%” – ของ แสตมป์ อภิวัชร์, “ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม” ของ อิ้งค์-วรันธร, “ดวงใจ” ของ ปาล์มมี่ และอีกมากมาย โดยได้ วัน วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ (2017) และ ‘One for the Road’ (2021) มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์
‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ เล่าเรื่องของ เป้ (อันโทนี่ บุยเซอเรท์) เด็ก ม.6 ขี้แพ้ไร้เพื่อนที่ต้องย้ายโรงเรียนใหม่กลางคัน เขาได้พบกับ โจ (พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ) เพื่อนร่วมห้องธรรมดาแต่อัธยาศัยดี ที่อยากจะเป็นเพื่อนสนิท แต่เป้กลับไม่สนใจใยดี จนกระทั่งเมื่อโจเสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุ เป้ที่ต้องการทำหนังสั้นเพื่อส่งเข้าประกวด จึงได้เลือกเรื่องราวของโจมาทำเป็นหนังสั้น ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีความรู้เรื่องการทำหนัง แถมยังไม่สนิทกับโจอีกต่างหาก เป้และเพื่อนร่วมชั้น จึงต้องร่วมมือกับเพื่อน ๆ ทั้ง โบเก้ (ธิติยา จิระพรศิลป์) เด็กสาวผู้มีแม่เป็นตากล้องถ่ายหนัง, ปิง (ธนกร ติยานนท์) หัวหน้าเด็กห้องโสต และ หลิว (ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา) เด็กกิจกรรมหน้าตาดี ร่วมกันทำหนังสั้นที่ได้แรงบันดาลใจจากโจเพื่อนสนิทของทุกคน (แต่ไม่สนิทของเป้) ขึ้นมาให้สำเร็จ
อัตตาเลือกที่จะผสมเรื่องราว 3 แกนที่ถูกเชื่อมเข้าเป็นเรื่องราวเดียวกัน ทั้งการเป็นหนังที่เล่าเกี่ยวกับการทำหนัง (Filmmaking) ที่ถูกชูขึ้นเป็นหน้าหนังในครึ่งแรก ซึ่งมีนำเสนอผ่านวิธีการและจริตที่เต็มไปด้วยพลังงานแบบวัยรุ่นเบียว ๆ บ้าพลัง เล่าเรื่องแบบทีเล่นทีจริงได้เหลือร้ายและบันเทิงเริงใจมาก ๆ รวมทั้งการใช้ภาษาภาพ การแสดง ไดอะล็อกที่เป็นธรรมชาติ เพลงประกอบ ฯลฯ เข้ามาช่วยในการเล่าเรื่อง เล่ามุก และสะท้อนจริตของเด็กยุคสมัยนี้ได้กวงติงและเพลิดเพลินมาก ๆ คือไอ้ประโยค “เบียวชิบหาย แต่ได้กู…” ในหนังนี่แหละที่น่าจะจำกัดความครึ่งแรกของหนังได้ชัดเจนที่สุดแล้ว
พาร์ตการทำหนัง ยอมรับว่าชวนให้ผู้เขียนนึกถึง ‘SuckSeed ห่วยขั้นเทพ’ (2011) หน่อย ๆ แต่เป็น SuckSeed ของเด็กบ้าหนังยุคนี้ ซึ่งถ้าใครเป็นคนบ้าหนัง หรือเคยมีประสบการณ์การออกกองหนังนักเรียน/นักศึกษามาก่อน ก็จะอินเป็นพิเศษกับจริต ธรรมชาติ ปัญหาวายป่วงในการออกกองของเด็กทำหนังมือสมัครเล่นได้อย่างดี ยกตัวอย่างก็เช่น การแตกช็อตซีนหนังจากเรื่องสั้นแบบลุ่น ๆ โดยไม่มีการแปลงเป็นบทหนัง (ผิดหลักการทำหนังเต็ม ๆ แต่สมจริงสำหรับหนังนักเรียน) หรืองานโปรดักชันสไตล์แฮนด์เมด ถ้าเป็นคน ครึ่งแรกก็คือเพื่อนเบียวหนังที่กวงติงคนหนึ่งนั่นแหละ ซึ่งถ้ามองแบบนี้จะดูสนุก แต่ถ้ามองว่า ปกติโรงเรียน เพื่อน หรือคนทำหนังเขาไม่ทำแบบนี้นะ ก็อาจจะรู้สึกแปร่ง ๆ
ตัวหนังครึ่งหลังค่อย ๆ เหวี่ยงจากการเป็นหนัง Filmmaking พาเราไปพบกับประเด็นที่ถูกแอบเอาไว้ลึก ๆ ที่ไม่มีอยู่ในตัวอย่าง ทั้งประเด็นของการตามความฝันวัยมัธยม การสร้าง Conflict ขัดแย้งยาก ๆ ให้กับเป้ที่เดินมาตกในสภาวะเฮงซวยที่จำต้องเลือกระหว่างการเห็นแก่ส่วนรวมด้วยการลงมือทำหนังเพื่อเพื่อนและโรงเรียน กับการเลือกทางส่วนตัวเพื่อดิ้นรนออกจากเส้นทางที่ไม่ได้เลือก ในขณะที่ตัวหนังก็ใช้ตัวละครโจ ที่ฝันอยากเป็นอะไรก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ มาเป็นขั้วตรงข้ามของเป้ และมีเรื่องของความฝันอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากเรียนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่โดนกีดกันความฝันเป็นเรื่องราวคู่ขนาน
อีกประเด็นที่หนังแอบซ่อนความจริงจังเอาไว้ภายใต้ฉากหน้าแห่งความเบียวก็คือ หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังของการทำตาม Mission ในการทำหนังให้สำเร็จเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่ยังแอบซ่อนประเด็นเกี่ยวกับความเป็นเพื่อน ที่ไม่ได้เล่าแค่ความเป็นมิตรภาพแบบที่เคยเห็นกันมา แต่เป็นการสะท้อนภาพขม ๆ ของเพื่อนที่ต่างก็มีความเป็นมนุษย์ มีผิดชอบชั่วดีและไม่สมบูรณ์แบบกันทั้งนั้น
บางจังหวะชีวิตก็อาจได้เจอเพื่อนดี บางทีเราก็โคตรเกลียดเพื่อนบางคนชิบเป๋ง บางครั้งเราก็เอาเปรียบเพื่อน โดนเพื่อนเอาเปรียบ และก็มีเพื่อนที่หล่นหายระหว่างทางด้วย หนังเรื่องนี้สำหรับผู้เขียน จึงไม่ใช่หนังเชิดชูความเป็นเพื่อนแบบประเภท เราและนายเพื่อนตายตลอดไป หรือดูแล้วรักเพื่อน แต่เป็นหนังที่สะท้อนความเป็นเพื่อนในแง่มุมจริงออกมา ซึ่งจะดูแล้วคิดถึงเพื่อนสนิท หรือเพื่อนไม่สนิท ก็สุดแล้วแต่ผู้ชมได้ทั้งนั้น
แม้ครึ่งหลังจะถือเป็นไม้เด็ดของหนังเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ตัวหนังก็ยังใช้ความเป็นเซฟโซนในแบบ GDH นั่นแหละ ซึ่งมันก็คือสิ่งที่หนังในครึ่งหลังพยายามจะเพิ่ม Conflict และตัวละครระหว่างทางเพื่อหาจุดหักเหและทางลงที่เซฟให้กับตัวละครหลัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าบาง Conflict ก็ถือว่าน่าสนใจ เช่นการเล่นกับคอนเซปต์โลกคู่ขนาน แต่กับบางพาร์ตก็แอบไม่เข้าใจถึงการมีอยู่ของบางเส้นเรื่อง (และบางตัวละคร) เหมือนกัน ทำให้แม้บทสรุปแบบเซฟ ๆ จะทำออกมาได้ประทับใจ ดูมีความขี้แพ้และชวนให้ตาอุ่น ๆ แต่ระหว่างทางก็ยังความไม่กลมกล่อมบางอย่างเจือปนเข้ามาด้วย
อีกสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ก็คือคาแรกเตอร์ตัวละครครับ คือถ้ามองโดยรวม ๆ ตัวละครหลายตัวในหนังเรื่องนี้ถือว่ามีความน่ารักและโบ๊ะบ๊ะเป็นของตัวเองมาก ๆ แต่ที่ถือว่าเด่นและน่าจับตามองในหนังเรื่องนี้ ก็คงต้องยกให้ โทนี่ อันโทนี่ และ ใบปอ ธิติยา ที่ชิมลางมาแล้วก่อนหน้านี้ใน ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ซึ่งในเรื่องนี้ก็เป็นการยืนยันชัดเจนแล้วแหละว่าทั้งคู่น่าจะเป็นเลือดใหม่ของ GDH ต่อไปอย่างแน่นอน
โทนี่สามารถพาตัวละครที่มีความสิ้นหวังนิด ๆ ติดโกรธหน่อย ๆ ของเป้เอาไว้ได้ ส่วนใบปอก็ดูมีมิติและโดดเด่นมากทีเดียว อีกคนที่ไม่ชมไม่ได้ก็คือ จั๊มพ์ พิสิฐพล ที่แม้ว่าจะต้องรับบทเป็นโจ เพื่อนที่ตายไปแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าตัวหนังเอื้อให้เขาโชว์ความกลมของคาแรกเตอร์ที่มีทั้งสว่างไสวและมุมดาร์กของตัวละครนี้ออกมาได้เรียบง่ายแต่น่าทึ่ง ชนิดที่ว่าถ้าจั๊มพ์ ได้มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกล่ะ
แม้ตัวหนังจะยังมีความเป็นเซฟโซน และหลาย ๆ อย่างอาจจะยังทำออกมาได้ไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบ และแม้หลาย ๆ มุกในหนังที่มีความเป็นสากลอยู่พอสมควร ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ได้ประกาศให้หนังเรื่องนี้เป็นตัวแทนหนังไทยเข้าเสนอชิงรางวัล Oscars ครั้งที่ 96 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
แต่เอาเข้าจริงก็แอบหวั่นแหละว่า หน้าหนังวัยรุ่นจะมีกำลังพอจะไปเปรียบมวยบนเวทีโลกได้ไหมเนี่ย แต่อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสมรภูมิหนังไทยในตอนนี้ที่มีหนังรุมฉายในโรงเต็มไปหมด แถมแต่ละเรื่องก็กระแสแรงกันทั้งนั้นด้วย หนังไทยเบียว ๆ เรื่องนี้ก็ยังถือเป็นอีกหนึ่งที่น่าเอาใจช่วยครับ
The post [รีวิว] เพื่อน(ไม่)สนิท: เบียวซีนีมาคือมายา แต่เพื่อนตายนั้นหนาคือของแทร่ appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/