เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นคำว่า BPA Free ผ่านตากันมาบ้าง แต่คุณพอจะนึกออกไหมว่าเห็นที่ไหนมา? BPA Free เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ปลอดจาก BPA หรือ บิสฟีนอล เอ (Bisphenol A) เป็นสารเคมีกลุ่มโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate Plastic) ที่นำมาใช้ผลิตพลาสติกและเรซินเพื่อเสริมความแข็งแรง แม้ BPA มีประโยชน์ทางอุตสาหกรรมพลาสติก แต่สารชนิดนี้ถูกจัดไว้เป็นสารก่อมะเร็ง และส่งผลต่อสุขภาพด้านอื่นได้ด้วย คุณเลยสามารถเห็น BPA Free อยู่บนอะไรก็ตามที่ทำจากพลาสติก เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำ ถ้วยชามต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น BPA ก็ยังไม่ได้ถูกห้ามใช้ในไทย เพราะจำเป็นต่อการผลิต Hack for Health เลยรวบรวมผลกระทบด้านสุขภาพ และวิธีรับมือกับ BPA มาให้ได้อ่านกัน อันตรายจากการสัมผัส BPA BPA เป็นสารเคมีที่ส่งผลต่อร่างกายในหลายด้าน คุณสามารถได้รับ BPA ผ่านทางการรับประทาน การสัมผัส หรือแม้แต่สูดดม การสัมผัสกับ BPA ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพ เช่น นอกจากนี้ งานวิจัยจำหนึ่งพบว่า BPA อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคสมาธิสั้นได้ แต่ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด BPA อยู่ที่ไหนบ้าง? อย่างที่ได้บอกไปว่า BPA เป็นส่วนประกอบของพลาสติกและเรซิน ของรอบตัวเราล้วนมีส่วนประกอบของพลาสติกไม่มากก็น้อย แต่ถึงยังนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังได้รับสารก่อมะเร็งอยู่ทุกวัน ซึ่งคุณอาจเสี่ยงที่จะได้รับ BPA เมื่อ งานวิจัยชี้ว่าพลาสติกจะปล่อย BPA ออกมาเมื่อเจอกับความร้อน การใช้ภาชนะพลาสติกที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใส่ของร้อน
The post ทำไมต้อง BPA Free? รู้จักกับ BPA และผลกระทบต่อสุขภาพ appeared first on #beartai.
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นคำว่า BPA Free ผ่านตากันมาบ้าง แต่คุณพอจะนึกออกไหมว่าเห็นที่ไหนมา?
BPA Free เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ปลอดจาก BPA หรือ บิสฟีนอล เอ (Bisphenol A) เป็นสารเคมีกลุ่มโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate Plastic) ที่นำมาใช้ผลิตพลาสติกและเรซินเพื่อเสริมความแข็งแรง แม้ BPA มีประโยชน์ทางอุตสาหกรรมพลาสติก แต่สารชนิดนี้ถูกจัดไว้เป็นสารก่อมะเร็ง และส่งผลต่อสุขภาพด้านอื่นได้ด้วย
คุณเลยสามารถเห็น BPA Free อยู่บนอะไรก็ตามที่ทำจากพลาสติก เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำ ถ้วยชามต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น BPA ก็ยังไม่ได้ถูกห้ามใช้ในไทย เพราะจำเป็นต่อการผลิต Hack for Health เลยรวบรวมผลกระทบด้านสุขภาพ และวิธีรับมือกับ BPA มาให้ได้อ่านกัน
อันตรายจากการสัมผัส BPA
BPA เป็นสารเคมีที่ส่งผลต่อร่างกายในหลายด้าน คุณสามารถได้รับ BPA ผ่านทางการรับประทาน การสัมผัส หรือแม้แต่สูดดม การสัมผัสกับ BPA ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพ เช่น
โรคมะเร็ง
โรคหัวใจ
ปัญหาด้านพัฒนาการในเด็ก โดยเฉพาะพัฒนาการสมอง
นอกจากนี้ งานวิจัยจำหนึ่งพบว่า BPA อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคสมาธิสั้นได้ แต่ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด
BPA อยู่ที่ไหนบ้าง?
อย่างที่ได้บอกไปว่า BPA เป็นส่วนประกอบของพลาสติกและเรซิน ของรอบตัวเราล้วนมีส่วนประกอบของพลาสติกไม่มากก็น้อย แต่ถึงยังนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังได้รับสารก่อมะเร็งอยู่ทุกวัน ซึ่งคุณอาจเสี่ยงที่จะได้รับ BPA เมื่อ
ใช้ภาชนะพลาสติกในการอุ่นอาหาร หรือใส่ของร้อน
ดื่มหรือกรอกน้ำร้อนด้วยขวดหรือแก้วพลาสติก
ทำงานในโรงงานหรืออุตสาหกรรมที่ต้องใช้สารเคมีกลุ่มนี้
งานวิจัยชี้ว่าพลาสติกจะปล่อย BPA ออกมาเมื่อเจอกับความร้อน การใช้ภาชนะพลาสติกที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใส่ของร้อน มาใช้อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูงอาจทำให้ BPA ปะปนในอาหารได้ แต่ถึงอย่างนั้น หากไม่ได้รับในปริมาณมากร่างกายสามารถขับออกเองได้ แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่ดี
วิธีเลี่ยงการได้รับสาร BPA
การใช้สิ่งของจากพลาสติกในชีวิตประจำวันไม่ได้ทำให้คุณเป็นโรค แต่เพื่อความปลอดภัย วิธีต่อไปนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับสาร BPA จากพลาสติกได้
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก BPA Free
เลี่ยงการใช้ภาชนะพลาสติกในการอุ่นอาหาร หรือใส่ของร้อนจัด
เลี่ยงการรับประทานอาหารร้อนจัดในกล่องโฟมจากร้านอาหาร
ไม่ใช้ภาชนะพลาสติกที่ไม่ได้ระบุความทนทานต่ออุณหภูมิในการใส่ของร้อน
ตัดความเสี่ยงด้วยการใช้ภาชนะกระเบื้อง แก้ว หรือสเตนเลสแทน
เลี่ยงการใช้พลาสติกรีไซเคิลประเภท 3 และ 7
เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับ BPA แล้ว นอกจากนี้ แนะนำว่าให้เลี่ยงอาหารกระป๋อง และอาหารสำเร็จรูป เพราะเป็นกลุ่มอาหารที่มักมี BPA ปนเปื้อน สำหรับคนที่ต้องทำงานกับพลาสติก ไม่ว่าจะงานโรงงาน งานประดิษฐ์ หรืองานรูปแบบอื่น แนะนำว่าให้สวมอุปกรณ์ป้องกัน อย่างถุงมือ แว่นตา และหน้ากากอนามัยเสมอ
ที่มา: Mayo clinic, WebMD
ภาพปก: Freepik
The post ทำไมต้อง BPA Free? รู้จักกับ BPA และผลกระทบต่อสุขภาพ appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/
