
ผู้ใช้พบความเชื่อมโยงของแอปฯ Bondee กับแอปฯสัญชาติจีนที่ปิดตัวไปแล้ว และไม่มั่นใจเรื่องปัญหาข้อมูลส่วนบุคคล
The post ผู้ใช้งานพากันลบแอปฯ Bondee หลังสงสัยว่าชุบตัวมาจากแอปฯของจีน appeared first on #beartai.
ผู้ใช้พบความเชื่อมโยงของแอปฯ Bondee กับแอปฯสัญชาติจีนที่ปิดตัวไปแล้ว
ถือว่าเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียสัญชาติสิงคโปร์ ที่ฮิตทั่วเอเชียอยู่ช่วงหนึ่งเลยก็ว่าได้ กับแอปฯ Bondee ที่เน้นให้ผู้ใช้สร้างตัวละครแล้วเข้าร่วมคอมมูนิตี้ แต่งตัว แต่งห้อง อัปฯสเตตัส แชร์รูปภาพ และสนทนาระหว่างผู้ใช้ด้วยกัน ด้วยกระแสที่ดีมาก ๆ ทำให้แอปฯนี้ถูกดาวน์โหลดจนติดชาร์ตในสโตร์หลาย ๆ ประเทศ
แต่หลังจากนั้นก็มีข่าวเกี่ยวกับข้อมูลบัญชีบัตรเครดิตของผู้ใช้งานหลุด ซึ่งทาง Metadream (บริษัทผู้พัฒนา) ได้ออกมาปฏิเสธ แต่บรรดาผู้ใช้งานก็เริ่มออกมาตั้งข้อสังเกต ว่าแอปฯ Bondee มีความคล้ายคลึงกับแอปฯ Zheli (เจ้อลี่) หรือ Jelly แอปฯโซเชียลมีเดียสัญชาติจีนที่เคยเป็นที่นิยมและถูกถอดออกจากสโตร์จีนไปแล้ว เนื่องจากมีรายงานการให้บริการที่ผิดพลาดและความไม่โปร่งใสของนโยบายความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ผู้ใช้งานชาวเกาหลีใต้ได้ขุดคุ้ยข้อมูลจากรัฐบาลจนพบว่า Metadream จดทะเบียนบริษัทในเกาหลีใต้ด้วยสัญชาติจีน ทำให้ผู้คนตั้งข้อสังเกตว่าแอปฯ Bondee ก็คือแอปฯ Jelly ที่ชุบตัวขึ้นมาใหม่โดยปิดบังต้นกำเนิดของตัวเอง ซึ่งตรงนี้ทางผู้พัฒนาพยายามปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทาง Metadream ชี้แจงว่าบริษัทมีฐานหรือสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ได้รับสิทธิ์พัฒนาแอปฯ Jelly ต่อมาจากบริษัท True.ly ที่เป็นเจ้าของเดิม และถึงแม้จะมีฐานอยู่ในประเทศสิงคโปร์ แต่พนักงานส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศจีน รวมไปถึงฝ่ายกฎหมายและฝ่ายการเงิน ที่ยังใช้พนักงานของแอปฯ Jelly อยู่
ทั้งนี้ นอกจากความคลุมเครือของที่มาที่ไปของแอปฯ ความไม่ไว้วางใจในแอปพลิเคชันจีน และความกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ โดยแอปฯมีการถามหาข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินไป ทำให้หลายคนกังวลว่า หากแอปฯดังกล่าวมีที่มาจากประเทศจีน รัฐบาลจีนอาจสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นโดยการใช้อำนาจบังคับเข้าถึงได้
Metadream ออกแถลงการณ์หลายครั้งว่าบริษัทมีฐานอยู่ในประเทศสิงคโปร์จริง ๆ และการจดทะเบียนบริษัทสัญชาติจีนในประเทศเกาหลีใต้นั้น เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวจัดทำโดยหน่วยงานในประเทศฮ่องกงหลังจากซื้อกิจการของ True.ly โดยยอมรับว่าแอปฯ Bondee มีพื้นฐานมาจากแอปฯ Jelly แต่ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้น และเป็นสากลมากขึ้น
และไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ก็ได้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใช้งาน (ในกรณีข้อมูลบัตรเครดิตหลุด) ไปแล้ว ทำให้มีผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจและเลิกใช้งานแอปฯ Bondee อีกทั้งยังช่วยกันแชร์วิธีลบบัญชีและถอนการติดตั้งแอปฯจากโทรศัพท์มือถือ จากการรวบรวมข้อมูลของ data.ai พบว่าภายในเดือนมีนาคม ยอดดาวน์โหลดบนสโตร์ลดลงจาก 2.6 ล้านครั้ง เหลือเพียง 400,000 ครั้งเท่านั้น (เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์)
The post ผู้ใช้งานพากันลบแอปฯ Bondee หลังสงสัยว่าชุบตัวมาจากแอปฯของจีน appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/