เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2022 ณ TK Park ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้มีการจัดงานสัมมนา ‘World Film Festival of Bangkok Forum 2022’ ภายใต้หัวข้อใหญ่ ‘Soft Power of Film’ โดยวงสนทนาถูกแบ่งออกเป็นสองช่วง เริ่มจากหัวข้อ ‘ภาพยนตร์ไทยในฐานะซอฟท์พาวเวอร์กับการก้าวสู่ตลาดภาพยนตร์ในระดับสากล’ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมพูดคุย ได้แก่ ปราโมทย์ บุญนำสุข ผู้เชี่ยวชาญ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, พรชัย ว่องศรีอุดมพร คณะกรรมการ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ หรือผู้แทน และ ฉันทนา ทิพย์ประชาติ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘หน่าฮ่าน’ และ คณะกรรมการสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย “วงการหนังไทยช่วงสถานการณ์ โควิด 19 มีการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้หนังได้ก้าวไปไกลอีกขั้นหนึ่ง ในอนาคตกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์หวังว่าจะมีความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่หลากหลาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ และเปิดเวทีในการแสดงผลงานแก่ผู้ผลิตสื่อระดับ SME ในประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ภาพยนตร์และสื่อของไทยได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และก้าวสู่สากล” ปราโมทย์กล่าว ต่อมาในช่วงบ่ายมีอีกหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจ นั่นก็คือเรื่อง ‘โอกาสของภาพยนตร์ไทยในเทศกาลภาพยนตร์ระดับนานาชาติ’ ซึ่งมีผู้ร่วมวงสนทนา 6 ท่าน อาทิ บดรสะรณ โกวิทวณิชชา (Donsaron Kovitvanitcha) ผู้อำนวยการเทศกาล World Film Festival of Bangkok, เปาโล เบอร์โตลิน (Paolo Bertolin) คณะกรรมการคัดเลือกจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส, ซามูเอล เจมิเยร์ (Samuel
The post ‘ทำไมหนังไทยไม่ไปหนังโลก?’ เก็บตกประเด็นร้อนจากงาน World Film Festival of Bangkok 2022 appeared first on #beartai.
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2022 ณ TK Park ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้มีการจัดงานสัมมนา ‘World Film Festival of Bangkok Forum 2022’ ภายใต้หัวข้อใหญ่ ‘Soft Power of Film’ โดยวงสนทนาถูกแบ่งออกเป็นสองช่วง เริ่มจากหัวข้อ ‘ภาพยนตร์ไทยในฐานะซอฟท์พาวเวอร์กับการก้าวสู่ตลาดภาพยนตร์ในระดับสากล’ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมพูดคุย ได้แก่ ปราโมทย์ บุญนำสุข ผู้เชี่ยวชาญ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, พรชัย ว่องศรีอุดมพร คณะกรรมการ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ หรือผู้แทน และ ฉันทนา ทิพย์ประชาติ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘หน่าฮ่าน’ และ คณะกรรมการสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย
“วงการหนังไทยช่วงสถานการณ์ โควิด 19 มีการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้หนังได้ก้าวไปไกลอีกขั้นหนึ่ง ในอนาคตกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์หวังว่าจะมีความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่หลากหลาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ และเปิดเวทีในการแสดงผลงานแก่ผู้ผลิตสื่อระดับ SME ในประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ภาพยนตร์และสื่อของไทยได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และก้าวสู่สากล” ปราโมทย์กล่าว
ต่อมาในช่วงบ่ายมีอีกหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจ นั่นก็คือเรื่อง ‘โอกาสของภาพยนตร์ไทยในเทศกาลภาพยนตร์ระดับนานาชาติ’ ซึ่งมีผู้ร่วมวงสนทนา 6 ท่าน อาทิ บดรสะรณ โกวิทวณิชชา (Donsaron Kovitvanitcha) ผู้อำนวยการเทศกาล World Film Festival of Bangkok, เปาโล เบอร์โตลิน (Paolo Bertolin) คณะกรรมการคัดเลือกจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส, ซามูเอล เจมิเยร์ (Samuel Jamier) คณะกรรมการและผู้บริหารจากเทศกาลภาพยนตร์เอเชียนิวยอร์ก , ซาบรีน่า บาราเซ็ตติ (Sabrina Baracetti) ประธานเทศกาลภาพยนตร์อูดิเน่ ฟาร์อีสต์ ฟิล์ม เฟสติวัล, โทมัส เบอร์ทาช (Thomas Bertache) ผู้กำกับศิลป์เทศกาลอูดิเน่ ฟาร์อีสต์ ฟิล์ม เฟสติวัล และ พัคซองโฮ (Park Sung ho) ชายผู้รับหน้าที่เลือกภาพยนตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาฉายที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน
หัวข้อสัมมนาในช่วงนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้น เริ่มต้นด้วยประเด็นคำถามว่า ‘อะไรที่ทำให้หนังไทยไม่สามารถสู่เทศกาลหนังนานาชาติได้’
บดรสะรณได้เสริมว่า ปัจจุบันในประเทศไทยมีการตั้งกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับหนังไทยจำนวนมากในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากก็มักจะเต็มไปด้วยข้อความในทำนองที่ไม่สนใจ หรือไม่ชอบหนังไทยเอาซะเลย ซึ่งพัคซองโฮตอบคำถามนี้ได้น่าสนใจมาก ๆ ว่า
“ในประเทศไทย ประชาชนมักจะไม่นิยมดูหนังไทย และจะหันไปดูซีรีส์หรือหนังของต่างประเทศมากกว่า ทำให้หนังไทยไม่ได้รับความนิยม ต่างจากที่เกาหลีหนังขับเคลื่อนได้จากประชาชนและรัฐบาล ผมยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมได้เงินมา ผมก็จะนำไปผลักดันหนังให้พัฒนาก้าวต่อไปข้างหน้า ผมว่ามันคือเรื่องของการรักใคร่ในตัวเองก่อน ถ้าคุณอยากให้คนอื่นรักคุณ คุณก็ต้องกล้าที่จะรักตัวเองก่อน เพราะฉะนั้นผมว่ามันอาจจะต้องเริ่มที่ตัวของเราก่อน” พัคซองโฮกล่าว
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงประเด็น ‘มุมมองของชาวต่างชาติที่มองเข้ามาในวงการหนังไทย ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร’
เบอร์ทาชกล่าวว่า “คนไทยหลายคนมีความสามารถ อย่างหนังไทยแนวสยองขวัญก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ ผมยกให้หนังสยองขวัญไทยคือ หนึ่งในหนังสยองขวัญที่ดีจากทั่วโลกเลย อย่างเรื่อง ‘Shutter’ (ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ) เรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่งเลย”
หลังจากนั้นทั้ง 6 ท่าน ก็ร่วมถกเถียงประเด็นกันอีกมากมายจนมาถึงคำถามที่ว่า ‘แล้วทำไมหนังไทยถึงก้าวเข้าสู่นานาชาติไม่ได้สักที?’ โดยมีการวิเคราะห์กันดังนี้
“มันน่าจะเป็นเพราะว่าบริษัทผลิตหนังของไทยส่วนมาก เป็นบริษัทเล็กที่มีเงินทุนค่อยข้างน้อยทำให้หนังไม่ได้รับการทุ่มทุนสร้าง อีกอย่างคือการสนันสนุนจากผู้คน อุตสาหกรรมหนังเกาหลีไม่ได้พัฒนาโดยรัฐบาลหรือนักแสดง มันมาจากการที่ผู้สร้างหนังเกาหลีต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้หนังได้รับความนิยมจากคนในประเทศ” พัคซองโฮกล่าว
บาราเซ็ตติพูดเสริมว่า “โรงหนังยุโรปมีหนังของชาวเอเชียแน่นอน และคนยุโรปให้ความสนใจหนังของเอเชียมานานแล้ว เรามีทั้งหนังเกาหลี ญี่ปุ่น จีน และก็ฮ่องกง ซึ่งย้อนกลับไปในการประชุมปี 2000 ในตอนนั้นหนังไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมแล้วนะ ตอนนั้นผู้คนไม่มีใครรู้เกี่ยวกับประเทศไทยเลย มันทำให้หนังไทยแตกต่าง สำเนียงไทยเป็นอะไรที่คนยุโรปอาจไม่คุ้นเคยมากนัก ซึ่งเราพยายามจะผลักดัน หรือเสาะหาอะไรใหม่ ๆ เข้ามาอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในตอนนั้น แต่ทุกคนก็ชอบหนังไทย อย่าง ‘Shutter’ นี่คือหนังไทยที่เคยขึ้นอันดับหนึ่งในอิตาลีมาแล้วนะ”
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของงานสัมมนา ‘World Film Festival of Bangkok’ ครั้งที่ 15 ซึ่งภายในงานยังมีการขนเอาหนังคุณภาพจาก 30 ประเทศทั่วโลกมาฉายให้ชมกัน พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมายตลอดเทศกาล
‘World Film Festival of Bangkok ครั้งที่ 15′ จัดถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2023 ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า
The post ‘ทำไมหนังไทยไม่ไปหนังโลก?’ เก็บตกประเด็นร้อนจากงาน World Film Festival of Bangkok 2022 appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/