นายบัณฑูร ล่ำซำ ไวยาวัจกร วัดบวรนิเวศวิหารและวัดญาณสังวราราม กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘อนาคตประเทศไทยบนความไม่แน่นอน’ บนเวที THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2022 โดยได้เสนอวิธีการที่จะช่วยให้ไทยได้เข้าสู่ Green Economy มีทางเดียว คือการเพิ่มต้นไม้เพื่อให้ดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ เพราะแม้ว่าคนจะพยายามรณรงค์การรักษาป่ามากแค่ไหน แต่ปัจจุ พื้นที่ป่าก็หายไปเยอะมากแล้ว บางแห่งกลายเป็นเมืองใหญ่ บางแห่งกลายเป็นพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจไปแล้ว
The post บัณฑูร เสนอ 4 แนวทางลดความเหลื่อมล้ำในไทย พร้อมเสนอแนวทาง Green Economy appeared first on #beartai.
นายบัณฑูร ล่ำซำ ไวยาวัจกร วัดบวรนิเวศวิหารและวัดญาณสังวราราม กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘อนาคตประเทศไทยบนความไม่แน่นอน’ บนเวที THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2022 โดยได้เสนอวิธีการที่จะช่วยให้ไทยได้เข้าสู่ Green Economy มีทางเดียว คือการเพิ่มต้นไม้เพื่อให้ดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ เพราะแม้ว่าคนจะพยายามรณรงค์การรักษาป่ามากแค่ไหน แต่ปัจจุ พื้นที่ป่าก็หายไปเยอะมากแล้ว บางแห่งกลายเป็นเมืองใหญ่ บางแห่งกลายเป็นพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจไปแล้ว
ทั้งนี้ นายบัณฑูร ได้ยกตัวอย่างความผิดพลาดที่เกิดขึ้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งเดิมทีมีพื้นที่ 85% ของจังหวัด ราว 6.4 ล้านไร่ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำชั้น 1 ของประเทศไทย และถูกประกาศเป็นป่าสงวนตั้งแต่ปี 2507 แต่ในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้บริหาร ทำให้ป่าหายไป 1.8 ล้านไร่ หรือ 28% ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว เรื่องนี้แก้คนเดียวไม่ได้ ขณะเดียวกัน แม้แต่ละบริษัทจะมีกาประกาศ แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน Environment, Social, และ Governance หรือ ESG แต่ในการปฏิบัติเชื่อว่าไม่มีรายใดที่ที่ลงมาใส่ใจในรายละเอียดทำให้ภาพใหญ่เราสามารถทำสำเร็จได้ยาก
ประเด็นต่อมาคือการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย โดยตนเองต้องการเสนอ 4 หลักที่ต้องเร่งแก้ไข เรียงจากความง่ายไปยาก ได้แก่
การเก็บภาษีอย่างทั่วถึง โดยต้องเก็บให้หมดทุกด้านที่ควรเก็บ แต่จะเก็บเท่าไร เก็บอย่างไร ผู้มีอำนาจต้องไปตกลงและหารือกันในการประชุมสภา
ช่วยให้สู้กันได้ หรือเกิดความแข่งขันที่เท่าเทียม (ทั้งที่รู้ว่าสู้ไม่ได้) โดยเฉพาะเร่งช่วยเหลือกลุ่ม SMEs ที่ไม่มีทุน ไม่มีความรู้ ให้ต่อสู้กับบริษัทรายใหญ่ แม้ไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างไร แต่ต้องทำ เพื่อให้เกิดการแข่งขัน รัฐบาลต้องลอง
อะไรที่จำนวนจำกัดต้องมีการจำกัด ไม่ให้ใครเอาไปหมด โดยเฉพาทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดคือ ที่ดิน เพราะมีจำนวนจำกัด จึงต้องจำกัดจำนวนการถือครอง แต่จะมีวิธีการอย่างไร ผู้มีอำนาจต้องไปตกลงและหารือกันในการประชุมสภา
คนทำผิดเหมือนกัน รับโทษเหมือนกัน เพื่อแก้ความเหลื่อมล้ำในหัวใจประชาชน ซึ่งจะได้ผลทันที เพราะผู้ที่มีเงินร้อยบาทกับผู้มีร้อยล้านบาทก็ซื้อระบบยุติธรรมไม่ได้
นอกจากนี้ ถ้าไทยจะมองถึงเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และมีขีดความสามารถทางการแข่งขันก็จะต้องมีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ควรมีผู้สนับสนุนผู้ประกอบการ และทำอย่างจริงจัง ส่วนการใช้นโยบายแจกเงินแม้จะทำได้ในยามที่ฉุกเฉินดังเช่นในช่วงการระบาดของโควิด19 แต่ก็ในที่สุดเงินก็จะมีไม่พอแจก ท้ายที่สุดเศรษฐกิจก็ไม่ฟื้นตัวในระยะยาว ผู้ที่เป็นรัฐบาลจะต้องคิดให้มากและหาทางให้ประชาชนยืนบนขาของตัวเองได้ในระยะยาวด้วย
The post บัณฑูร เสนอ 4 แนวทางลดความเหลื่อมล้ำในไทย พร้อมเสนอแนวทาง Green Economy appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/