หลายคนคงทราบกันแล้วว่าเมื่อคืนมีงาน Apple Event ทุก ๆ ปีก็จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากแอปเปิ้ลมาดูรายละเอียดกันดีกว่าว่าแอปเปิ้ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง
The post สรุปงานเปิดตัว iPhone 14, 14 Pro, Apple Watch 8, AirPods Pro 2 appeared first on #beartai.
หลายคนคงทราบกันแล้วว่าเมื่อคืนมีงาน Apple Event ทุก ๆ ปีก็จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากแอปเปิ้ล (Apple) มาดูรายละเอียดกันดีกว่าว่าแอปเปิ้ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง
Apple Watch Series 8
หน้าตาเหมือน Series 7 เดิมที่เคยปรับปรุงให้หน้าจอใหญ่ขึ้น มี 2 ขนาดเหมือนเดิมคือ 41 กับ 45 mm จุดที่ใหม่จริง ๆ มีแค่ 2 เรื่องคือ เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิใหม่ และ เซ็นเซอร์ Crash Detection
เริ่มที่เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิใหม่ ทำให้ Apple Watch Series 8 เหมาะกับคุณผู้หญิงมากขึ้นไปอีก เพราะตรวจสอบรอบเดือนได้ดีขึ้น จากการวัดอุณหภูมิ ที่วัดตอนกลางคืน ทำให้คำนวณการตกไข่ได้ ซึ่งมีแจ้งเตือนการตกไข่ได้ที่ iPhone ด้วย แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้เข้ารหัสอย่างดี ไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าถึงได้
ส่วน Crash Detection สามารถตรวจจับการชนของรถและแจ้งเตือนได้ โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวตัวใหม่ที่รองรับการกระแทกและมีความไวในการตรวจจับมากกว่าเดิม ตรวจการชนของรถจากด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และรถคว่ำได้ แล้วติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือ
แบตเตอรี่ 18 ชั่วโมง และมี Low power Mode ทำให้ได้แบต 36 ชั่วโมง
Series 4 รุ่นอลูมิเนียมมีตัวเรือน 4 สีคือ midnight, starlight, silver, (red)ราคาเริ่มต้น 15,900 บาทรุ่นสแตนเลสสตีลมีตัวเรือน 3 สีคือ silver, gold, graphiteราคาเริ่มต้น 27,900 บาท
วันวางขายในไทยรออัปเดตอีกนิด น่าจะไม่นาน แต่ยังไม่มีความสามารถวัด body composition แบบที่ Samsung Galaxy Watch ทำได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
Apple Watch SE 2
รุ่นเล็กสุดที่มีความสามารถพื้นฐานพอสำหรับการใช้งานทั่วไปตรวจ Crash Detection ได้เหมือน Series 8เร็วขึ้น 20% จาก SE ตัวแรก และจอใหญ่ขึ้น 30% จาก Series 3ต่างจาก Watch Series 8 ตรงไม่มีจอ Always-on ที่ติดตลอดหน้าจอเล็กกว่า 20% ในขนาดเดียวกัน คือมี 40 กับ 44 mmวัดออกซิเจนในเลือดไม่ได้ไม่มีการตรวจอุณหภูมิเพื่อคำนวนร่วมกับรอบเดือนไม่รองรับการชาร์จเร็วราคาเริ่มต้น 9,900 บาทเท่านั้น มีตัวเรือน 3 สีคือ midnight, starlight, silver
Apple Watch Ultra
ไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple Watch เจาะกลุ่มผู้ใช้สายผจญภัย Extreme เดินป่า ดำน้ำดีไซน์ใหม่ให้ดูทนทานขึ้นตัวเรือนทำจากไทเทเนียม ด้านหน้าเป็นกระจกแซฟไฟร์แบบเรียบมีปุ่ม Action สีส้มใหม่ พร้อม Digital Crown ใหญ่ขึ้น ปุ่มนูนขึ้น เพื่อให้กดได้แม้ใส่ถุงมือหน้าปัดขนาด 49 mm ใหญ่และสว่างที่สุด (2000 nit) เท่าที่มีใน Apple Watchแบตเตอรี่ 36 ชั่วโมง และจะทำงานได้นานสุด 60 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมดพิเศษ ที่จะอัปเดตตามมามีตัวเลือกหน้าปัดแบบ Wayfinder แสดงข้อมูลสำหรับการเดินเทรล แถมมี Night mode ให้หน้าปัดสีแดงไม่แสบตาเวลาใช้รองรับ GPS แบบ L1+L5 Dual frequency เพื่อให้จับตำแหน่งได้แม่นขึ้น แม้อยู่ในเขตตึกสูงมี backtrack เพื่อย้อนเส้นทางเดินจาก GPS ได้ เผื่อหลงทางกันน้ำระดับ WR100 และผ่านมาตรฐาน EN13319ทนน้ำที่ระดับ 100 เมตรสามารถใช้ Apple Watch Ultra สำหรับการดำน้ำสกูบาเชิงนันทนาการ (ร่วมกับแอปของบริษัทอื่นที่รองรับจาก App Store) ที่ความลึกถึง 40 เมตรและกีฬาทางน้ำความเร็วสูงเมื่อกันน้ำได้ขนาดนี้จึงใช้เป็น Dive Computer ได้ สามารถบอกความลึกใต้น้ำ เตือน Decompress หรือการขึ้นจากน้ำเร็วไป และอื่น ๆ ตามแอปที่ใช้ได้มีไซเรนดังระดับ 86 dB สำหรับการเรียกความช่วยเหลือราคา 31,900 บาท มีแต่รุ่น Cellular อย่างเดียว จะเปิดให้สั่งเร็วๆ นี้
AirPods Pro
ดีไซน์คล้ายรุ่นเดิมมาก ๆ ยังเป็นหูฟังสีขาวที่มีก้านอยู่ใช้ชิป H2 ตัวใหม่ทำให้ประมวลผลเสียงได้มากขึ้นทำให้ระบบตัดเสียงรบกวนเก่งขึ้นกว่ารุ่นเดิม 2 เท่าระบบดึงเสียงภายนอกหรือ Transparency ก็เก่งขึ้น เป็นแบบ Adaptive ที่ปรับระดับตามเสียงภายนอกปรับ EQ ให้เหมาะกับหูเราและสภาพแวดล้อมด้วยใน iOS 16 ใช้กล้องเพื่อจูนเสียงจากรูปร่างหัวและหูได้ส่วนเรื่องเสียง มาพร้อมดอกลำโพงหรือไดรเวอร์ตัวใหม่แบบ High-excursion และ Amp ขยายเสียงช่วงไดนามิกสูงแน่นอนว่ารองรับ Spatial Audio และระบบเสียงติดตามศีรษะด้วยส่วนการสั่งงานใช้การบีบก้าน และลากขึ้นลงเพื่อปรับระดับเสียงเหมือน AirPods 3แบตเตอรี่ 6 ชั่วโมง เพิ่ม 33% จากรุ่นที่แล้ว รวมแล้วได้ 30 ชั่วโมงใช้ Findmy ค้นหาตัวเคสหูฟังได้ และที่เคสมีลำโพงเล็กๆ เพื่อส่งเสียงได้ด้วยแต่ใช้พอร์ตชาร์จเป็น Lightning เหมือนเดิม และรองรับการชาร์จ MagSafeแถมมีช่องคล้องสายให้ด้วยและไม่มีการพูดถึงเรื่อง Hi-Res Audio ไม่มีการพูดถึง Codec เสียงใหม่ราคา 8,990 บาท ขายในไทยเร็วๆ นี้
iPhone 14 และ iPhone 14 Plus
หน้าตาเหมือน iPhone 13 รอยบากก็แบบเดียวกันแต่เครื่องหนาขึ้นจาก 7.65 mm เป็น 7.8 mm เพราะกล้องหลังนูนขึ้นมี 5 สีคือ midnight, starlight, blue, purple, (red)โทนสีปีนี้ของ iPhone 14 มาแบบจืดๆ มีแรงสีเดียวคือแดงส่วน iPhone 14 Plus คือมีหน้าจอ 6.7 นิ้ว จากรุ่นปกติ 6.1 นิ้วชิป A15 ที่ถึงจะเบอร์เดียวกับ iPhone 13 แต่ปรับปรุงขึ้นใช้ GPU 5 แกนจากเดิม 4 แกนทำให้เร็วขึ้น 18%ปรับปรุงระบบระบายความร้อนใหม่ หวังว่าจะเล่นเกมได้ลื่นขึ้นกล้องหลัก 12 ล้านที่เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น มีขนาดพิกเซลเป็น 1.9 ไมครอน f/1.5 พร้อมกันสั่นที่เซ็นเซอร์แบบ iPhone 13 Pro เดิมส่วนกล้องมุมกว้างมากก็เป็น 12 ล้านพิกเซล f/2.4 เหมือนเดิมไฮไลท์ของกล้องใหม่อยู่ที่ระบบการประมวลผลใหม่ที่เรียกว่า Photonic Engineคือนำการประมวลผล Deep fusion ที่รวมพิกเซลที่ดีที่สุดจากหลายค่าแสงไปทำงานตั้งแต่ข้อมูลดิบจากเซ็นเซอร์ทำให้ได้รายละเอียดมากขึ้น ประมวลผลแสงในที่มืดได้ดีขึ้น ภาพสว่างขึ้นซึ่งอาศัยการประมวลผลกว่า 4 ล้านล้านรายการต่อภาพนอกจากนี้แฟลชยังปรับปรุงให้ถ่ายรูปสวยขึ้นด้วยส่วนกล้องหน้า 12 ล้าน f/1.9 ถ่ายแสงน้อยได้ดีขึ้น พร้อม autofocus เป็นครั้งแรก!ถ่ายวิดีโอมี Action Mode ที่ป้องกันภาพสั่นไหวขั้นสุด เหมือนใส่กิมบอลถ่ายส่วน Cinematic Mode ถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ สามารถถ่ายได้ถึง 4K 30 fps แล้วฟีเจอร์ใหม่คือ Crash Detection เหมือน Apple Watch เพราะมีเซ็นเซอร์ใหม่เชื่อมต่อดาวเทียมได้สำหรับการติดต่อฉุกเฉิน เรียกว่า Emergency SOS via satelliteต้องอยู่ใต้ท้องฟ้าที่ไม่มีอะไรบัง โดยการปรับปรุงเสาอากาศใหม่ทำให้ติดต่อกับดาวเทียมได้การเชื่อมต่อได้ทำได้ช่วงสั้นๆ ทำให้ต้องส่งข้อความที่บีบอัด และใช้การติดต่อแบบมีหน้าคำถามและผู้ใช้เลือกคำตอบเพื่อให้ส่งข้อมูลที่ครบถ้วน เร็วที่สุดสามารถแชร์ตำแหน่งเราผ่าน find my ผ่านดาวเทียมได้ใช้ฟรี 2 ปี เริ่มในอเมริกาและแคนาดา ไทยม่ายเกี่ยว
iPhone 14 เริ่มต้น 128 GB ที่ 32,900 บาท (แพงขึ้น 3000 บาท) จอง 9 ก.ย. เริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย.
iPhone 14 Plus เริ่มต้น 128 GB ที่ 37,900 บาท เริ่มวางจำหน่าย 7 ต.ค. แน่นอนว่าเป็น Lightning เหมือนเดิม ข่าวลือไม่เคยผิด
iPhone 14 Pro และ Pro Max
มีความสามารถใหม่ทั้งหมดของ iPhone 14 เช่น Photonic Engine ทำให้ถ่ายรูปกลางคืนดีขึ้น กล้อง Action Mode, Cinematic Mode 4K, กล้องหน้า Auto focus และการเชื่อมต่อดาวเทียมแต่ของว้าวสุดในงานอยู่ตรงนี้ Dynamic Island เปลี่ยนรูกล้องตรงกลางให้แสดงข้อมูลได้ลื่นไหลเปลี่ยนรูปร่างในการแสดงข้อมูลต่างๆ เช่นโนติ face ID เล่นเพลงก็แสดงในช่องนี้ได้ หรือแบตของ AirPods ก็ทำได้ซึ่งเรื่องนี้แทบไม่มีข้อมูลหลุดออกมาเลย ทำให้เห็นของจริงแล้วว้าวมากว่าแอปเปิ้ลคิดเรื่องนี้ได้ที่นอกจากเปลี่ยนบากเป็นแคปซูลแล้ว ยังมีลูกเล่นอีกหน้าจอที่ดีที่สุดของ iPhone ให้ความสว่าง 1600 nit ระดับเดียวกับจอ XDR Display เร่งสูงสุด 2000 nit เมื่ออยู่กลางแดดพร้อม Always-On Display หรือหน้าจอติดตลอดเวลาที่ Android ทำได้มาหลายปีแล้ว ในที่สุดไอโฟนก็ทำได้แน่นอนว่ามาทีหลังก็ต้องทำได้สวยกว่า โดย AOD เป็นแบบที่หรี่แสงจอ ทำให้ยังแสดงรูป Wallpaper ได้ด้วยโดยจอสามารถสามารถทำงานที่ 1 Hz และใช้ Co-Processor ทำงานแทนหน่วยประมวลผลหลัก ทำให้ประหยัดแบตชิปใหม่ A16 Bionicทรานซิสเตอร์ 16,000 ล้านตัว ทำที่ 4 nm เป็น CPU 6 แกน ซึ่ง 2 แกนประสิทธิภาพสูง และ 4 แกนประหยัดพลังงานชิปที่เร็วที่สุดในมือถือ เร็วกว่าคู่แข่ง 40%มี Display Engine เพื่อประมวลผล Dynamic Island และ AODกล้องหลักตัวใหม่ 48 ล้านพิกเซล f/1.78 จากรุ่นเดิม 12 ล้านพิกเซล f/1.5เซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซล จะจับกลุ่มแบบ Quad Pixel 2×2 ทำให้ถ่ายได้รูป 12 ล้านเหมือนเดิมOIS รุ่นที่ 2 พร้อมถ่ายที่แสงน้อยได้ดีขึ้น 2 เท่าซูม 2 เท่าได้ จากการครอปภาพ 48 ล้านพิกเซลเซนเซอร์ใหม่ ทำให้ภาพชัด (และเป็นเทคนิคที่ Android ใช้มาหลายปี) ส่วนซูม 3 เท่าเป็นจากเลนส์เหมือนเดิมProRAW ถ่ายที่ 48 ล้านได้กล้องมุมกว้างมากตัวใหม่ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 ถ่ายแสงน้อยได้ดีขึ้น 3 เท่า และมาโครดีขึ้นด้วยแต่กล้องตัวเก่ารูรับแสงกว้างกว่าคือ f/1.8แฟลชตัวใหม่ ทำให้สว่างขึ้น และครอบคลุมทุกเลนส์มี 4 สีคือ Space Black, Silver, Gold, Deep purple
ราคาเริ่มต้นที่ความจุ 128 GB
iPhone 14 Pro เริ่มต้น 41,900 บาท จอง 9 ก.ย. เริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย.iPhone 14 Pro Max เริ่มต้น 44,900 บาทแพงกว่า iPhone 13 Pro เดิม 3000 บาท!ความจุสูงสุดที่ 1 TB
The post สรุปงานเปิดตัว iPhone 14, 14 Pro, Apple Watch 8, AirPods Pro 2 appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/