ภาพยนตร์ ‘บุพเพสันนิวาส 2’ ได้มีการพูดถึงเรือกลไฟที่มีชื่อว่า ‘เอ็กซ์เพรส’ ซึ่งเป็นเรือกลไฟลำแรกที่แล่นเข้าสู่น่านน้ำสยาม ณ ขณะนั้น สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ชาวสยามเป็นอย่างมาก จนขุนนางสยามคนหนึ่งชื่อ เจ้าพระยาพระคลัง ‘ดิศ บุนนาค’ ถึงกับกล่าวว่า “เรือลำนี้เป็นฝีมือของเทพเจ้า หาใช่มนุษย์ไม่” เรือลำนี้มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์สยามอย่างไร เราจะพาย้อนประวัติศาสตร์ของเรือลำนี้กัน เรือกลไฟ คือ อะไร ก่อนที่เราจะเข้าประวัติศาสตร์ เราขอปูพื้นฐานความเข้าใจเรื่อง การทำงานของเรือในสมัยนั้นเสียก่อน เรือกลไฟ (Steamer) เป็นเรือที่ใช้เครื่องจักรพลังไอน้ำในการขับเคลื่อน แทนการใช้ใบเรือและแรงลม โดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดไอน้ำและขับเคลื่อนมอเตอร์กังหันด้านข้างให้เรือเคลื่อนที่ จุดประสงค์ที่เรือกลไฟถูกใช้แทนที่เรือใบเพราะว่า เรือใบนั้นต้องอาศัย ‘ลมการค้า’ ในการเดินเรือค้าขาย ถ้าไม่มีลมการค้า เรือจะไม่สามารถแล่นไปตามจุดหมายได้ เรือกลไฟจึงเข้ามาแทนที่ แถมแล่นได้เร็วกว่าอีกด้วย เรือกลไฟ เอ็กซ์เพรส มาจากไหน เรือกลไฟเอ็กซ์เพรสเป็นเรือกลไฟสัญชาติอังกฤษ ได้ออกเดินทางจากเมืองท่าลิเวอร์พูล (Liverpool) ประเทศอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2386 ผ่านแหลมกู๊ดโฮปแอฟริกา ต่อไปที่อินเดีย จนถึงสิงคโปร์ ในเดือนธันวาคม ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้น 4 เดือน และเดินทางต่อไปปากแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงบางกอกหรือกรุงเทพมหานครฯ ปัจจุบัน ในเดือนมกราคม ปีถัดมา รวมเวลาเดินเรือทั้งสิ้น เกือบ 5 เดือน ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 3 เรือกลไฟดังกล่าวผู้ที่นำเข้ามาสู่สยาม คือ โรเบิร์ต ฮันเตอร์ (Robert Hunter) ชาวสยามรู้จักกันในนาม ‘นายหันแตร’ พ่อค้าชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเคยทำผลงานอันโดดเด่นจนโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น ‘หลวงอาวุธวิเศษประเทศพาณิช’ โดยมีกัปตันเรือชื่อว่า ปีเตอร์ บราวน์ (Peter Brown) ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ จุดประสงค์การมา การมาของเรือกลไฟเอ็กซ์เพรส มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพสยาม
The post ย้อนประวัติศาสตร์จริงของ เรือกลไฟลำแรกที่เข้าสู่สยาม จาก ‘บุพเพสันนิวาส 2’ appeared first on #beartai.
ภาพยนตร์ ‘บุพเพสันนิวาส 2’ ได้มีการพูดถึงเรือกลไฟที่มีชื่อว่า ‘เอ็กซ์เพรส’ ซึ่งเป็นเรือกลไฟลำแรกที่แล่นเข้าสู่น่านน้ำสยาม ณ ขณะนั้น สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ชาวสยามเป็นอย่างมาก จนขุนนางสยามคนหนึ่งชื่อ เจ้าพระยาพระคลัง ‘ดิศ บุนนาค’ ถึงกับกล่าวว่า “เรือลำนี้เป็นฝีมือของเทพเจ้า หาใช่มนุษย์ไม่” เรือลำนี้มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์สยามอย่างไร เราจะพาย้อนประวัติศาสตร์ของเรือลำนี้กัน
เรือกลไฟ คือ อะไร
ภาพวาด เรือกลไฟ
ก่อนที่เราจะเข้าประวัติศาสตร์ เราขอปูพื้นฐานความเข้าใจเรื่อง การทำงานของเรือในสมัยนั้นเสียก่อน เรือกลไฟ (Steamer) เป็นเรือที่ใช้เครื่องจักรพลังไอน้ำในการขับเคลื่อน แทนการใช้ใบเรือและแรงลม โดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดไอน้ำและขับเคลื่อนมอเตอร์กังหันด้านข้างให้เรือเคลื่อนที่ จุดประสงค์ที่เรือกลไฟถูกใช้แทนที่เรือใบเพราะว่า เรือใบนั้นต้องอาศัย ‘ลมการค้า’ ในการเดินเรือค้าขาย ถ้าไม่มีลมการค้า เรือจะไม่สามารถแล่นไปตามจุดหมายได้ เรือกลไฟจึงเข้ามาแทนที่ แถมแล่นได้เร็วกว่าอีกด้วย
เรือกลไฟ เอ็กซ์เพรส มาจากไหน
เรือกลไฟเอ็กซ์เพรสเป็นเรือกลไฟสัญชาติอังกฤษ ได้ออกเดินทางจากเมืองท่าลิเวอร์พูล (Liverpool) ประเทศอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2386 ผ่านแหลมกู๊ดโฮปแอฟริกา ต่อไปที่อินเดีย จนถึงสิงคโปร์ ในเดือนธันวาคม ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้น 4 เดือน และเดินทางต่อไปปากแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงบางกอกหรือกรุงเทพมหานครฯ ปัจจุบัน ในเดือนมกราคม ปีถัดมา รวมเวลาเดินเรือทั้งสิ้น เกือบ 5 เดือน ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 3
เรือกลไฟดังกล่าวผู้ที่นำเข้ามาสู่สยาม คือ โรเบิร์ต ฮันเตอร์ (Robert Hunter) ชาวสยามรู้จักกันในนาม ‘นายหันแตร’ พ่อค้าชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเคยทำผลงานอันโดดเด่นจนโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น ‘หลวงอาวุธวิเศษประเทศพาณิช’ โดยมีกัปตันเรือชื่อว่า ปีเตอร์ บราวน์ (Peter Brown) ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้
ภาพที่เชื่อว่าเป็น โรเบิร์ต ฮันเตอร์
จุดประสงค์การมา
การมาของเรือกลไฟเอ็กซ์เพรส มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพสยาม ตามประสงค์ของรัชกาลที่ 3 เนื่องจาก ขณะนั้น สยามกำลังมีความขัดแย้งกับชาติอาณานิคมอย่างฝรั่งเศส ในเรื่องข้อพิพาท ‘ดินแดนโคชินไชนา’ หรือเขมร ซึ่งมูลเหตุมาจากการชิงความเป็นใหญ่เหนือดินแดนดังกล่าว รัชกาลที่ 3 ต้องการเสริมเแสนยานุภาพให้กับกองทัพ จึงสั่งซื้อเรือกลไฟ, ปืนนับร้อยกระบอก และปืนครก จากฮันเตอร์
เรือกลไฟเอ็กซ์เพรส จากเรื่อง บุพเพสันนิวาส ๒
แต่เมื่อรัชกาลที่ 3 ทรงทอดพระเนตรเห็นเรือกลไฟลำดังกล่าว ทรงตรัสอย่างเปิดเผยว่า “ราคาที่ฮันเตอร์เสนอขายไว้ถึงห้าหมื่นดอลลาร์แพงเกินไปสำหรับเรือเก่า ๆ ขึ้นสนิมเช่นนั้น”
อาจเป็นเพราะว่าเรือกลไฟมาช้ากว่ากำหนด และความขัดแย้งกับอาณานิคมฝรั่งเศสกำลังดีขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้เรือกลไฟ สุดท้ายรัฐบาลก็ไม่ได้ซื้อ
ความขัดแย้งระหว่าง ฮันเตอร์ กับ รัฐบาลสยาม
แต่นั่นยังไม่จบฮันเตอร์รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของรัฐบาลสยาม ถึงขั้นขู่จะยิงวังหลวงด้วยซ้ำ แต่รัฐบาลสยามก็ไม่สนใจ จนวันหนึ่ง ฮันเตอร์อยากฉลองวันเกิดให้กัปตันบราวน์จึงขออนุญาตยิงปืนใหญ่เป็นการเฉลิมฉลอง ซึ่งรัฐบาลสยามมองว่าเป็นอุบาย จึงออกคำสั่งไม่อนุญาตคำขอดังกล่าว
จากนั้น รัฐบาลสยามจึงออกอุบายเพื่อจับกุมทั้งสอง โดยเชิญฮันเตอร์และกัปตันบราวน์เข้าวังเพื่อเจรจาบางอย่าง แต่นั่นเป็นกับดัก รัฐบาลสยามจับกุมทั้งสองและตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าจะให้ปล่อยตัวต้องส่งดินปืนที่ครอบครองไว้ทั้งหมด เป็นการการันตีว่าพวกเขาจะไม่สามารถขู่ได้อีก จนสุดท้ายก็ยอมส่งดินปืนให้ รัฐบาลสยามก็รักษาคำพูดและปล่อยตัวไป
พระบรมมหาราชวัง ในช่วงรัชกาลที่ 3
ฮันเตอร์ก็ยังไม่จบ (อีกแล้ว) หลังจากปล่อยตัวเขาขู่รัฐบาลสยามต่อว่าเขาจะขายเรือกลไฟลำนี้ให้แก่อาณานิคมฝรั่งเศส และขอร้องให้รัฐบาลอังกฤษส่งเรือรบมาถล่มสยาม ทำให้รัชกาลที่ 3 ทรงเคลือบแคลงใจเป็นอย่างมาก
ฮันเตอร์จึงถูกเนรเทศให้ออกไปจากแผ่นดินสยาม แต่รัฐบาลสยามเองก็ไม่ชะล่าใจ สั่งให้เสริมป้องกันป้อมปืนทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หากอังกฤษประกาศสงครามจริงตามที่ฮันเตอร์ขู่ไว้
ถึงแม้รัฐบาลอังกฤษไม่ได้ทำตามสิ่งที่ฮันเตอร์ร้องขอไป แต่เขาก็ขายเรือลำนั้นและปืนทั้งหมดให้อาณานิคมฝรั่งเศสไปจริง ๆ ในราคาที่เคยเสนอไว้ตั้งแต่ตอนแรก
ก็จบกันไปแล้วสำหรับเรื่องราวเรือกลไฟลำแรกที่เข้าสู่สยาม จะเห็นได้ว่าประวัติศาสตร์นั้นเป็นสิ่งที่น่าศึกษา ทำความเข้าใจ เพราะการเรียนรู้จากอดีตจะทำให้เราทราบปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง ‘บุพเพสันนิวาส 2’ ก็อิงเรื่องราวมาจากประวัติศาสตร์เช่นกัน โดยเฉพาะตัวเรือกลไฟที่ดูเก่าสนิมขึ้นตามบันทึกเขียนไว้จริง ๆ ถ้าหากใครชื่นชอบประวัติศาสตร์ หนังเรื่องนี้ก็อาจตอบโจทย์คุณได้เช่นกัน
ที่มา : SILPA-MAF1 , SILPA-MAF2 , MARunerThai
The post ย้อนประวัติศาสตร์จริงของ เรือกลไฟลำแรกที่เข้าสู่สยาม จาก ‘บุพเพสันนิวาส 2’ appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/