2021 อีกหนึ่งปีที่วงการเกมยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ซึ่งในหลากหลายเกมที่ออกมาก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมชนิดที่ว่า Thailand Game Show คงไม่สามารถเพิกเฉยต่อเกมคุณภาพเหล่านั้นได้ เราจึงขอเป็นอีกสื่อที่จะมอบรางวัลให้กับผลงานเกมต่าง ๆ ในปีนี้กับ TGS Game Awards 2021 มาดูกันครับว่าจะมีหัวข้อไหน และเกมใดที่เหมาะสมกับรางวัลสาขานั้น ๆ เกมแห่งปี – Metroid Dread เมื่อ Metroid หนึ่งในซีรีส์เกมเก่าแก่ของโลกอายุอานามกว่า 35 ปี ที่ร่วมบัญญัติแนวเกม metroidvania ร่วมกับเกม Castlevania จนฮิตไปทั่วโลก กลับมาอีกครั้งเพื่อสานต่อเนื้อเรื่องที่ค้างไว้เมื่อ 19 ปีก่อน แค่นี้แฟน Metroid ทุกรุ่นก็ใจจดใจจ่อกับ Metroid Dread และเมื่อเกมออกมาจริง Nintendo และ MercurySteam ผู้พัฒนาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งการคงรูปแบบ Metroid ดั่งเดิมแบบ 2 มิติที่มาพร้อมแผนที่ให้สำรวจซับซ้อน ต้องวนเวียนซ้ำในแผนที่เพื่อเก็บไอเท็มอย่างสนุก แต่ก็พัฒนารูปแบบการเล่นให้กลายเป็น Metroid 2 มิติที่ Gameplay เร็วและลื่นไหลมากที่สุด ลืมความงกๆ เงิ่นๆ ของ Samus นางเอกในชุดเกราะจากภาคก่อนๆ ไปได้เลย แถมศัตรูใหม่อย่าง E.M.M.I ที่ต้องหนีลูกเดียวยังสร้างความกดดันให้ต้องควบคุมอย่างคล่องแคล่วเพื่อหลุดพ้นไปให้ได้ และยังจัดเต็มความมันส์กับ Boss Fight นับ 10 ตัวให้ผู้เล่นได้ตาย-เกิด-วนเวียนนับสิบรอบ กว่าจะจับจังหวะการเคลื่อนที่ที่ซับซ้อนของบอสได้ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกราฟิก 3 มิติที่สวยงาม เต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่งพร้อมเปลี่ยนมุมมองเพื่อเล่าเรื่องราวได้ระหว่างเล่นโดยไม่ต้องรอโหลด Metroid Dread จึงเป็นหนึ่งในเกมที่คอเกม
The post TGS Game Awards 2021 ไทยแลนด์เกมโชว์ขอมอบรางวัลเกมประจำปี! appeared first on #beartai.
2021 อีกหนึ่งปีที่วงการเกมยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ซึ่งในหลากหลายเกมที่ออกมาก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมชนิดที่ว่า Thailand Game Show คงไม่สามารถเพิกเฉยต่อเกมคุณภาพเหล่านั้นได้ เราจึงขอเป็นอีกสื่อที่จะมอบรางวัลให้กับผลงานเกมต่าง ๆ ในปีนี้กับ TGS Game Awards 2021 มาดูกันครับว่าจะมีหัวข้อไหน และเกมใดที่เหมาะสมกับรางวัลสาขานั้น ๆ
เกมแห่งปี – Metroid Dread
เมื่อ Metroid หนึ่งในซีรีส์เกมเก่าแก่ของโลกอายุอานามกว่า 35 ปี ที่ร่วมบัญญัติแนวเกม metroidvania ร่วมกับเกม Castlevania จนฮิตไปทั่วโลก กลับมาอีกครั้งเพื่อสานต่อเนื้อเรื่องที่ค้างไว้เมื่อ 19 ปีก่อน แค่นี้แฟน Metroid ทุกรุ่นก็ใจจดใจจ่อกับ Metroid Dread และเมื่อเกมออกมาจริง Nintendo และ MercurySteam ผู้พัฒนาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งการคงรูปแบบ Metroid ดั่งเดิมแบบ 2 มิติที่มาพร้อมแผนที่ให้สำรวจซับซ้อน ต้องวนเวียนซ้ำในแผนที่เพื่อเก็บไอเท็มอย่างสนุก แต่ก็พัฒนารูปแบบการเล่นให้กลายเป็น Metroid 2 มิติที่ Gameplay เร็วและลื่นไหลมากที่สุด ลืมความงกๆ เงิ่นๆ ของ Samus นางเอกในชุดเกราะจากภาคก่อนๆ ไปได้เลย
แถมศัตรูใหม่อย่าง E.M.M.I ที่ต้องหนีลูกเดียวยังสร้างความกดดันให้ต้องควบคุมอย่างคล่องแคล่วเพื่อหลุดพ้นไปให้ได้ และยังจัดเต็มความมันส์กับ Boss Fight นับ 10 ตัวให้ผู้เล่นได้ตาย-เกิด-วนเวียนนับสิบรอบ กว่าจะจับจังหวะการเคลื่อนที่ที่ซับซ้อนของบอสได้ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกราฟิก 3 มิติที่สวยงาม เต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่งพร้อมเปลี่ยนมุมมองเพื่อเล่าเรื่องราวได้ระหว่างเล่นโดยไม่ต้องรอโหลด Metroid Dread จึงเป็นหนึ่งในเกมที่คอเกม Action-Platformer ควรได้ลองเล่นสักครั้ง
ควรค่าแก่การกล่าวถึง – Resident Evil Village
นี่คือเกมภาคที่พบกันคนละครึ่งทางอย่างสมมาตร ระหว่างการนำองค์ประกอบต่าง ๆ ที่พลิกวงการเกมหรือแม้กระทั่งซีรีส์ของตัวเองอย่าง Resident Evil 4 หลอมรวมกับ Resident Evil 7 ภาคที่ใช้มุมมองการเล่นแบบ FPS ที่สานฝันไอเดียตั้งต้นของซีรีส์ให้เป็นจริง จนถ่ายทอดคอนเซ็ปต์แรกเริ่ม “ความสยองขวัญที่ต่อกรได้” โดยสมบูรณ์แบบ
Resident Evil Village นำเสนอภาพรวมของเกมออกมาในรูปแบบ Action Survival ที่ทุกการตายของศัตรูจะเป็นการต่อยอดชีวิตของผู้เล่น ผ่านการดรอปไอเทมวัตถุดิบที่ใช้ในการคราฟต์ออกมาเป็นไอเทมต่าง ๆ หรือเงินที่นำไปพัฒนาตัวละครให้แข็งแกร่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน หลากหลายจังหวะของเกมก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้ทักษะการเอาตัวรอด ที่การสวนกลับเพื่อแค่ให้ศัตรูชะงัก หรือแม้การหลบหนีหัวซุกหัวซุน เป็นทางเลือกตามสไตล์ Survival Horror (โดยเฉพาะความยากระดับ Village of Shadows ที่จะขูดรีดสกิลการเอาตัวรอดของคุณ บอกเลยว่าถ้ายังไม่จบเกมความยากอื่นก่อน อย่าได้ซ่า เตือนแล้วนะ!)
ศัตรูในภาคนี้ก็ยังให้ความรู้สึกอันตรายทั้งจากดีไซน์ภายนอกและความสามารถที่แม้แต่ศัตรูตัวแรกของเกมอย่างไลแคน ที่ทั้งรวดเร็ว รุนแรง โจมตีผู้เล่นได้ทั้งระยะใกล้และไกล หากประมาท ก็นู่นรีสตาร์ท (ในความยาก Village of Shadows ตอนเจอมันครั้งแรกผู้เขียนยังต้องใช้กลิทช์ของเกมรีบไปเก็บคีย์ไอเทมเพื่อให้มันหายไปอ่ะคิดดู หรือมันกลัวครีมหนีบเหล็กวะ…) ส่วนระบบการพัฒนาตัวละคร กับการล่านก ล่าหมู ล่าปลา ที่เคยถูกครหาในตอนแรกว่าก๊อป Far Cry หรอ? สุดท้ายพอออกมาจริง ๆ ก็เป็นระบบ Progression ที่ลื่นไหลเป็นเนื้อเดียวกับเกมเพลย์สไตล์ Resident Evil ที่ต้องวกกลับไปที่เดิมแต่มีจุดหมายใหม่ หรือแม้แต่การบอกเล่าทางอ้อมผ่านความสามารถตัวละครก็มีเรื่องราวมาสนับสนุนอย่างสมเหตุสมผล (อีธาน วินเทอร์สแทคติคัลรีโหลดได้นี่คือโคตรว้าว ลีออน กับ คริส สนามแดง ในภาคเก่ามันยังรีโหลดธรรมดาเลยคิดดู!)
ปิดท้ายด้วยเนื้อเรื่องที่เป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่ด้วยการตรงเข้าประเด็นเดินเป็นเส้นตรง แต่ยังคงวางปมและจุดเชื่อมโยงไปยังภาคเก่า ๆ พร้อมการปรากฎตัวในบทบาทที่น่าเกรงขามของคริส เรดฟิลด์ ตัวละครอันรักยิ่งตลอดมาของแฟน ๆ และเปิดทางให้กับความเป็นไปได้ในเนื้อเรื่องของจักรวาล Resident Evil ต่อไป
เกมหน้าใหม่แห่งปี – It Takes Two
เอาจริง ๆ ทีมพัฒนาอินดี้ Hazelight Studios ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่แล้วในหมู่เกมเมอร์ จากผลงานเกม Co-op ฮิตเงียบอย่าง A Way Out แต่ในปีนี้พวกเขาก็ยังสามารถเซอไพรส์เกมเมอร์แบบตั้งตัวไม่ติดได้อีกครั้งกับ It Takes Two เกมสุดอินดี้ที่บังคับให้ต้องมีคนเล่นด้วยกัน 2 คนตลอดทั้งแคมเปญ ซึ่งทีมพัฒนาก็ใจป๋าให้เกมเมอร์ซื้อแค่คนเดียวแล้วค่อยเรียกเพื่อนอีกคนมาเล่นได้ฟรี ๆ ทั้งเกมด้วยนะ!
และถึงแม้เกมนี้จะเป็นเกมอินดี้ที่ไม่ได้มีทุนหนาอะไร แต่ทีมพัฒนาเขาเก็บงานเนี้ยบจนดูไม่ออกด้วยซ้ำว่านี่ไม่ใช่เกมระดับ AAA ที่สำคัญเกมยังอัดแน่นไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์โดยหลักฐานที่เห็นได้ชัดของจุดนี้ก็คือการที่แนวเกมของ It Takes Two จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แทบจะทุกครึ่งชั่วโมง เรียกว่าเกมนี้มีแทบจะครบหมดทุกแนว ทั้งเกมกระโดด ๆ ไปมาแบบแพลตฟอร์มเมอร์ แนวยิงต่อสู้ศัตรูแบบ Third Person Shooter แนวแอ็คชันแฟนตาซีตีมอน แม้แต่แนวต่อสู้แบบสตรีทไฟเตอร์ก็ยังมีอะคิดดู ซึ่งเกมเพลย์เหล่านี้ยังค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นแบบให้ผู้เล่นช่วยกันมากขึ้น เข้ากับเรื่องราวความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาในเกมอีกด้วย
เกมแอ็กชันแห่งปี – DEATHLOOP
ถึงจะสร้างกระแสได้ไม่มากในช่วงเปิดตัว แต่ก็สามารถสร้างความประทับใจหลังวางขายได้ไม่น้อย นี่คืออีกหนึ่งเกมคุณภาพจากทีม Arcane Studios ผู้สร้าง Dishonored 2 ที่ได้รับรางวัลเกมแอ็กชันยอดเยี่ยมในปี 2016 ซึ่งใน DEATHLOOP นั้น ถึงแม้จะมีเซตติงใน ยุค 60s แต่ระบบคอมแบตต่าง ๆ ของเกมนี้ก็ได้นำความดีความชอบจากเกมเก่า ๆ มาพัฒนาและเพิ่มตัวเลือกให้ผู้เล่นได้สนุกมากขึ้นเช่นกัน และนอกจากระบบเกมเพลย์แล้ว เอกลักษณ์ของตัวละครต่าง ๆ ในเกมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สามารถทำให้การก่อวินาศกรรมนั้นกลายเป็นเรื่องสนุกขำขันเลยก็ว่าได้
แต่ช้าก่อน! ถึงแม้ตัวเกมจะมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำออกมาดีก็ตาม ถูกต้องที่ DEATHLOOP นั้นมีปัญหาเรื่อง Denovo ที่ส่งผลทำให้เกมทำงานได้ไม่เต็มที่ และไหนจะความฉลาดของบอตที่…ค่อนข้างจะโง่หน่อย ๆ แน่นอนว่าใครที่เล่น Day One จะต้องลืมไม่ลงอย่างแน่นอน แต่ทางทีมงานก็ไม่หวั่นที่จะได้แก้ปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด แล้วก็ได้ทำอย่างสำเร็จหลังจากอัปเดตตัวเกมด้วยแพตช์ล่าสุดในวันที่ 19 พฤศจิกายน ซึ่งหากใครที่ยังไม่กล้าตัดสินใจลองเล่นเพราะปัญหาจากอดีตของเกมแล้วล่ะก็ ผมเองก็บอกได้ว่าถ้าไม่ลองเองก็ไม่รู้! แต่ถ้าได้ลองแล้วบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง 100%
เกม RPG แห่งปี – Shin Megami Tensei V
ในที่สุด Shin Megami Tensei V ก็ได้วางขายในปี 2021 กันสักที หลังจากเฝ้ารอกันมานานมาก ๆ หลังจากภาค 4 ขายไปในปี 2013 ก็เรียกได้ว่า 8 ปีเต็ม ๆ ที่แฟน ๆ Original Shin Megami Tensei ต้องเฝ้ารอ โดยในภาคนี้ยังคงความ “ยาก” แบบเดิมเอาไว้ เพิ่มเติมคือการกลับมาของระบบเดิม ที่ในภาค 4 ตัดทิ้งไป นิยามของเกมนี้ คือ Dark Souls ของ JRPG ถ้าไม่แน่จริง ก็กลับไปจุด Save ได้ง่าย ๆ ถ้าพลาดมาและไม่ได้ขยัน Save เอาไว้ก่อนละก็ บอกลาชั่วโมงที่เล่นมาได้เลย เนื้อเรื่องในภาคนี้จะพูดถึงสงครามระหว่างพระเจ้าและปีศาจ ในโตเกียวแบบ Post-Apocalyptic ที่จะได้แรงบัลดาลใจมาจาก SMT 3 Nocturne เต็ม ๆ โดยใครที่เป็นแฟน ๆ เกมดั้งเดิมอยู่แล้วต้องถูกใจ ส่วนผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ว่าจะมาจาก Persona หรือเกมเมอร์สาย JRPG ทั้งหลาย ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะนี่คือสุดยอดเกม RPG ประจำปี 2021 ที่คุณคงหาประสบการณ์แบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
เกมอินดี้แห่งปี – Kena: Bridge of Spirits
เชื่อว่าใครหลายคนที่เห็นเทรลเลอร์เกมนี้ครั้งแรกก็น่าจะคิดว่าเป็นเกม AAA จากสักค่ายบิ๊กเนม แต่ขอโทษที! นี่คือเกมอินดี้ ที่กระทำการใหญ่ด้วยใจที่เกินตัว รีดประสิทธิภาพของ Unreal Engine 4 จนหยดสุดท้าย โมเดลตัวละคร, พื้นผิว, สิ่งของ, เอฟเฟกต์, แสงและเงา การออกแบบฉากที่มีละเอียดสวยงามทำออกมาอย่างดีมาก ส่วนเกมเพลย์ที่แม้จะไม่มีมีอะไรซับซ้อน แต่ต้องออกปากชมในเรื่องความเนี๊ยบของท่วงท่าและการบังคับที่จะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขั้นเมื่อได้ต่อสู้กับศัตรูในเกมที่ต้องอาศัยทักษะการบังคับของผู้เล่นรวมไปถึงการบริหารน้อง Rot ที่เป็นได้ทั้งตัวช่วยในการต่อสู้ และแก้ไข Puzzle ก็ถูกดีไซน์การใช้งานมาได้สร้างสรรค์
เนื้อเรื่องยอดเยี่ยมแห่งปี – Marvel’s Guardian of the Galaxy
ถ้าคุณเคยดูเวอร์ชันภาพยนตร์ Marvel’s Guardians of the Galaxy จะให้กลิ่นอายที่คล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะการเลี้ยงผู้เล่นด้วยสรรพสิ่งความเอนเตอร์เทน เช่น ความตลก แอ็กชันบ้าดีเดือด ป๊อปคัลเจอร์ที่เห็นแล้วจะร้องโอ้โหดักแก่ชัด ๆ หรือแม้แต่การผสมชนโรงกันของสมาชิกที่อุปนิสัยต่างกันสุดขั้วแต่มีปมที่เหมือนกัน ผ่านพล็อตเรื่องที่แตกต่างออกไป แต่ด้วยความที่เกมสามารถใช้ Play Time หรือช่วงเวลาในการเล่นบอกเล่ามิติของตัวละคร และความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ เติบโตตลอดการเดินทาง ไปจนถึงสัดส่วนในการบอกเล่างเรื่องราวของฝั่งวายร้าย ที่ในท้ายที่สุด ทุกปม ทุกความขัดแย้ง และความสนิทสนมของตัวละคร จะถูกกลายสภาพเป็นเรื่องราวบทส่งท้ายของเกมที่ซึ้งใจ และถ้าใครอ่อนไหวง่าย ๆ ระวังน้ำตาแตกนะจะบอกให้
The post TGS Game Awards 2021 ไทยแลนด์เกมโชว์ขอมอบรางวัลเกมประจำปี! appeared first on #beartai.
Credit ข่าวจาก : www.beartai.com/