วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา
พระนาม “ภูมิพลอดุลเดช”
หลักจากที่รัชกาลที่ ๙ ประสูติได้ไม่ถึง ๓ ชั่วโมง สมเด็จพระบรมราชชนกทรงรีบส่งโทรเลขถวายสมเด็จพระพันวัสสาฯ ว่า “…ลูกชายเกิดเช้านี้ สบายดีทั้งสอง ขอพระราชทานนามทางโทรเลขด้วย…”
สมเด็จพระพันวัสสาฯ เสด็จไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ และทรงมีลายพระหัตถ์ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๔๗๐ เมื่อสมเด็จย่า ด้รับพระราชทานพระนามทางโทรเลขแล้ว โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า “…Your son’s name is Bhumibala Aduladeja…” ทำให้สมเด็จย่า ทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า “ภูมิบาล” จึงได้สะกดภาษาอังกฤษในสูติบัตรว่า “Bhumibal”
จะสังเกตได้ว่าคำว่า “อดุลเดช” (ไม่มี ย ยักษ์) นั้นสะกดไม่เหมือนกับในสมัยปัจจุบันซึ่งเขียนว่า “อดุลยเดช” (มี ย ยักษ์) อันที่จริงพระนามรัชกาลที่ ๙ เริ่มเขียน “อดุลเดช” (ไม่มี ย ยักษ์) แต่ต่อมาได้เขียนทั้ง ๒ แบบกลับไปกลับมา และในที่สุดก็นิยมใช้แบบที่ ๒ คืิอ “อดุลยเดช” (มี ย ยักษ์) มาจนถึงปัจจุบัน
พระนามรัชกาลที่ ๙ มาจากพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่า “มหิดลอดุลยเดช” รวมถึงรัชกาลที่ ๘ ด้วย
พระนามรัชกาลที่ ๘ อานันท + (มหิดล)
พระนามรัชกาลที่ ๙ ภูมิพล + (อดุลยเดช)
พระนาม “ภูมิพลอดุลเดช” มีความหมายว่า
คำว่า “ภูมิพล” มาจาก ภูมิ+พล
“ภูมิ” หมายความว่า “แผ่นดิน”
“พล” หมายความว่า “พลัง”
รวมกันแล้วหมายถึง “พลังแห่งแผ่นดิน”
คำว่า “อดุลยเดช” มาจาก อดุลย+เดช
“อดุลย” หมายความว่า “ไม่อาจเทียบได้”
“เดช” หมายความว่า “อำนาจ”
รวมกันแล้วหมายถึง “อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้”
(Feed generated with FetchRSS)
Link : Read More
Tags : #ประวัติศาสตร์ #เกร็ดความรู้ #เรื่องเล่า