ขุนคลังเร่งเครื่องอัดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจโค้งท้าย คาดไตรมาส 4 นี้มีเม็ดเงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาท ทั้งงบประมาณปี’65-งบฯลงทุนรัฐวิสาหกิจ-เงินกู้จาก พ.ร.ก. 2 ฉบับ เร่งชง ครม.ไฟเขียวเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯปี’65 วงเงินรายจ่าย 3.1 ล้านล้านบาทแบบฟรอนต์โหลด ฟาก สคร.งัดไม้แข็งบี้รัฐวิสาหกิจเบิกงบฯลงทุน 95% ตีกรอบ “ปรับลดงบฯลงทุนไม่เกิน 5%” ลั่นถ้าเกินเจอหักคะแนนประเมินโบนัส
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ (ต.ค.-ธ.ค. 2564) กระทรวงการคลังประเมินว่าจะสามารถอัดฉีดเม็ดเงินจากงบประมาณเงินกู้และรายจ่ายลงทุนรัฐวิสาหกิจเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้รวม ๆ กว่า 1.26 ล้านล้านบาท
ซึ่งแบ่งออกเป็นรายจ่ายจากงบประมาณปี 2565 ทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนรวมกว่า 8.94 แสนล้านบาท ขณะที่เป็นรายจ่ายเหลื่อมปีจากปีก่อนอีกราว 8.4 หมื่นล้านบาท ด้านรายจ่ายลงทุนรัฐวิสาหกิจคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ที่กว่า 7.7 หมื่นล้านบาท
ส่วนเงินกู้จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท) คาดว่าจะเบิกจ่ายอีกกว่า 1.16 แสนล้านบาท และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท) เบิกจ่ายอีกกว่า 8.9 หมื่นล้านบาท
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาครัฐที่ในปีงบประมาณ 2565 มีวงเงินรายจ่ายทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท โดยจะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการเร่งรัดเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ (ฟรอนต์โหลด) เพื่อให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธาน
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง
โดย รมว.คลังได้ฝากให้ สคร.กำกับดูแลการเบิกจ่ายงบฯลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ 2565 ให้เป็นไปตามแผน ซึ่ง สคร.ได้รายงานที่ประชุมว่าจะมีมาตรการพิเศษเพื่อให้การเบิกจ่ายงบฯลงทุนเป็นไปตามแผน และมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจตามนโยบายที่รัฐบาลตั้งไว้ว่าไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่ายงบฯลงทุนจำนวน 314,486 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณนี้จะเข้มงวดในเรื่องการปรับแผนการลงทุนระหว่างปีของรัฐวิสาหกิจ โดยจะกำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่ปรับแผนการลงทุนระหว่างปีเกิน 5% ต้องถูกหักคะแนนการประเมินผลในด้านการเบิกจ่ายงบฯลงทุน ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาให้โบนัสในช่วงปลายปี ยกเว้นกรณีเหตุสุดวิสัยทาง สคร.จะกำหนดให้รัฐวิสาหกิจปรับแผนการลงทุนได้เฉพาะในช่วงไตรมาสแรกเท่านั้น จากในอดีตที่ผ่านมารัฐวิสาหกิจสามารถปรับแผนการลงทุนระหว่างปีได้ถึงเดือน ก.ย.
“จะกำหนดไม่ให้รัฐวิสาหกิจปรับแผนระหว่างปีเกิน 5% ถ้าเกิน สคร.ก็จะหักคะแนน เพราะหากไม่ทำแบบนี้รัฐวิสาหกิจจะไม่เร่งรีบในการเบิกจ่าย และเมื่อรัฐวิสาหกิจทำไม่ได้ตามแผนที่ระบุไว้ระหว่างปีก็จะไปขอปรับแผนจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อีก ดังนั้น เราก็ขอความร่วมมือด้วยว่าถ้ารัฐวิสาหกิจจะปรับแผน จะต้องทำตั้งแต่ไตรมาสแรกเท่านั้น” นางปานทิพย์กล่าว
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ สคร.กล่าวด้วยว่า จะใช้กลไกในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฯลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ด้วยการแจ้งผู้แทนกระทรวงการคลังที่นั่งอยู่ในคณะกรรมการ (บอร์ด) รัฐวิสาหกิจให้ช่วยกำกับและติดตามการเบิกจ่าย โดยจะใช้บทบาทการเป็นผู้ถือหุ้นของกระทรวงการคลังให้เป็นประโยชน์
อ่านข่าวต้นฉบับ: คลังชง ครม.เร่งเบิกจ่าย Q4 อัดเงิน 1.2 ล้านล้านบาท
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน