ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง จากความกังวลสถานการณ์โควิดในประเทศ ผอ.ศปก.ศบค.หวั่นอาจเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอก 4 ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.04/06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/6) ที่ระดับ 32.08/10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (29/6) ที่ระดับ 32.03/05 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
โดยนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เฟดอาจจำเป็นต้องเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์อย่างเร็วที่สุดในปีนี้ เพื่อเปิดทางให้เฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปลายปีหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะต้องปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ และอัตราเงินเฟ้อจะต้องอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะเฟดจะพิจารณาอย่างจริงจังเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565
สำหรับเลขเศรษฐกิจ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐปรับตัวขึ้น 14.6% ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปีจากระดับ 13.3% ในเดือน มี.ค.
นอกจากนี้ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 127.3 ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือน ก.พ. 2563 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 119.0
สำหรับปัจจัยในประเทศ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,786 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศอยู่ที่ 259,301 ราย โดยมียอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 2,023 ราย
โดยผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ยอมรับว่าอาจเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอก 4 เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้าสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็ว ถึงแม้จะมีการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.98-32.06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.04/06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (30/6) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1904/06 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (29/6) ที่ระดับ 1.1911/13 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
โดยความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจยูโรโซนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 21 ปีในเดือน มิ.ย. เนื่องจากโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องได้สนับสนุนให้มีการเปิดเศรษฐกิจในหลายประเทศ หลังคณะกรรมาธิการยุโรป เปิดผยในวันอังคาร (29/6) ว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 117.9 ในเดือน มิ.ย. จาก 14.5 ในเดือน พ.ค. ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1890-1.1905 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1890/92 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (30/6) เปิดตลาดที่ระดับ 110.57/60 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (29/6) ที่ระดับ 110.52/55 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. ปรับตัวลง 5.9% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และบรรดาผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมได้พากันปรับลดการผลิต อันเป็นผลมาจากปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลก
ข้อมูลของกระทรวงยังระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลงนั้น ถือเป็นการปรับตัวลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ดิ่งลง 10.5% ในเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งแรกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 110.45-110.55 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 110.51/53 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตร (30/6), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในเขตชิคาโก (30/6), ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขายเดือนต่อเดือน (30/6), จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน (1/6), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (1/6), รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนต่อเดือน (2/6), การจ้างงานนอกภาคเกษตร (2/6) และอัตราการว่างงาน (2/6)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.25/+0.40 สตางค์/ดอลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +5.0/+8.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
อ่านข่าวต้นฉบับ: เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง กังวลสถานการณ์โควิดในประเทศ
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน