ทำความรู้จัก บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL เข้าซื้อขายในตลาด mai วันที่ 30 ก.ย.
วันที่ 29 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะเพิ่มหลักทรัพย์เข้ามาซื้อขาย จำนวน 2 บริษัท ในวันที่ 30 กันยายนนี้ หนึ่งในนั้นคือ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL
โดย CPANEL จะเข้าซื้อขายในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับ ตลท. 150 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท) จำนวนหุ้น IPO 39.5 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป 35.55 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย (ESOP) จำนวน 3.95 ล้านหุ้น ราคา IPO (บาท) 6.00 ตามรายงานของตลาด mai
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ CPANEL ซึ่งในการเสนอขายหุ้น IPO เมื่อวันที่ 21-23 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
CPANEL คืออะไร ?
บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL) คือผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) สำหรับงานก่อสร้างทุกประเภท ภายใต้เครื่องหมายการค้า “CPanel”
นอกจากการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด บริษัทยังเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนการผลิต โดยมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ขั้นตอนการผลิต และขั้นตอนการจัดส่ง
แนวคิดในการก่อตั้ง CPANEL
เส้นทางเศรษฐี รายงานว่า ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในธุรกิจก่อสร้าง “ชาคริต ทีปกรสุขเกษม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) มองว่า ในอนาคตต้องมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมก่อสร้างใหม่ ๆ เข้ามาแทนแรงงานคนแน่นอน เพราะนับวันแรงงานยิ่งหายาก และค่าแรงยิ่งเพิ่มขึ้น จึงได้หันมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังนานกว่า 2 ปี
กระทั่งได้ข้อสรุปว่าจะผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูป โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automatic ซึ่งมีความทันสมัยและได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ไม่ใช่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ระยะเวลาการพัฒนาสินค้าของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่ตลาดนั้นสั้นที่สุด ในต้นทุนที่ดีที่สุด และเพื่อให้บ้านที่มีคุณภาพที่สุด
“สมัยก่อนลูกค้ากลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ จะเข้าใจว่า Precast มีกระบวนการที่ยาก ใช้เวลาอย่างน้อย 8 เดือน กว่าจะได้บ้านหลังแรก หลังจากที่ผมเปิดโรงงานมา ลูกค้ารายแรก ๆ ใช้เวลาแค่ 90 วัน ตอนนี้เหลือ 45-60 วัน และที่เคยทำให้เร็วที่สุดอยู่ที่ 25 วัน หลังจบราคา (แบบที่ไม่เคยมีการสร้างบ้านแบบนั้นๆ เลย) ลูกค้าก็มีโครงสร้างบ้านหลังแรกพร้อมทำงานระบบและงานสถาปัตย์แล้ว ยังไม่นับว่าหากมีการก่อสร้างต่อเนื่อง เฉพาะโครงสร้างบ้านลูกค้า สามารถลดเวลาในส่วนโครงสร้างบ้านได้ถึง 80%” ผู้บริหารซีแพนเนลกล่าวและว่า
นอกจากความรวดเร็วแล้ว ยังสามารถลดแรงงานได้ประมาณ 90% คือถ้าจะผลิตบ้าน 2 ชั้นให้ได้ 300 หลัง เฉพาะในส่วนของงานโครงสร้างการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน (conventional) ใช้คนประมาณ 1,000 คน ระยะเวลาก่อสร้าง 60 วัน/หลัง Precast แบบ manual ใช้คนประมาณ 700 คน ผลิตไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง ระยะเวลาติดตั้ง 10 วัน/หลัง Precast แบบ Automatic ใช้คนประมาณ 100-200 คน ผลิตไม่เกิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลาติดตั้ง 7 วัน/หลัง
Business model ของ CPANEL
“Business model ของ CPANEL คือ Experience and Words of Mouth เน้นการสร้างประสบการณ์การใช้ Precast ของลูกค้า ใช้แล้วต้องมีคำสั่งซื้อซ้ำและต่อเนื่อง มีการบอกต่อ ซึ่งทำให้ฐานลูกค้าของ CPANEL ขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ
“ในฐานะเจ้าของกิจการ ผมต้องการสร้างวัฒนธรรมให้พนักงานพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้เป็นคนที่เก่งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถคุยงานกับพนักงานของ CPANEL ได้ทุกคน ให้พนักงานทุกคนมีมาตรฐานเดียวกันหมด” ชาคริตกล่าว พร้อมอธิบายเสริมว่า
“CPANEL มีความเป็นไชนิสแฟมิลี่ค่อนข้างมาก ผมพยายามทำให้พนักงานรู้สึกว่าสามารถฝากชีวิตกับเราได้ ถ้าอยู่กับผมต้องมีความเป็นมืออาชีพ ต้องทำงานเป๊ะ ผมมีการวางแผนอาชีพให้พนักงาน มีแนวทางการเติบโตในสายอาชีพ ทักษะอะไรที่ควรมีก็หาคนมาเทรนนิ่ง รวมถึงดูจุดอ่อนจุดแข็งของพนักงานด้วย เพื่อสนับสนุนให้เขามีพัฒนาการที่ดีกว่าเดิม”
ผลตอบรับจากลูกค้า
ชาคริตเล่าว่า ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ลูกค้าให้ความเชื่อใจ ไว้วางใจ มากขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันมีลูกค้าหลายแห่งที่ปฏิบัติกับบริษัทเหมือนเป็นหนึ่งในทีมของเขา
“ทีม CPANEL จะนั่งทำงานคู่กับทีมออกแบบของลูกค้า เพื่อช่วยลดต้นทุนตั้งแต่เริ่มคิดโปรเจ็กต์ อีกเรื่องคือลักษณะการสั่งซื้อของลูกค้า ส่วนใหญ่เลือก CPANEL อยู่แล้ว แต่ก็มีบางรายที่ลูกค้าต้องซื้อของเจ้าอื่นด้วยเพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะไม่อยากผูกขาดไว้กับรายเดียว ซึ่ง CPANEL เป็น Supplier รายแรกที่ลูกค้าไว้วางใจเลือกใช้ เราขอให้เราได้นั่งในตำแหน่ง Preferred Partner”
เป้าหมายการระดมทุน
ชาคริต กล่าวว่า การระดมทุนจะส่งผลให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตได้ตามกรอบเวลาที่ทางบริษัทวางไว้
“ภายหลังการระดมทุน บริษัทพร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ด้วยระบบการผลิต Fully Automated ที่มีกำลังการผลิต 720,000 ตร.ม. ต่อปี หรือเท่ากับกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 เท่าตัว เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต รวมถึงชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักสำรองต่าง ๆ”
ด้าน นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เผยว่า ภายหลังการระดมทุน CPANEL จะสามารถสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และความพร้อมในการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความต้องการ Precast Concrete มีแนวโน้มสูงขึ้น จากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
รวมถึงข้อกฎหมายที่กำหนดจำนวนแรงงานในพื้นที่ก่อสร้าง โดย CPANEL ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสากล เชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต
“ชาคริต ทีปกรสุขเกษม” ผู้ก่อตั้ง
“ชาคริต” เป็นลูกชายคนเล็กของ “ประทีป ทีปกรสุขเกษม” ผู้ปลุกปั้น บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่เกี่ยวข้องงานสาธารณูปโภคอย่างครบวงจร จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ตั้งแต่ปี 2526
“ชาคริต” ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ สืบทอดกิจการครอบครัว เมื่อ 30 ธันวาคม 2549 หรือประมาณ 3 ปี หลังจากบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เส้นทางเศรษฐีเล่าภูมิหลังของ “ชาคริต” ไว้ว่า เขาเติบโตขึ้นจากการเลี้ยงดูแบบคนจีนโบราณ ที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ผ่านความยากลำบาก จึงสั่งสอนให้ลูก ๆ ประหยัด ขยัน และอดทน
“ในส่วนของการทำธุรกิจ คุณพ่อสอนว่า ไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหน การได้เป็นเจ้าแรกของธุรกิจนั้น จะทำให้เราอยู่ในจุดที่ได้เปรียบเสมอ ไม่เพียงแค่นั้น เรายังต้องตั้งเป้าหมายให้สูงและสามารถต่อยอดธุรกิจได้ ทำให้จากธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ เติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้” ชาคริตกล่าว
เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการเงินและการธนาคาร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “ชาคริต” ออกแสวงหาประสบการณ์ด้านการเงินในหลากหลายรูปแบบ โดยในช่วงเริ่มต้นการทำงาน ได้ร่วมงานกับหน่วยงานด้านการเงินหลายแห่ง เช่น ธนาคารดีบีเอสไทยธนุ องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) โดยระหว่างนั้นต้องช่วยดูแลธุรกิจบางส่วนของครอบครัวด้วย
“ชาคริต” เผยว่า เมื่อได้ทำงานแล้ว รู้สึกว่าสิ่งที่เรียนมายังไม่เพียงพอ จึงไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา คว้าปริญญาโทจาก 2 สาขา ทั้งด้านการบริหารการจัดการการผลิต และการบริหารระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งทำให้มุมมองการทำงานของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขายังได้นำสิ่งที่เรียนไปประยุกต์ใช้ สร้างการเปลี่ยนแปลงตามแผนกต่าง ๆ
“การทำธุรกิจและการบริหารจะเกิดผลสำเร็จได้ ต้องผนวกทั้งวิธีการคิด การปฏิบัติอย่างถูกต้อง และการควบคุมที่มีประสิทธิภาพเข้าด้วยกัน การขายสินค้าใด ๆ ก็แล้วแต่ ต้องตอบโจทย์ แก้ปัญหาของลูกค้าในราคาที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้ การดำเนินงานต่าง ๆ จึงจะเกิดเป็นผลสำเร็จ” ชาคริตกล่าว
หลังดูแลกิจการครอบครัวมาหลายปี “ชาคริต” ตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งของบริษัท เมื่อปี 2556 เพื่อร่วมกับหุ้นส่วนก่อตั้งบริษัทของตัวเอง
อ่านข่าวต้นฉบับ: รู้จัก CPANEL เตรียมเทรด mai พรุ่งนี้ (30 ก.ย.)
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน