“ทริสเรทติ้ง” ปรับลดอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ “MBK” เป็น “A-” จาก “A” แนวโน้ม “Stable” หลังธุรกิจศูนย์การค้า “เอ็มบีเค เซ็นเตอร์” ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดอย่างหนัก
วันที่ 4 กันยายน 2564 ทริสเรทติ้ง แจ้งปรับลดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A-” จากเดิมที่ระดับ “A” โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยการลดอันดับเครดิตในครั้งนี้ สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่อ่อนตัวลงจากสาเหตุของการแพร่ระบาดที่ยาวนานของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19)
โดยผลการดำเนินงานของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างมากและโอกาสในการฟื้นตัวก็ล่าช้าไปจากที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดรอบใหม่และการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า ในขณะที่ระยะเวลาในการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ต้องขยายออกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดยังคงพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อุปสงค์ของผู้บริโภคภายในประเทศยังคงชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวยังคงสะท้อนถึงแหล่งรายได้จากธุรกิจที่หลากหลายและความยืดหยุ่นทางการเงินที่เข้มแข็งของบริษัทตลอดจนการมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกลุ่มธนชาต
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งศูนย์การค้าที่สร้างรายได้หลักคือ “เอ็มบีเค เซ็นเตอร์” ซึ่งพึ่งพาลูกค้าชาวต่างชาติอย่างมาก บริษัทได้ยกเว้นค่าเช่าให้แก่ผู้เช่าในช่วงที่ต้องปิดศูนย์การค้าตามคำสั่งรัฐบาลและยังให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เช่าโดยการให้ส่วนลดค่าเช่าในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาด
นอกจากนี้ มาตรการจำกัดการเดินทางและการปิดเมือง (Lockdown) ยังส่งผลให้ผลการดำเนินงานของโรงแรมของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมากอีกด้วย ซึ่งส่งผลให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทปรับตัวลง 24% ในปี 2563 และคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกที่ระดับ 20% ในปี 2564 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วจะอ่อนตัวต่อไปโดยจะอยู่ที่ระดับประมาณ 8-9 เท่าในปี 2564 เมื่อเทียบกับระดับ 6.9 เท่าในปี 2563
ซึ่งการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของบริษัทล่าช้ากว่าที่ทริสเรทติ้งได้ประมาณการไว้ในครั้งที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ประมาณการล่าสุดของทริสเรทติ้งคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปี 2565 และปี 2566 โดยภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าการแพร่ระบาดในปัจจุบันจะได้รับการควบคุมจนบรรเทาลงได้เป็นส่วนใหญ่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เมื่อหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกได้ทำการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่แล้ว
ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตที่อัตราประมาณ 25% และ 10% ในปี 2565 และในปี 2566 ตามลำดับ
อ่านข่าวต้นฉบับ: ทริส หั่นเรตติ้ง “MBK” เป็น A- พิษโควิดลากยาวกระทบผลดำเนินงาน
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน