ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบในกรอบ 1,590-1,610 จุด กลยุทธ์ลงทุนคง “ทยอยสะสม” หุ้นเปิดเมือง-ชะลอลงทุนส่งออกจากเงินบาทพลิกแข็งค่าสุดในเอเชีย-จับตา ศบค.ผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 1 วันศุกร์นี้ หวังผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศทรงตัวต่ำ-หลังจบงาน Thailand Focus 2021 จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
วันที่ 26 สิงหาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า หลังวานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,600 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่การระบาดระลอก 4 นำโดยหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มเปิดเมืองกับพลังงาน ขณะที่ภายในประเทศมีความคืบหน้าแผนการคลาย Lockdown และเปิดเมืองที่จะนำเข้าที่ประชุมใหญ่ ศบค. ในวันที่ 27 ส.ค. 64 หลังผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศทรงตัวต่ำกว่า 20,000 ราย และงาน Thailand Focus 2021 ที่คาดว่าหลังจบงานจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยได้
แต่วันนี้คาดว่า SET Index แกว่งตัวแคบลงออกข้างในกรอบระหว่าง 1,590-1,610 จุด เนื่องจากมองว่านักลงทุนจะลดสถานะเพื่อรอถ้อยแกลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการประชุมที่ Jackson Hole ศุกร์นี้ กลยุทธ์การลงทุนยังคงให้ “ทยอยสะสม” หุ้นเปิดเมือง และชะลอการลงทุนหุ้นกลุ่มส่งออกจากเงินบาทที่พลิกแข็งค่าที่สุดในเอเชียสัปดาห์นี้
สำหรับแผนของกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ศุกร์นี้ พิจารณาผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และทยอยเปิดกิจการกิจกรรมต่าง ๆ ระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1 ก.ย. 64 เป็นต้นไป
– ร้านอาหารให้กลับมานั่งทานได้ 50%, ธุรกิจตกแต่งบ้าน, ร้านจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ไอที, ร้านนวดแผนไทย (เฉพาะนวดฝาเท้า) และคลินิกด้านทันตกรรม
ส่วนระยะที่ 2 (15 ก.ย. 64) และระยะที่ 3 (30 ก.ย. 64) จะทยอยเปิดกิจการ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น อาทิ โรงภาพยนตร์, สถานออกกำลังกาย (ยิม, ฟิตเนส) สปา เป็นต้น ทางฝ่ายวิจัยมองว่าเป็น Sentiment บวกต่อตลาดและจะขยายเพดาน Upside ของ SET Index ได้ หากแต่ต้องจับตาทีละระยะ เนื่องจากผู้ติดเชื้อในประเทศและผู้เสียชีวิตยังทรงตัวในระดับสูง และทุกกิจการ กิจกรรมที่เปิด จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งการตรวจหาเชื้อด้วย ATK หรือแบบปกติอาจต้องทำถี่ขึ้นเป็นรายสัปดาห์
นอกจากนี้ในระยะแรก ที่ประชาชนยังได้รับวัคซีนไม่ครบโดสหรือยังไม่มี Digital Health Pass อาจเข้าใช้บริการได้น้อยกว่าคาด ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยยังคาดหวังการเร่งตัวขึ้นของการกระจายวัคซีนในพื้นที่ต่าง ๆ ให้เกิน 70% จึงจะผ่อนคลายแต่ละระยะได้ตามเป้าก่อนนำไปสู่การเปิดเมืองอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4
ขณะที่ค่าเงินบาทไทยสัปดาห์นี้พลิกกลับมาแข็งค่าที่สุดในเอเชียกว่า 1.79% ตอบรับปัจจัย COVID-19 ในประเทศดีขึ้นและความหวังเปิดเมืองกลับมา จึงต้องระวังความเสี่ยงในกลุ่มส่งออกและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้อาจเผชิญแรงขายทำกำไรออกมา ทั้งนี้หากผลการประชุม Fed มีความคืบหน้าการทำ QE Tapering ทิศทาง Fund Flow จะไหลกลับสหรัฐอีกครั้ง เงินบาทอาจจะกลับไปอ่อนค่าเชิงเปรียบเทียบ ดังนั้น ในระยะสั้นแม้เงินบาทแข็งค่าแต่ทางฝ่ายวิจัยยังไม่แนะนำให้ลงทุนในกลุ่มบาทแข็ง เนื่องจากระยะกลางและยาวทิศทางยังอยู่ฝั่งอ่อนค่า จากทั้งเศรษฐกิจที่อาจฟื้นตัวได้ช้าและดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลมากกว่าคาดต่อเนื่อง
อ่านข่าวต้นฉบับ: หุ้นไทยรอผลประชุม FED แกว่งแคบ 1,590-1,610 จุด จับตา ศบค.ผ่อนคลายมาตรการ
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวการเงิน #การเงินการลงทุน