กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกโซเชียล เมื่อย้อนไปดูสถานการณ์ราคาขายปลีกน้ำมันของไทย ล่าสุดในเดือนกันยายน 2564 มีการปรับราคาไป 6 ครั้ง ทำให้ราคาขายปลีกสูงกว่าปีก่อนเท่าตัว
วันที่ 5 ตุลาคม 2564 “ประชาชาติธุรกิจ” ได้เปรียบเทียบ ราคาขายปลีกน้ำมัน วันที่ 30 ก.ย. 2564 กับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า ราคาเฉลี่ยประมาณ ปรับขึ้นไปแล้ว เกือบ 10 บาทต่อลิตร (ตาราง) อาทิ ราคากลุ่มดีเซล ปรับขึ้นเฉลี่ย 9.7 บาทต่อลิตร เช่น ดีเซล B7 จากลิตรละ 21.58 บาท ปรับเป็น ลิตรละ 31.29 บาท ขณะที่กลุ่มเบนซิน ปรับขึ้นเฉลี่ย 8.9 บาทต่อลิตร เช่น เบนซิน จากลิตรละ 29.66 บาท ปรับเป็น 38.56 บาท
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่ม ประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนที่เฉลี่ย 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
โดยล่าสุดหลังที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัส เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564ที่ผ่านมา ‘คงมติ’ การปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวันสำหรับเดือน พ.ย.64 ทำให้แนวโน้มราคาส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ยังมีสัญญาณปรับขึ้นต่อ
ข้อมูล บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 5 ตุลาคม 2564 ว่าสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี เมื่อ (4 ต.ค.) ขานรับ มติโอเปคพลัส
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 เหรียญสหรัฐ หรือ 2.3% ปิดที่ 77.62 สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 11 พ.ย. 2557
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 81.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2561
ขณะที่ บมจ.ปตท วิเคราะห์ว่า ทางเทคนิคราคาน้ำมัน ICE Brent ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 76 – 83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
โดยปัจจัยลบที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบ มาจาก ข้อมูลปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ย. 64 เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 418.5 ล้านบาร์เรล และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. 64 เพิ่มขึ้น 31,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 11.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ขณะที่ Baker Huges รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig Count) ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. 64 เพิ่มขึ้น 7 แท่น จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 428 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63
Kpler รายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของภูมิภาคเอเชียเดือน ก.ย. 64 ลดลง 0.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 31.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากเป็นช่วงเดือนเชื่อมต่อระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว
บริษัท PetroChina และ Hengli Petrochemical ของจีนประมูลซื้อน้ำมันดิบจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ของจีน ปริมาณรวม 4.43 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด จากที่ประเมินแนวโน้มสถานการณ์การใช้และราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่กลุ่มโอเปกควบคุมปริมาณการผลิต
โปให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันรักษาเสถียรภาพเพื่อให้ราคาน้ำมันดีเซลพื้นฐาน (B10) สูงไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ
นำมาสู่มติที่ประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ว่าจะดำเนินการในระยะเบื้องตัน 3 ส่วนคือ 1.การลดค่าการตลาดน้ำมันดีเซล B10 และ B7 จากเฉลี่ย 1.80 บาทต่อลิตร เหลือ1.40 บาท มีผลวันที่ 5 ตุลาคม – 31 ตุลาคม 2564
2.ลดการจัดเก็บเงิน B7 เข้ากองทุนจาก 1.00 บาทต่อลิตร เหลือ 0.01 บาทต่อลิตร มีผลวันที่ 11 ตุลาคม – 31 ตุลาคม 2564 และ 3.ลดการผสมไบโอดีเซล จากB10 และB7 เหลือB6 มีผลวันที่ 11 ตุลาคม – 31 ตุลาคม 2564
ซึ่งคงต้องติดตามหลังจากนี้ว่ากลไกการดูแลพลังงานจะตอบโจทย์ เยียวยาผลกระทบจากราคาที่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายหรือไม่
อ่านข่าวต้นฉบับ: ปี64 อ่วม จ่ายค่าน้ำมันแพงขึ้นเกือบ 10 บาท/ลิตร
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจการค้า