สถาบันวัคซีนแห่งชาติเผยแพร่ข้อมูลความเสี่ยงภาวะหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนโมเดอร์นา-ไฟเซอร์ พร้อมอัพเดตความคืบหน้าการดำเนินการจัดหาวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ของประเทศไทย
วันที่ 30 มิถุนายน 2564 สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยแพร่ข้อมูลเรื่อง ความเสี่ยงภาวะหัวใจอักเสบ ภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA โดยอ้างข้อมูลจาก องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา FDA ได้ออกประกาศ เพิ่มคำเตือนความเสี่ยงของการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) และภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ยากภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด19 ชนิด mRAN (Pfizer และ Moderna)
โดยการเพิ่มคำเตือนดังกล่าวนี้เป็นไปตามมติของคณะผู้เชี่ยวชาญจาก CDC ในการประชุมเพื่อหารือแนวทางปฏิบัติของบุคลากรที่ให้บริการวัคซีนโควิด19 ในวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา
โมเดอร์นา-ไฟเซอร์ กับความเสี่ยงภาวะหัวใจอักเสบ
ข้อมูลของ CDC ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกามีรายงานการเกิด Myocarditis และ Pericarditis ในกลุ่มผู้มีอายุน้อย ที่ได้รับวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA ราว 1,000 ราย ขณะที่มีการฉีดวัคซีนชนิดดังกล่าวแล้วกว่า 100 ล้านโดส โดยมีอัตราการเกิดภาวะหัวใจอักเสบ ภายหลังจากการฉีดวัคซีนชนิก mRNA โดยรวมประมาณ 12.6 รายต่อ 1 ล้านการฉีด
ผู้เชี่ยวชาญของ CDC ได้ติดตามข้อมูลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด พบว่าภาวะที่พบได้ยากนี้มีรายงานมากในเพศชายอายุน้อย (16-39 ปี) โดยมักพบภายหลังการฉีดวัคซีนโดสที่ 2 มากกว่าหลังการฉีดโดสแรก และอาจพบอาการได้ภายหลังจากได้รับวัคซีนแล้วหลายวัน อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับวัคซีนที่มีอาการดังกล่าวสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว เมื่อได้รับการรักษาและมีการพักผ่อนที่เพียงพอ
สำหรับการเฝ้าระวังภาวะ Myocarditis และ Pericarditis ภายหลังการฉีดวัคซีนนั้น ผู้รับวัคซีนควรไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่อิ่ม หรือรู้สึกว่ามีอาการหัวใจเต้นเร็ว หรือหัวใจเต้นแรงหลังฉีดวัคซีน โดยอาการที่เกิดขึ้นมักพบภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ CDC ยังคงมีคำแนะนำให้ผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด19 เนื่องจากประโยชน์ของการฉีดวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงที่ทราบและอาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ FDA และ CDC อยู่ระหว่างติดตามรายงาน เพื่อรวบรวมข้อมูล รวมทั้งติดตามผลเพื่อประเมินผลลัพธ์ของการใช้วัคซีนในระยะยาว และจะมีการเผยแพร่ให้ทราบเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม
โมเดอร์นา-ไฟเซอร์ ต้านทานโควิดได้หลายปี
มติชน รายงานว่า ผลการศึกษาวิจัยโดยมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ศึกษาวิจัยผู้ได้รับการฉีดวัคซีนในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกไปเมื่อ 7 เดือนก่อน โดยนักวิจัยระบุว่า ผู้ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ส่วนใหญ่มั่นใจได้ว่าจะมีภูมิต้านทานต่อโรคโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมได้ยาวนานหลายปี
ดร.อัลลี เอลเลเบดี หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า การตอบสนองของภูมิคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งพบได้ที่ศูนย์กลางเจอร์มินอล ที่อยู่ในต่อมน้ำเหลือง และฝึกฝนแอนติบอดีให้รู้จักการต่อต้านเชื้อไวรัส โดย ดร.เอลเลเบดี ระบุว่า การตอบสนองนั้นจะอยู่นานเป็นเวลาหลายปี
การศึกษาดังกล่าวติดตามกลุ่มตัวอย่างจำนวน 40 คน เป็นเวลา 5 เดือนหลังได้รับวัคซีนไฟเซอร์ และพบว่า ศูนย์กลางเจอร์มินอลยังคงผลิตเซลส์ภูมิคุ้มกันต่อต้านโควิดอยู่ แม้จะเป็นเวลา 15 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนไปเพียงเข็มเดียวก็ตาม และจะสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปี โดยเฉพาะกับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม
ดร.เอลเลเบดี กล่าวอีกว่า วัคซีนป้องกันผู้ฉีดได้จากสายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะป้องกันสายพันธุ์ที่ยังไม่มีการค้นพบได้หรือไม่ และหากมีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมจากนี้การฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติมก็เป็นสิ่งที่แนะนำ
ทั้งนี้ นักวิจัยศึกษาเฉพาะวัคซีนไฟเซอร์ แต่ก็คาดการณ์ไว้ด้วยว่าวัคซีนโมเดอร์นาที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ก็จะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิต้านทานไม่แตกต่างกัน
โมเดอร์นายันกันเดลตาได้
วันที่ 30 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัท โมเดอร์นา อิงก์ ยืนยันว่าวัคซีนบริษัท เมื่อฉีดครบทั้ง 2 โดสจะมีประสิทธิภาพในการสร้างแอนติบอดีต่อต้านสายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อินเดีย ได้
บริษัทยืนยันประสิทธิภาพจากการเก็บข้อมูลเลือดของผู้ที่เข้าร่วมการทดลอง 8 คน หนึ่งสัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีนโดสที่ 2 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังไม่มีการพิจารณาตรวจสอบ (peer review) รวมทั้งยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานจริงอย่างไร
นายสเตฟาน บานเซล ซีอีโอโมเดอร์นาเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะศึกษาโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ๆ เพื่อรวบรวมและแบ่งปันข้อมูล โดยข้อมูลจากการทดลองล่าสุดนี้ แสดงให้เห็นว่าวัคซีนโควิดของโมเดอร์นายังคงมีประสิทธิภาพที่จะสามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิดระหว่างที่สายพันธุ์เดลตากำลังแพร่ระบาด นอกจากนี้ ยังมีการอนุมัติใช้งานวัคซีนโมเดอร์นาที่อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการรายงานพบสายพันธุ์เดลต้าเป็นประเทศแรก
ความคืบหน้าวัคซีนโมเดอร์นาในประเทศไทย
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้กำหนดราคาขายวัคซีนโมเดอร์นาให้แก่ รพ.เอกชน แล้ว
เคาะราคาขายที่โดสละ 1,100 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยรายบุคคล
หลังจากนี้สมาคมโรงพยาบาลเอกชนจะกำหนดราคากลางค่าบริการฉีดที่เป็นอัตราเดียวกันทุกโรงพยาบาลต่อไป
แต่ละ รพ. จะประกาศให้ประชาชนสั่งจองหรือยืนยันการจองอย่างเป็นทางการในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อส่งจำนวนการจองของแต่ละ รพ.ให้กับ อภ.อย่างเป็นทางการ เพื่อดำเนินการจัดสรรให้สอดคล้องกับจำนวนที่ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด นำเข้ามา
บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด จะทยอยจัดส่งให้ในงวดแรกในไตรมาส 4/2564 ประมาณ จำนวน 3.9 ล้านโดส และงวดที่ 2 ในไตรมาสที่ 1/2565 จำนวน 1.1 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายจอห์น แกรมห์ ซีอีโอของ ซิลลิค ฟาร์มา ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จองซื้อวัคซีนโมเดอร์นาเกือบเกลี้ยงแล้วในปีนี้ โดยการสั่งซื้อในปัจจุบันจะเป็นสำหรับปีหน้า
ความคืบหน้าวัคซีนไฟเซอร์ในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. วัคซีนโคเมอร์เนตี (COMIRNATY VACCINE) ซึ่งเป็นวัคซีนของบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด ได้มายื่นขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว โดย บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้ยื่นเอกสารขออนุญาต และ อย. อยู่ระหว่างการประเมินคำขอขึ้นทะเบียน
เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. อยู่ระหว่างการลงนามบันทึกการสั่งซื้อวัคซีน หลังจากนั้นบริษัทฯ จะนำเอกสารมายื่นขอทะเบียนที่ อย. ซึ่งหากเอกสารทุกอย่างไว้ครบหมดแล้ว อย. สามารถอนุมัติได้ภายใน 1 เดือน
วันที่ 23 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลได้สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส และลงนามในเทอมชีท (Term Sheet) ร่วมกันเป็นที่เรียบร้อย แต่ทางบริษัทแจ้งว่าสามารถส่งวัคซีนให้ประเทศไทยได้ในไตรมาส 4
นายอนุทินเผยอีกว่า ยอดการสั่งซื้อ 20 ล้านโดส เป็นยอดที่บริษัทแจ้งว่าจะสามารถจัดสรรให้ประเทศไทยได้ภายในปีนี้ เพราะวัคซีนยังเป็นสิ่งที่ทั่วโลกมีความต้องการสูง และได้พยายามเจรจาเพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์มากที่สุด
ล่าสุดวันนี้ (30 มิ.ย.) นายอนุทิน เผยว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาขั้นสุดท้าย หรือสัญญาซื้อขายกับทางไฟเซอร์ หลังจากคราวก่อนที่เซ็นเทอมชีทหรือหนังสือเหมือนเอ็มโอยู
“แต่ยังมีบางข้อความ ที่สำนักอัยการสูงสุดเร่งตรวจสอบอยู่ เพราะบางข้อความก็รับได้ บางข้อความก็ยังรับไม่ได้ และให้กรมควบคุมโรคเร่งเจรจา อย่างไรก็ตาม ไม่ได้กระทบกับการจัดส่ง เพราะมีข้อกำหนดอยู่ในเทอมชีตที่ระบุว่าจะส่งในไตรมาส 4 เพราะฉะนั้นวัคซีน mRNA ที่ใกล้มือเราที่สุดตอนนี้ คือ ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส และก็ต้องให้กำลังใจคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พัฒนาวัคซีน mRNA ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก คาดหวังว่าจะนำมาใช้ได้ในอนาคตอันใกล้” นายอนุทิน กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับ: โมเดอร์นา ไฟเซอร์ ถึงไทยเมื่อไหร่ ? เสี่ยงหัวใจอักเสบแต่กันโควิดหลายปี ?
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวธุรกิจ #ธุรกิจ-การตลาด