ธุรกิจทวงถามหนี้สินรุ่ง ปัจจัยหนุนโควิดดันยอดหนี้เสียพุ่ง คาดปิดปีโกยรายได้ 800 ล้านบาท ด้านอาร์เอส สบช่องส่งบริษัทในเครือ “เชฎฐ์ เอเชีย” เข้าระดมทุนปี 65 สร้างการเติบโต
วันที่ 29 กันยายน 2564 นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจติดตามและบริหารหนี้สิน NPL กลุ่มบริษัท “เชฎฐ์ เอเชีย” ที่อาร์เอสเข้าลงทุนถือหุ้น 35% ภายใต้งบลงทุน 920 ล้านบาท มีแนโน้มเติบโตได้สูง จากปัจจัยโควิดทั้งตลาด B2B และ B2C
สำหรับตลาด B2B ก็มีโอกาสจากหนี้เสีย NPL ของสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งมีนโยบายขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในปริมาณที่สูง จึงเป็นโอกาสของกลุ่มบริษัทเชฎฐ์ในการเข้าประมูลสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพื่อทำมาบริหารจัดการต่อ และจากบริการติดตามทวงถามหนี้ ซึ่งมีความต้องการจากสถาบันการเงินต่างๆ ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจบริการติดตามทวงถามหนี้เติบโต
ขณะที่ตลาด B2C ผู้บริโภคมีความต้องการแหล่งเงินเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและใช้จ่ายในสภาวะเศรษฐกิจเปราะบาง รวมถึงเพื่อจัดการปัญหาหนี้สินในครัวเรือน
ส่งผลให้ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทเชฎฐ์ สร้างรายได้กว่า 400 ล้านบาท และคาดว่าปิดปี 64 จะสามารถทำรายได้ทะลุ 800 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปอาร์เอสกำลังวางแผน synergy ต่อยอดทางธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ของทั้งสองบริษัทร่วมกัน
ด้านนายประชา ชัยสุวรรณ ประธานกลุ่มบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ปี 64 เป็นปีที่เน้นไปทางด้านการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้แก่องค์กร โดยที่ผ่านมานอกจากการทวงถามหนี้สินแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งในด้านให้คำปรึกษาแก้ปัญหาหนี้สินให้แก่ลูกหนี้ เพื่อผลักดันให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวกลับมาเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ได้อีกครั้ง จึงทำให้กลุ่มบริษัทเชฎฐ์ยังคงมีฐานลูกค้าในทุกด้านเพิ่มยิ่งขึ้น
ประกอบกับความพร้อมทางด้านการเงินจากพาร์ตเนอร์ และสถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาโดยตลอด จึงทำให้เชื่อมั่นว่าจะเห็นการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ อาร์เอส กรุ๊ป ที่ได้สนับสนุนแผนการระดมทุน จำนวน 920 ล้านบาทนั้น
ส่งผลให้บริษัทได้รับการสนับสนุนจากจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม เสริมทัพให้กลุ่มบริษัทเชฎฐ์แข่งขันได้อย่างเต็มศักยภาพในอุตสาหกรรมนี้ สะท้อนโอกาสในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจค่อนข้างมาก ในปัจจุบันจึงมีหนี้ภายใต้การบริหารกว่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% จากปลายปี 2563
นอกจากนี้ หลังจากที่ทางบริษัทได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ กลุ่มบริษัทเชฎฐ์ กำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมทางด้านต่าง ๆ ภายในองค์กร สำหรับการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และยังอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสาร Filing เพื่อยื่นต่อสำนักงาน กลต. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2565 โดยมีกำหนดการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาส 4 ปี 2565
อ่านข่าวต้นฉบับ: RS เล็งดัน “เชฎฐ์ เอเชีย” เข้า IPO ปี65 รับธุรกิจทวงหนี้บูม
Link : Read More
Credit : https://www.prachachat.net
Tags : #ข่าวธุรกิจ #ธุรกิจ-การตลาด